Winter in Teteyama เมืองสีขาวที่มีดีมากกว่ากำแพงหิมะ

17007

เมื่อพูดถึง ” กำแพงหิมะ ”  คนที่คุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นต่างก็รู้จักกันดีว่านี่แหละคือของดีของเมือง ทาเทยามะ  อันแสนโด่งดัง หลาย ๆ คนมีความฝันที่จะไปเยือนกำแพงสูงใหญ่ท่วมหัวนี้สักครั้งหนึ่งให้ได้  และของจริงก็ยิ่งใหญ่สมกับที่เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของญี่ปุ่นจริง ๆ

แต่นอกจากกำแพงหิมะแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยจะรู้จักเมือง Tateyama กันสักเท่าใดนัก เพราะส่วนมากมักจะเยี่ยมชมกำแพงหิมะผ่านทาง Alpine route แล้วก็ผ่านไปยังเมืองต่อไปเลยโดยไม่ได้แวะพักที่นี่

วันนี้เราจึงขอเสนอตัวไปสำรวจให้รู้กันว่าที่นี่นั้นมีอะไรให้เที่ยวบ้าง โดยในครั้งนี้เราจะเน้นเจาะจงเฉพาะสถานที่น่าสนใจในฤดูหนาว ( เดือน มค – มีค ) รับรองว่าสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งนั้นตื่นตา ตื่นใจ และน่าค้นหาสุด ๆ กันไปเลย


Tateyama อยู่ตรงไหนกันหรือ ?

ทาเทยามะตั้งอยู่ในจังหวัด TOYAMA สามารถนั่ง Shinkansen ตรงจากโตเกียวมาได้เลย หรือจะนั่งเครื่องบินก็ได้  จากนั้นจึงต่อรถเข้ามาที่เมืองอีกราว 20-30 นาที

แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้ามาที่ ทาเทยามะ โดยเส้นทาง  Alpine route จากทางจังหวัด Nagano ชมกำแพงหิมะ และจึงเข้ามาที่นี่ แต่ในฤดูหนาวเส้นทาง Alpine route ปิด ทำให้ไม่สามารถเข้ามาทางนี้ได้ ฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมก็แนะนำให้นั่งชินคันเซนไปลงที่ TOYAMA ดีกว่า พอเที่ยวเสร็จเราก็นั่งต่อไปเที่ยว Kanazawa ได้เลย

เส้นทาง Alpine route จากทางขวามือตั้งต้นที่ Nagano ( สถานี Shinano omachi ) ไต่ไปตามภูเขา และมาสุดที่ สถานี Tateyama

มีอะไรให้เที่ยวบ้าง ?

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกำแพงหิมะแล้ว ที่ ทาเทยามะ ยังมีอะไร ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยหลาย ๆ แห่งนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมกันในหมู่ชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยเท่านั้นเอง  ฉะนั้นเราจึงขอนำเสนอ สถานที่และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ใน Tateyama ให้ได้รู้จักกัน

แผนที่ประกอบ จะเห็นว่าที่เที่ยวจะอยู่ระหว่างสถานี Gohyakukoku กับ สถานี ทาเทยามะ โดยทั้งสองสถานีห่างกัน 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ 40 นาที

เที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง Tateyama

ภูเขา Tateyama ที่ตั้งของเมืองนั้น ถือเป็น 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ทำให้บริเวณรอบ ๆ เมืองนี้ีที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาอย่างช้านาน  โดยในเมืองนี้นั้นมีสถานที่ที่ชาวเมืองให้ความเคารพและบูชาอยู่เป็นอย่างมากคือบริเวณ Oyama Jinja ศาลเจ้าเก่าแก่โบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย คศ 700  โดยศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ระหว่างวัดสองวัดคือ Ashikuraji และ Iwakuraji  ถ้าลองเดินสำรวจดูจะพบว่าวัดและศาลเจ้าในบริเวณนี้สภาพแวดล้อมสวยงามเป็นอย่างยิ่งเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางป่า cedar ที่สูงใหญ่และมีอายุนับร้อย ๆ ปี นอกจากจะสวยแล้ว บรรยากาศยังดูขลังและศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าประหลาดใจ

ในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Nunobashi สะพานแดงที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมือง และยังเป็นที่ทำพิธีศักดิ์สิทธิ์อย่างพิธี Nunobashi Kanjou อีกด้วย

ตามความเชื่อของผู้คนแถบนี้นั้น พวกเขานับถือ เทพ Enma ( คล้าย ๆ กับยมบาลในความเชื่อของชาวไทย )  โดยมีพิธีกรรมที่แสดงถึงความเชื่อหลังความตายอย่าง Nunobashi Kanjou ซึ่งจะจัดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นการจำลองภาพหลังความตาย โดยใช้หญิงสาว 300 คนแต่งชุดสีขาว ทำพิธีเดินข้ามสะพานแดง Nunobashi  โดยเทศกาลนี้ไม่ได้จัดขึ้นทุกปี ในช่วงหลังนั้นจัดขึ้นในปี 1996, 2005, 2006, 2009 , 2011 และ 2014  ทำให้ยากที่จะชมและเข้าร่วมพิธี  ถ้าอยากศึกษาประวัติของพิธี ก็ให้ลองเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ Tateyama ที่จำลองเรื่องราวและเขียนอธิบายประวัติความเป็นมาต่าง ๆ เอาไว้อย่างดี

การเดินทาง  จากสถานี ทาเทยามะ ใช้เวลา 10 นาที


ศึกษาประวัติศาตร์สนุก ๆ ที่ Tateyama Museum

พิพิธภัณฑ์ของเมือง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแสนโดดเด่น โดยภายในนั้นจะแบ่งเป็นมุมต่าง ๆ เน้นการเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวิถีชีวิตคนพื้นถิ่น อธิบายลักษณะภูมิประเทศในแถบนี้ให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ด้วยสื่อชนิดต่าง ๆ

จุดที่เราสนใจที่สุดก็คือส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าและพิธีการต่าง ๆ ที่ทำเอาไว้อย่างละเอียด เมื่อรู้เรื่องราวและความเป็นมาแล้วก็ทำให้การเดินชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราสนุกและอินมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

ตัวอาคารเองก็ออกแบบได้อย่างน่าสนใจ และน่าเข้าไปถ่ายรูปเล่นมาก มีมุมเก๋ ๆ สวย ๆ หลายมุมอยู่ ถ้าใครมาเที่ยวที่เมืองนี้ ก็อยากให้ลองเข้าที่นี่เป็นที่แรกดู ถือเป็นการเริ่มต้นท่องเที่ยวภายในตัวเมืองที่ดีเลย

การเดินทาง  จากสถานี ทาเทยามะ ใช้เวลา 10 นาที


ลองอาหารพื้นถิ่นที่อร่อยและไม่เหมือนใคร

ที่เมืองนี้ มีอาหารขึ้นชื่อหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกุ้งขาวที่มีรสชาติดี ปูสด ๆ จากทะเล เนื้อวัวพันธุ์ท้องถิ่นก็อร่อยทีเดียว หรือจะเป็นผักสด ๆ ที่อร่อยสดชื่น  โดยร้านอาหารอร่อย ๆ ก็สามารถหาได้ทั้งบริเวณย่านตัวเมือง และตามโรงแรมต่าง ๆ เช่น Greenpark Yoshimine ที่จะมีชุดอาหารค่ำอร่อย ๆ ให้บริการ  หรือใครอยากจะทดลองเก็บสตอเบอรี่ ที่นี่ก็มีฟาร์มให้ลองเก็บกันด้วยนะ

อาหารพิเศษอีกอย่างของที่นี่ที่แปลกกว่าใครก็คือชุดอาหารท้องถิ่นที่ทำจากผักต่าง ๆ จะคล้าย ๆ กับอาหารเจของบ้านเรา เป็นการรับอาหารที่บริสุทธิ์เข้าไปเพื่อชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยจะประกอบไปด้วยชุดผักต่าง ๆ เช่น หน่อไม้ มันฝรั่ง ข้าว ผักท้องถิ่นดอง  ซุปผัก ฯลฯ สามารถหาชิมได้ที่  Ashikura Furusato Koryu Kan


สนุกกับกิจกรรมหิมะอันหลากหลาย

Tateyama ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีหิมะตกอย่างหนาแน่น ( ที่จริงดูจากที่เที่ยวอย่าง Snow wall ก็พอจะรู้แล้วว่าหิมะตกหนักมากกกก )  ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับหิมะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ที่   Youth outdoor learning center  ใกล้ ๆ สถานี Tateyama นั้น  เราสามารถสนุกกับกิจกรรมหิมะที่หลากหลายได้ในราคามิตรภาพมาก ๆ  แค่คนละไม่กี่ร้อยเยน ( เด็กเข้าฟรี )  กิจกรรมที่จัดให้มีทั้งเดินบนหิมะ สไลด์ลื่นตามรางหิมะ  ห่วงยาง หรือรถลากหิมะ  สนุกได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าใครมากับกลุ่มเพื่อนและต้องการพักค้างคืนก็มีห้องพักแบบ Dorm ให้บริการในราคาประหยัด อาหารการกินก็ไม่ต้องออกไปหาไกลเพราะมีให้บริการในราคาที่ถูกจนแทบไม่น่าเชื่อ ( บุฟเฟ่คนละ 500 เยน )

ข้อเสียเดียวของที่นี่คือไม่มีชุดกันหนาวให้บริการ ทำให้เราต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวต่าง ๆ มาเอง สำหรับคนที่ขับรถก็อาจจะไม่ลำบากนักที่จะหาเช่าจากบริเวณใกล้เคียง แต่ถ้านั่งรถสาธารณะมาก็อาจจะต้องเตรียมมาเองจากประเทศไทย

ไม่ไกลนักราว 5 นาทีจาก  Youth outdoor learning center เป็นที่ตั้งของ Yuki no Kotani  ลานกิจกรรมหิมะอีกแห่งที่เปิดให้บริการฟรี ที่นี่มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทดลองทำหลายอย่าง เช่น Petit snow wall  หรือกำแพงหิมะน้อย  ที่สูงราว 1 -2 เมตร

ที่นี่นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ แล้วเราก็ยังสนุกกับการสร้างตุ๊กตาหิมะหรือคามาคุระจิ๋วได้ด้วย และกิจกรรมพิเศษที่ทำได้เฉพาะที่นี่คือการใช้สีวาดรูปบนหิมะ แต่ระวังหน่อยเพราะเค้าจัดสถานที่ให้เราเล่นกันเฉพาะบริเวณจำกัด อย่าเผลอไปพ่นสีนอกบริเวณที่เตรียมให้ซะล่ะ

ส่วนใครที่อยากชมวิวเมืองหิมะแบบสุดลูกหูลูกตา แนะนำให้ไปที่ Toyama clean center Observation deck  ที่เปิดชั้นบนเป็นที่ชมวิว 360 องศาแบบฟรี ๆ กัน


ลองสร้างของ Handmade ด้วยตัวเอง

ที่ Tounou Kan  เป็นศูนย์เครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ นอกจากจะมีเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีวางจำหน่ายและจัดแสดงแล้ว เรายังสามารถสนุกกับการทดลองปั้นด้วยตัวเองและเก็บเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย โดยมีผุ้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำทุกขั้นตอน ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 เยนเท่านั้น

หรืออย่างที่  Ashikura Furusato Koryu Kan ( ตรงที่เราไปกินอาหารเจกันนั่นแหละ ) เค้าก็มี workshop ทำเครื่องรางง่าย ๆ ให้ทำกันในราคาไม่แพง ใครสนใจก็ติดต่อสอบถามที่นั่นได้เลย


หาของฝากสุดพิเศษ

ของฝากเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็แหม ไปเที่ยวทั้งทีก็อยากจะแบ่งปันความทรงจำดี ๆ ให้คนที่รออยู่ประเทศไทยกันบ้าง  และของฝากที่นี่ ก็น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนเลย

ที่ Shokusai Kouto  เป็นโรงงานผลิตของฝากที่ชื่อว่า Kanmochi หรือเรียกง่าย ๆ ว่า โมจิสำเร็จรูปนั่นเอง โดยลักษณะจะเป็นแผ่นแป้งหลากสีและรสชาติ เมื่อเอาไปเข้าไมโครเวฟเพียง 30 วินาที มันก็จะพองตัวขยายกลายเป็นข้าวเกรียบแสนอร่อยได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหมาะจะเอาไปเป็นของฝาก เพราะเบา ไม่กินที่ แถมอร่อยและแปลกดีด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกทั่วเมือง หรือที่สถานีรถไฟก็มี

และเนื่องจากแถบนี้กุ้งขาว ( กุ้งตัวเล็ก ๆ มีรสชาติดีและจับได้มากมายในบริเวณนี้ )  เป็นของขึ้นชื่อที่โด่งดัง  ที่นี่จึงมีข้าวเกรียบเซมเบ้กุ้งขาวเป็นของฝากขึ้นชื่อ ซึ่งที่ Sasaraya   นอกจากจะเป็นร้านขายเซมเบ้แล้ว เรายังสนุกกับการย่างเซมเบ้เองได้อีกด้วย แน่นอนว่ามีผู้คุมคอยแนะนำอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นรับรองว่าต้องมีไหม้กันบ้างล่ะ

สำหรับที่นี่สินค้าแนะนำของเราก็คือ เซมเบ้ช็อคโก กับเซมเบ้วาซาบิ อร่อยทั้งคู่ เหมาะจะเหมาไปแจกเพื่อนฝูง แต่ถ้าจะกินเอง ณ บัดนั้นเลย ที่ร้านมีไอศกรีมกุ้งขาว แกล้มเซมเบ้ให้ลิ้มลอง รสหวานเค็ม เข้ากันอย่างลงตัวเลย


นอนค้าง แช่ออนเซนดี ๆ สักคืน

กิจกรรมมากมายขนาดนี้ ให้เที่ยววันเดียวคงจะไม่พอ ฉะนั้นหาที่พักดี ๆ นอนสบาย ๆ สักคืนก็จะดีไม่น้อย ที่ Green park Yoshimine  มีที่พักชั้นดีให้บริการพร้อมออนเซน  ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำส่วนตัว ใครจะไปพักต้องแช่ออนเซนเท่านั้น ฉะนั้นอย่าได้อาย ลองแช่ดูสักครั้งรับรองว่าจะติดใจ

ในส่วนของห้องพัก มีบริการห้องแบบญี่ปุ่น เป็นเสื่อทาทามิ ห้องกว้างขวาง มีมุมพักผ่อนเป็นสัดเป็นส่วน แม้จะเปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้วแต่ก็ยังดูสะอาดเรียบร้อย  เหมาะกับการพักผ่อนอย่างที่สุดเลย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.yoshimine.or.jp 

อีกโรงแรมที่ขอแนะนำคือ  Green view  ที่นี่จะเป็นโรงแรมแบบสากล มีห้องแบบ western ให้บริการ เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนเตียง มีห้องอาบน้ำในตัว หรือใครจะไปแช่ออนเซนก็มีให้บริการ  โดยเซทอาหารเย็นที่นี่จะมีเซทปู อิ่มอร่อยกับเมนูปูหลากหลายได้ในมื้อเดียว

ถ้าสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.greenview-t.jp


เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Tateyama ในอีกมุมมองหนึ่ง เห็นไหมว่านอกจาก Snow wall แล้ว ยังมีอะไร ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเลยทีเดียว  ถ้าใครที่ยังไม่มีเป้าหมายในการเดินทางไปญี่ปุ่นในฤดูหน่วล่ะก็ ขอแนะนำที่นี่ เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกเลย เพราะจากตรงนี้ไปก็ยังสามารถไปเที่ยวต่อที่ Tokyo , Kanazawa หรือ Shirakawago ได้ หรือจะต่อไปถึง Osaka เลยก็ทำได้เช่นกัน