เมื่อพูดถึง ” กำแพงหิมะ ” คนที่คุ้นเคยกับประเทศญี่ปุ่นต่างก็รู้จักกันดีว่านี่แหละคือของดีของเมือง ทาเทยามะ อันแสนโด่งดัง หลาย ๆ คนมีความฝันที่จะไปเยือนกำแพงสูงใหญ่ท่วมหัวนี้สักครั้งหนึ่งให้ได้ และของจริงก็ยิ่งใหญ่สมกับที่เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ของญี่ปุ่นจริง ๆ
แต่นอกจากกำแพงหิมะแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่ค่อยจะรู้จักเมือง Tateyama กันสักเท่าใดนัก เพราะส่วนมากมักจะเยี่ยมชมกำแพงหิมะผ่านทาง Alpine route แล้วก็ผ่านไปยังเมืองต่อไปเลยโดยไม่ได้แวะพักที่นี่
วันนี้เราจึงขอเสนอตัวไปสำรวจให้รู้กันว่าที่นี่นั้นมีอะไรให้เที่ยวบ้าง โดยในครั้งนี้เราจะเน้นเจาะจงเฉพาะสถานที่น่าสนใจในฤดูหนาว ( เดือน มค – มีค ) รับรองว่าสถานที่เที่ยวแต่ละแห่งนั้นตื่นตา ตื่นใจ และน่าค้นหาสุด ๆ กันไปเลย
Tateyama อยู่ตรงไหนกันหรือ ?
ทาเทยามะตั้งอยู่ในจังหวัด TOYAMA สามารถนั่ง Shinkansen ตรงจากโตเกียวมาได้เลย หรือจะนั่งเครื่องบินก็ได้ จากนั้นจึงต่อรถเข้ามาที่เมืองอีกราว 20-30 นาที
แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้ามาที่ ทาเทยามะ โดยเส้นทาง Alpine route จากทางจังหวัด Nagano ชมกำแพงหิมะ และจึงเข้ามาที่นี่ แต่ในฤดูหนาวเส้นทาง Alpine route ปิด ทำให้ไม่สามารถเข้ามาทางนี้ได้ ฉะนั้นถ้าจะไปเที่ยวในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมก็แนะนำให้นั่งชินคันเซนไปลงที่ TOYAMA ดีกว่า พอเที่ยวเสร็จเราก็นั่งต่อไปเที่ยว Kanazawa ได้เลย

มีอะไรให้เที่ยวบ้าง ?
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างกำแพงหิมะแล้ว ที่ ทาเทยามะ ยังมีอะไร ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย โดยหลาย ๆ แห่งนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมกันในหมู่ชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว แต่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยเท่านั้นเอง ฉะนั้นเราจึงขอนำเสนอ สถานที่และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้ใน Tateyama ให้ได้รู้จักกัน
แผนที่ประกอบ จะเห็นว่าที่เที่ยวจะอยู่ระหว่างสถานี Gohyakukoku กับ สถานี ทาเทยามะ โดยทั้งสองสถานีห่างกัน 20 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถไฟ 40 นาที
-
เที่ยวสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่ง Tateyama
ภูเขา Tateyama ที่ตั้งของเมืองนั้น ถือเป็น 1 ใน 3 ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น ทำให้บริเวณรอบ ๆ เมืองนี้ีที่ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มาอย่างช้านาน โดยในเมืองนี้นั้นมีสถานที่ที่ชาวเมืองให้ความเคารพและบูชาอยู่เป็นอย่างมากคือบริเวณ Oyama Jinja ศาลเจ้าเก่าแก่โบราณที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย คศ 700 โดยศาลเจ้านั้นตั้งอยู่ระหว่างวัดสองวัดคือ Ashikuraji และ Iwakuraji ถ้าลองเดินสำรวจดูจะพบว่าวัดและศาลเจ้าในบริเวณนี้สภาพแวดล้อมสวยงามเป็นอย่างยิ่งเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางป่า cedar ที่สูงใหญ่และมีอายุนับร้อย ๆ ปี นอกจากจะสวยแล้ว บรรยากาศยังดูขลังและศักดิ์สิทธิ์อย่างน่าประหลาดใจ
ในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Nunobashi สะพานแดงที่เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมือง และยังเป็นที่ทำพิธีศักดิ์สิทธิ์อย่างพิธี Nunobashi Kanjou อีกด้วย
ตามความเชื่อของผู้คนแถบนี้นั้น พวกเขานับถือ เทพ Enma ( คล้าย ๆ กับยมบาลในความเชื่อของชาวไทย ) โดยมีพิธีกรรมที่แสดงถึงความเชื่อหลังความตายอย่าง Nunobashi Kanjou ซึ่งจะจัดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เป็นการจำลองภาพหลังความตาย โดยใช้หญิงสาว 300 คนแต่งชุดสีขาว ทำพิธีเดินข้ามสะพานแดง Nunobashi โดยเทศกาลนี้ไม่ได้จัดขึ้นทุกปี ในช่วงหลังนั้นจัดขึ้นในปี 1996, 2005, 2006, 2009 , 2011 และ 2014 ทำให้ยากที่จะชมและเข้าร่วมพิธี ถ้าอยากศึกษาประวัติของพิธี ก็ให้ลองเข้าชมในพิพิธภัณฑ์ Tateyama ที่จำลองเรื่องราวและเขียนอธิบายประวัติความเป็นมาต่าง ๆ เอาไว้อย่างดี
การเดินทาง จากสถานี ทาเทยามะ ใช้เวลา 10 นาที
ศึกษาประวัติศาตร์สนุก ๆ ที่ Tateyama Museum
พิพิธภัณฑ์ของเมือง ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันแสนโดดเด่น โดยภายในนั้นจะแบ่งเป็นมุมต่าง ๆ เน้นการเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวิถีชีวิตคนพื้นถิ่น อธิบายลักษณะภูมิประเทศในแถบนี้ให้เข้าใจอย่างง่าย ๆ ด้วยสื่อชนิดต่าง ๆ
จุดที่เราสนใจที่สุดก็คือส่วนจัดแสดงเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเทพเจ้าและพิธีการต่าง ๆ ที่ทำเอาไว้อย่างละเอียด เมื่อรู้เรื่องราวและความเป็นมาแล้วก็ทำให้การเดินชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเราสนุกและอินมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
ตัวอาคารเองก็ออกแบบได้อย่างน่าสนใจ และน่าเข้าไปถ่ายรูปเล่นมาก มีมุมเก๋ ๆ สวย ๆ หลายมุมอยู่ ถ้าใครมาเที่ยวที่เมืองนี้ ก็อยากให้ลองเข้าที่นี่เป็นที่แรกดู ถือเป็นการเริ่มต้นท่องเที่ยวภายในตัวเมืองที่ดีเลย
การเดินทาง จากสถานี ทาเทยามะ ใช้เวลา 10 นาที
ลองอาหารพื้นถิ่นที่อร่อยและไม่เหมือนใคร
ที่เมืองนี้ มีอาหารขึ้นชื่อหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกุ้งขาวที่มีรสชาติดี ปูสด ๆ จากทะเล เนื้อวัวพันธุ์ท้องถิ่นก็อร่อยทีเดียว หรือจะเป็นผักสด ๆ ที่อร่อยสดชื่น โดยร้านอาหารอร่อย ๆ ก็สามารถหาได้ทั้งบริเวณย่านตัวเมือง และตามโรงแรมต่าง ๆ เช่น Greenpark Yoshimine ที่จะมีชุดอาหารค่ำอร่อย ๆ ให้บริการ หรือใครอยากจะทดลองเก็บสตอเบอรี่ ที่นี่ก็มีฟาร์มให้ลองเก็บกันด้วยนะ
อาหารพิเศษอีกอย่างของที่นี่ที่แปลกกว่าใครก็คือชุดอาหารท้องถิ่นที่ทำจากผักต่าง ๆ จะคล้าย ๆ กับอาหารเจของบ้านเรา เป็นการรับอาหารที่บริสุทธิ์เข้าไปเพื่อชำระร่างกายและจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยจะประกอบไปด้วยชุดผักต่าง ๆ เช่น หน่อไม้ มันฝรั่ง ข้าว ผักท้องถิ่นดอง ซุปผัก ฯลฯ สามารถหาชิมได้ที่ Ashikura Furusato Koryu Kan
สนุกกับกิจกรรมหิมะอันหลากหลาย
Tateyama ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีหิมะตกอย่างหนาแน่น ( ที่จริงดูจากที่เที่ยวอย่าง Snow wall ก็พอจะรู้แล้วว่าหิมะตกหนักมากกกก ) ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับหิมะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ที่ Youth outdoor learning center ใกล้ ๆ สถานี Tateyama นั้น เราสามารถสนุกกับกิจกรรมหิมะที่หลากหลายได้ในราคามิตรภาพมาก ๆ แค่คนละไม่กี่ร้อยเยน ( เด็กเข้าฟรี ) กิจกรรมที่จัดให้มีทั้งเดินบนหิมะ สไลด์ลื่นตามรางหิมะ ห่วงยาง หรือรถลากหิมะ สนุกได้อย่างเต็มที่ หรือถ้าใครมากับกลุ่มเพื่อนและต้องการพักค้างคืนก็มีห้องพักแบบ Dorm ให้บริการในราคาประหยัด อาหารการกินก็ไม่ต้องออกไปหาไกลเพราะมีให้บริการในราคาที่ถูกจนแทบไม่น่าเชื่อ ( บุฟเฟ่คนละ 500 เยน )
ข้อเสียเดียวของที่นี่คือไม่มีชุดกันหนาวให้บริการ ทำให้เราต้องเตรียมอุปกรณ์กันหนาวต่าง ๆ มาเอง สำหรับคนที่ขับรถก็อาจจะไม่ลำบากนักที่จะหาเช่าจากบริเวณใกล้เคียง แต่ถ้านั่งรถสาธารณะมาก็อาจจะต้องเตรียมมาเองจากประเทศไทย
ไม่ไกลนักราว 5 นาทีจาก Youth outdoor learning center เป็นที่ตั้งของ Yuki no Kotani ลานกิจกรรมหิมะอีกแห่งที่เปิดให้บริการฟรี ที่นี่มีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทดลองทำหลายอย่าง เช่น Petit snow wall หรือกำแพงหิมะน้อย ที่สูงราว 1 -2 เมตร
ที่นี่นอกจากจะมีมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ แล้วเราก็ยังสนุกกับการสร้างตุ๊กตาหิมะหรือคามาคุระจิ๋วได้ด้วย และกิจกรรมพิเศษที่ทำได้เฉพาะที่นี่คือการใช้สีวาดรูปบนหิมะ แต่ระวังหน่อยเพราะเค้าจัดสถานที่ให้เราเล่นกันเฉพาะบริเวณจำกัด อย่าเผลอไปพ่นสีนอกบริเวณที่เตรียมให้ซะล่ะ
ส่วนใครที่อยากชมวิวเมืองหิมะแบบสุดลูกหูลูกตา แนะนำให้ไปที่ Toyama clean center Observation deck ที่เปิดชั้นบนเป็นที่ชมวิว 360 องศาแบบฟรี ๆ กัน
ลองสร้างของ Handmade ด้วยตัวเอง
ที่ Tounou Kan เป็นศูนย์เครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณนี้ นอกจากจะมีเครื่องปั้นดินเผาชั้นดีวางจำหน่ายและจัดแสดงแล้ว เรายังสามารถสนุกกับการทดลองปั้นด้วยตัวเองและเก็บเป็นของที่ระลึกได้อีกด้วย โดยมีผุ้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำทุกขั้นตอน ราคาเริ่มต้นที่ 1,000 เยนเท่านั้น
หรืออย่างที่ Ashikura Furusato Koryu Kan ( ตรงที่เราไปกินอาหารเจกันนั่นแหละ ) เค้าก็มี workshop ทำเครื่องรางง่าย ๆ ให้ทำกันในราคาไม่แพง ใครสนใจก็ติดต่อสอบถามที่นั่นได้เลย
หาของฝากสุดพิเศษ
ของฝากเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็แหม ไปเที่ยวทั้งทีก็อยากจะแบ่งปันความทรงจำดี ๆ ให้คนที่รออยู่ประเทศไทยกันบ้าง และของฝากที่นี่ ก็น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหนเลย
ที่ Shokusai Kouto เป็นโรงงานผลิตของฝากที่ชื่อว่า Kanmochi หรือเรียกง่าย ๆ ว่า โมจิสำเร็จรูปนั่นเอง โดยลักษณะจะเป็นแผ่นแป้งหลากสีและรสชาติ เมื่อเอาไปเข้าไมโครเวฟเพียง 30 วินาที มันก็จะพองตัวขยายกลายเป็นข้าวเกรียบแสนอร่อยได้อย่างน่าอัศจรรย์ เหมาะจะเอาไปเป็นของฝาก เพราะเบา ไม่กินที่ แถมอร่อยและแปลกดีด้วย หาซื้อได้ตามร้านขายของที่ระลึกทั่วเมือง หรือที่สถานีรถไฟก็มี
และเนื่องจากแถบนี้กุ้งขาว ( กุ้งตัวเล็ก ๆ มีรสชาติดีและจับได้มากมายในบริเวณนี้ ) เป็นของขึ้นชื่อที่โด่งดัง ที่นี่จึงมีข้าวเกรียบเซมเบ้กุ้งขาวเป็นของฝากขึ้นชื่อ ซึ่งที่ Sasaraya นอกจากจะเป็นร้านขายเซมเบ้แล้ว เรายังสนุกกับการย่างเซมเบ้เองได้อีกด้วย แน่นอนว่ามีผู้คุมคอยแนะนำอยู่ด้วย ไม่อย่างนั้นรับรองว่าต้องมีไหม้กันบ้างล่ะ
สำหรับที่นี่สินค้าแนะนำของเราก็คือ เซมเบ้ช็อคโก กับเซมเบ้วาซาบิ อร่อยทั้งคู่ เหมาะจะเหมาไปแจกเพื่อนฝูง แต่ถ้าจะกินเอง ณ บัดนั้นเลย ที่ร้านมีไอศกรีมกุ้งขาว แกล้มเซมเบ้ให้ลิ้มลอง รสหวานเค็ม เข้ากันอย่างลงตัวเลย
นอนค้าง แช่ออนเซนดี ๆ สักคืน
กิจกรรมมากมายขนาดนี้ ให้เที่ยววันเดียวคงจะไม่พอ ฉะนั้นหาที่พักดี ๆ นอนสบาย ๆ สักคืนก็จะดีไม่น้อย ที่ Green park Yoshimine มีที่พักชั้นดีให้บริการพร้อมออนเซน ที่นี่ไม่มีห้องอาบน้ำส่วนตัว ใครจะไปพักต้องแช่ออนเซนเท่านั้น ฉะนั้นอย่าได้อาย ลองแช่ดูสักครั้งรับรองว่าจะติดใจ
ในส่วนของห้องพัก มีบริการห้องแบบญี่ปุ่น เป็นเสื่อทาทามิ ห้องกว้างขวาง มีมุมพักผ่อนเป็นสัดเป็นส่วน แม้จะเปิดให้บริการมาระยะหนึ่งแล้วแต่ก็ยังดูสะอาดเรียบร้อย เหมาะกับการพักผ่อนอย่างที่สุดเลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.yoshimine.or.jp
อีกโรงแรมที่ขอแนะนำคือ Green view ที่นี่จะเป็นโรงแรมแบบสากล มีห้องแบบ western ให้บริการ เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนเตียง มีห้องอาบน้ำในตัว หรือใครจะไปแช่ออนเซนก็มีให้บริการ โดยเซทอาหารเย็นที่นี่จะมีเซทปู อิ่มอร่อยกับเมนูปูหลากหลายได้ในมื้อเดียว
ถ้าสนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.greenview-t.jp
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ Tateyama ในอีกมุมมองหนึ่ง เห็นไหมว่านอกจาก Snow wall แล้ว ยังมีอะไร ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายเลยทีเดียว ถ้าใครที่ยังไม่มีเป้าหมายในการเดินทางไปญี่ปุ่นในฤดูหน่วล่ะก็ ขอแนะนำที่นี่ เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกเลย เพราะจากตรงนี้ไปก็ยังสามารถไปเที่ยวต่อที่ Tokyo , Kanazawa หรือ Shirakawago ได้ หรือจะต่อไปถึง Osaka เลยก็ทำได้เช่นกัน