สิงคโปร์ ประเทศเล็ก ๆ ที่อยู่ปลายสุดของแหลมที่เชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ ประเทศที่เหมือนกับจะว่าไปแค่ครั้งเดียวก็คงจะพอ แต่พอไปจริง ๆ แล้วจะรู้ว่าครั้งเดียวก็ไม่พอ
ด้วยความที่สิงคโปร์อยู่ใกล้กับประเทศไทยแค่นิดเดียว บินไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง ทำให้หลาย ๆ คนมักจะมองสิงค์โปร์เป็นตัวเลือกลำดับแรก ๆ หากมีเวลาว่างเพียงแค่ 2 วันในช่วงสุดสัปดาห์
และด้วยความที่ไปง่ายนี่เอง ทำให้นักเดินทางหลายประเภท ต่างก็สามารถไปสิงคโปร์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Backpacker สุดลุย ขาช็อปที่มากับแก๊งค์เพื่อนสาว ครอบครัวที่มากันทั้งบ้าน หรือนักธุรกิจหนุ่มชวนคู่แต่งงานมาโรแมนติคแบบสุดหรูที่เกาะแห่งนี้
ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเที่ยวสิงคโปร์แบบ เล็ก กลาง ใหญ่ จะถูกแบบประหยัดสุด ๆ หรือแพงแบบตาแทบถลนก็ทำได้ มาดูกันเลยว่าการท่องเที่ยวในงบที่คุณกำหนดไว้ เที่ยวอะไรได้บ้าง
BACKPACKER แบบถูกสุด ๆ
ถ้าคุณเป็นนักศึกษาที่เพิ่งจะจบใหม่ หรือกำลังเรียนอยู่ แต่อยากหาประสบการณ์ชีวิตอันล้ำค่า ลองมาดูที่ตัวเลือกนี้ เราสามารถเที่ยวสิงคโปร์แบบประหยัดสุด ๆ ได้ โดยอาจจะต้องยอมลดโปรแกรมการเที่ยวที่เสียเงินแพงซักเล็กน้อย ยอมนอนห้องดอร์มซักหน่อย อาหารก็กินเอาใน HAWKER ที่มีมากมายในตัวเมือง โดยเราสามารถแยกค่าใช้จ่ายพื้นฐานได้ประมาณนี้
ค่าตั๋วเครื่องบิน จอง Low cost ล่วงหน้า 1 ปี 2,500 บาท
ค่าที่นอน Dormที่ Travellers Loft @ Lavender เตียงละ 380 บาท สองคืน 760 บาท ( รวมอาหารเช้า )
ค่าอาหาร ที่ HAWKER เริ่มต้นจานละ 3 เหรียญ ( 75 บาท ) เฉลี่ยวันละ 200 บาท สามวัน 600 บาท
ถ้าอยากรู้กินอะไรดีเข้าไปดูที่นี่เลย
ค่าเดินทาง รถไฟเข้าเมือง 2 SGD ค่ารถไฟภายในเมือง เริ่มต้นที่ 1 SGD ( มีค่ามัดจำ 0.1 SGD ) รวมแล้วเดินทางประมาณ 15 เที่ยว รวมค่ารถเข้าเมือง ทั้งหมดไม่เกิน 20 SGD ( 500 บาท )
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่ายแบบประหยัดสุด ๆ อยู่ที่ 2,500 + 760 + 600 + 500 เท่ากับ 4,360 บาท
ราคานี้เที่ยวอะไรได้บ้าง ?
สถานที่ท่องเที่ยวแบบฟรี ๆ ที่สิงคโปร์นั้นก็มีหลายแห่ง แถมหลาย ๆ ที่ก็ดัง ๆ ทั้งนั้นเลย โดยที่เราขอแนะนำได้แก่
MARINA BAY
ที่เที่ยวสุดฮิต ฮิตมหาศาลขนาดที่ใครไปใครมาก็ต้องมีรูปที่นี่ติดกลับมาอย่างแน่นอน และที่สำคัญที่นี่ชมฟรี ไม่ว่าจะเป็นวิวที่แสนสวยงาม หรือการแสดงแสงสีเสียงในช่วงกลางคืน หรือถ้าเกิดร้อนขึ้นมาจะเข้าไปเดินเล่นในห้างบริเวณนั้นก็ไม่ได้มีใครว่าแต่อย่างใด คุ้มค่าสุด ๆ
การเดินทางไปยัง Marina bay นั่งรถไฟฟ้าสายNorth east Lineไปลงสถานี Raffles Place
Merlion
สิงโตพ่นน้ำที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ เปิดให้ชมตั้งแต่เช้ายันดึก ( จริง ๆ เที่ยงคืนก็มาดูได้นะ แต่เค้าจะปิดไฟปิดน้ำ ) และแน่นอน ชมฟรีไม่เสียซักแดงเดียว ขอบอกว่ามาตอนเช้า ๆ จะได้ชมเมอไลออนไปพร้อม ๆ กับพระอาทิตย์ขึ้นด้วยนะ
การเดินทางไปยัง Merlion นั่งรถไฟฟ้าสายNorth east Lineไปลงสถานี Raffles Place
Changi International Airport
สนามบินเที่ยวได้ด้วยหรือ ? คุณอาจจะต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อได้มาเยือนสนามบิน Changi สนามบินที่มีรางวัลสนามบินที่ดีที่สุดในโลกแห่ปี 2014 การันตี เรื่องบริการและคุณภาพของสนามบินไม่น่ากังขาใด ๆ แต่ที่นอกเหนือจากนั้นคือการประดับตบแต่งภายในที่ทำให้สามารถเดินชมได้อย่างสนุกสนาน ทั้งงาน installation art เก๋ ๆ หรือนิทรรศการที่หมุนเวียนมาให้ชม ทำให้เวลาในสนามบินไม่ใช่เวลาที่น่าเบื่ออีกต่อไป
Kebun Baru Birdsinging Club
ภาพสิงคโปร์ที่ผู้คนคิดกันส่วนใหญ่ก็จะมีแต่ภาพตึกรามบ้านช่อง อาคารสูง ห้างใหญ่โต แต่ใครจะรู้ว่าในอีกมุมหนึ่งก็มีอะไรน่ารัก ๆ ที่ควรค่าแก่การไปเยือนด้วย กลุ่มคนเลี้ยงนกเพื่อการประกวดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมนกประกวดที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และก็ยังเป็นกลุ่มที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ในอาเซียนอีกด้วย
สถานที่ตั้งอยู่บริเวณ Ang mo Kio โดยในวันประกวดมีนกมากกว่า 1000 กรงมาประชันกันในหลาย ๆ ประเภท ในบริเวณจะเห็นความมีชีวิตชีวาของชาวสิงคโปร์ เป็นภาพที่แตกต่างออกไปจากที่เรา ๆ เคยได้พบเห็นในย่านเมือง แล้วคุณจะได้เห็นสิงคโปร์ในอีกมุมมองหนึ่ง
Henderson Wave
สะพานที่มี Design ล้ำสมัยมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สะพานคนเดินที่ยาวที่สุดในประเทศแห่งนี้เชื่อมต่อระหว่าง Mount Faber Park ไปที่ Telok Blangah Hill Park โดยตัวสะพานเองนั้นมีการออกแบบเป็นลักษณะคล้ายคลื่น และจากตัวสะพานเองนั้นก็เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่แพ้ที่ใดเลยทีเดียว จะเห็นชาวสิงคโปร์มากมายที่มาใช้พื้นที่บริเวณนี้วิ่งออกกำลังกายอีกด้วย
The Singapore river
จะบอกว่าประเทศนี้มีจุดกำเนิดจากแม่น้ำนี้ก็ไม่ผิดนัก แม่น้ำสิงคโปร์มีท่าเรือใหญ่สามแห่งคือ BOAT QUAY , CLARK QUAY , ROBERTSON QUAY ซึ่งถือเป็นท่าเรือสำคัญที่มีส่วนช่วยให้สิงคโปร์เจริญเติบโตมาจนทุกวันนี้
โดยในตำนานกล่าวไว้ว่า Sang Nila Utama เจ้าชายแห่งสุมาตรา ได้ล่องเรือมาบริเวณแม่น้ำนี้และเห็นสิงโตอยู่ริมน้ำ จึงได้ตั้งชื่อดินแดนนี้ว่า Singha Pure หรือ LION CITY เป็นต้นกำเนิดของสิงคโปร์มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันบริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ โดยเฉพาะเวลากลางคืนร้านค้าต่าง ๆ จะเปิดไฟสวยงามอย่างมาก เหมาะจะใช้เวลาช่วงค่ำคืนแบบสบาย ๆ หลังจากเดินท่องเที่ยวอย่างหนักหน่วงมาทั้งวัน
การเดินทางไปยังThe Singapore river นั่งรถไฟฟ้าสายNorth east Lineไปลงสถานี Clark Quay
fountain of wealth
น้ำพุแห่งความมั่งคั่งแห่งนี้ เป็นน้ำพุที่สร้างขึ้นมาโดยมีความเชื่อว่าจะสามารถนำพาเอาความรุ่งเรือง มั่งคั่งมาสู่ผู้มาเยี่ยมเยียนได้ โดยวิธีการสัมผัสน้ำพุที่ถูกต้องนั้นคือใช้มือขวาสัมผัสน้ำและก็อธิษฐานไปด้วย จากนั้นเดินวนตามเข็มนาฬิการ 3 รอบ รอบน้ำพุ ความมั่งคั่งก็จะมาสู่ท่าน
โดยน้ำพุนี้นอกจากเรื่องความมั่งคั่งแล้ว ก็ยังมีความสวยงามอย่างมากอีกด้วย โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่จะเปิดไฟสวยงามเป็นพิเศษในเวลา 09.00-12.00, 14.30-18.00, 19.00-19.45, 21.30-22.00 นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงสีในเวลา 20.00, 20.30 และ 21.30 อีกด้วย ทั้งหมดนี้ ฟรี
China Town , LITTLE INDIA
สองย่านน่าเที่ยวของสิงคโปร์ เพราะที่นี่มีคนจากหลากหลายเชื้อชาติมาอยู่อาศัยกัน ทำให้มีย่านต่าง ๆ ที่มีเอกลักษณ์หลายแห่ง สามารถเดินชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นแต่สถานที่สำคัญบางแห่งที่มีค่าเข้าชมเล็กน้อย
รวมค่าเข้าชมสถานที่เหล่านี้คือ 0 บาท ( แต่จริง ๆ เรามีงบเหลือประมาณ 600 บาท สามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแบบเสียเงินได้หนึ่งถึงสองแห่ง หรือจะกินอาหารดี ๆ ซักมื้อก็ยังไหวนะ )
จ่ายเงินกลาง ๆ เที่ยวสุดมันส์
สำหรับผู้ที่อยากจะเที่ยวแบบสบายตัวหน่อย ไม่ต้องจองตั๋วเครื่องบินนานมาก จองล่วงหน้าซักสัปดาห์นึงกำลังงาม ที่หลับที่นอนก็ให้สะดวกสบายหน่อย เงินก็พอมีขอกินมื้อดี ๆ ซักมื้อสองมื้อ เที่ยวสถานที่ยอดฮิตบ้างเป็นการเปิดหูเปิดตา ขอแนะนำทางเลือกนี้เลย เพราะสิงคโปร์มีอะไร ๆ หลอกล่อให้เราเสียเงินมากมาย
ค่าตั๋วเครื่องบิน จองล่วงหน้า 1 สัปดาห์ 4,000 บาท
ค่าที่นอน เตียงคู่ที่ Ibis Singapore on Bencoolen คนละ 1,750 บาท ( รวมอาหารเช้า ) สองคืน 3,500 บาท
ที่ Ibis นี้เราสามารถเติมน้ำดื่มได้ฟรี มีอาหารเช้าแบบ Buffet ให้ มีจักรยาน แถมยังเป็นโรงแรมแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกด้วย ทำให้มีอะไรน่ารัก ๆ ในโรงแรม อย่างดินสอที่ทำจากกระดาษ หรือร่มกระดาษให้ใช้ เอามาถ่ายรูปได้สนุกทีเดียว ที่สำคัญถ้าเพิ่มเงินอีกซักเล็กน้อย สามารถใช้โทรศัพท์มือถือพร้อมอินเตอร์เนทฟรีอีกด้วย โดยบริเวณโรงแรมมีร้านอาหารราคาถูกตั้งอยู่เยอะแยะเลยทีเดียว เลือกกินได้ตามใจชอบเลย
ค่าอาหาร ที่ HAWKER เริ่มต้นจานละ 3 เหรียญ ( 75 บาท ) มื้อพิเศษราวมื้อละ 800 บาทต่อคน รวมค่าอาหาร 2,000 บาท
ค่าเดินทาง รถไฟเข้าเมือง 2 SGD ค่ารถภายในเมือง เริ่มต้นที่ 1 SGD ( มีค่ามัดจำ 0.1 SGD ) รวมแล้วเดินทางประมาณ 15 เที่ยว รวมค่ารถเข้าเมือง ทั้งหมดไม่เกิน 20 SGD ( 500 บาท )
ค่าเข้าสถานที่ รวม ๆ คร่าว ๆ ราว 3,000 บาท
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่าย อยู่ที่ 4,000 + 3,500 + 2,000 + 500 + 3,000 เท่ากับ 13,000 บาท
ราคานี้เที่ยวอะไรได้บ้าง ?
นอกจากสถานที่เที่ยวฟรี ๆ ที่แนะนำไปด้านบนแล้ว ยังมีสถานที่ที่เสียเงินแต่คุ้มค่าจะเที่ยวอีกมากมายเลย
UNIVERSAL STUDIO Singapore
สวนสนุกยอดนิยมระดับโลกแห่งนี้เป็นเป้าหมายหลักของหลาย ๆ คนที่มาสิงคโปร์ก็ว่าได้ สวนสนุกแห่งนี้แบ่งเป็นหลายโซน มีทั้งเครื่องเล่นและโชว์ต่าง ๆ ให้ทดลองเล่นอย่างมากมาย จนบางทีอาจจะเล่นเพลินจนถึงเวลาปิดทำการก็ได้
ราคาค่าเข้าชม 66 SGD ( ประมาณ 1,500 บาท )
Trick eye museum
พิพิธภัณฬ์สามมิติอันดับหนึ่งของที่นี่ จัดแสดงได้ดีเลยทีเดียว หลาย ๆ ฉากทำได้ค่อนข้างเนียนตา แถมตั้งอยู่บริเวณไม่ไกลจาก Universal studio จะแวะหลังจากออกจาก Universal ก็ทำได้ง่าย ๆ เลย ถ้าอยากรู้ข้างในเป็นยังไง ดูรีวิวของเราได้ที่
ถ่ายภาพสามมิติยังไงให้สมจริง TRICK EYE MUSEUM สิงคโปร์
ราคาค่าเข้าชม 25 SGD ( ประมาณ 600 บาท )
GARDEN BY THE BAY
ไม่มีใครไม่รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่สุดของสิงคโปร์ สวนภายในอาคารที่ถูกจัดว่าเป็น 1 ใน10 สวนภายในอาคารที่ดีที่สุดในโลก
สวนนี้มีความเป็นที่สุดหลายอย่าง ไล่ตั้งแต่รูปแบบสถาปัตยกรรมที่ล้ำยุคสุดบรรยาย การรวมเอาพรรณไม้ต่าง ๆ จากทั่วทุกมุมโลกมาปลูกไว้ รวมถึงต้นไม้จำลองขนาดยักษ์ที่ใครเห็นก็ต้องตะลึงกัน (รวมทั้งเราด้วย) โดยโดมพรรณไม้แบ่งออกเป็น Cloud forest (ป่าเหยียบเมฆ) และ Flower dome (โดมดอกไม้)
และที่เป็นจุดเด่นที่สุดอีกอย่างก็คือ SUPERTREE GROVE ที่เป็นต้นไม้ยักษ์ 18ต้น ทำเป็นสวนแนวตั้ง ตั้งเด่นประชันกับ อาคารเด่น ๆ ในบริเวณอ่าวอย่างไม่เกรงกลัวกันเลยทีเดียว
นอกจากนั้นยังมีบริเวณอื่น ๆ เช่นสวนน้ำสำหรับเด็ก หรือสวนดอกไม้ภายในอีกด้วย ถ้าจะมาเที่ยวชมก็อาจจะต้องเตรียมเวลาไว้1วันเต็มเลย
การเดินทางไปยัง Gardens by the Bay นั่งรถไฟฟ้าสาย Circle Lineไปลงสถานี MRT Bayfront ทางออก Gardens by the Bay
ราคา เข้าชมส่วน Cloud forest กับ Flower dome 28 SGD ขึ้นเดินบน Supertree 5 SGD
SAND SKY PARK @MARINA BAY SANDS
ตึกเรือที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมอ่าว MARINA จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นที่สุดของประเทศไปแล้วในขณะนี้ ที่ชั้นบนสุดของตึกเป็นจุดชมวิวที่น่าจะดีที่สุดในประเทศอย่างไม่ต้องสงสัย โดยถือว่าเป็นลานชมวิวลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้อีกด้วย ใหญ่ขนาดไหนน่ะรึ ? ก็ขนาดที่สามารถจอดเครื่องบินลำใหญ่อย่าง A380 ได้4 ลำครึ่งเลยน่ะสิ
นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ให้ว่ายน้ำพร้อมชมวิวเมืองสุดอลังการไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย ทั้งหมดนี้ ฟรี… ถ้าคุณพักที่โรงแรมน่ะนะ แต่ค่าขึ้นจุดชมวิวก็ไม่ได้แพงมาก ถือว่าคุ้มค่าและต้องขึ้นมาชมอย่างแน่นอน
การเดินทางไปยัง MARINA BAY SANDS นั่งรถไฟฟ้าสายCircle Lineไปลงสถานี MRT Bayfront ทางออก B C D E
ราคาค่าเข้าชม 23 SGD สำหรับการขึ้นไปชมวิว
Singapore flyer
จะเรียกชิงช้าสวรรค์ก็ไม่แปลก แต่ไม่ใช่ชิงช้าสวรรค์ธรรมดา แต่เป็นชิงช้าที่สูงระดับโลกเลยทีเดียว จากด้านบนเราสามารถที่จะมองเห็นวิวอันแสนสวยงามของสิงคโปรได้ในมุมกว้าง แน่นอนว่าบรรยากาศโรแมนติคมากมาย
ราคาค่าเข้าชม 33 SGD
สวนนก JURONG
สวนนกขนาดใหญ่ที่อยู่คู่กับชาวสิงคโปร์มาอย่างช้านาน ถือว่าเป็นสวนนกที่ดีที่สุดในภูมิภาคนี้มาอย่างช้านาน ด้วยพื้นที่กว่า 126 ไร่ พร้อมกับนกแปลก ๆ ที่หายากจำนวนมาก เดินเพลิน ๆ ได้ถึงครึ่งวันเลยทีเดียว
ราคาค่าเข้าชม 20 SGD
พิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ
ในสิงคโปร์เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ ทั้งพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ , Art gallary ต่าง ๆ , พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ทำได้ดีและน่าสนใจ ถ้ามีเวลาว่าง น่าจะลองหาพิพิธภัณฑ์ที่ตรงกับความสนใจของตัวเองและเข้าชมดู รับรองว่าจะได้ทั้งสาระ และความสนุกกลับไปแน่นอน
ค่าเข้าชมของสถานที่ต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้มีสูงบ้าง ถูกบ้าง แต่ในระยะเวลา 3 หรือ 4 วันเราน่าจะเข้าชมได้ประมาณ 3 – 4 แห่ง ก็น่าจะอยู่ในงบประมาณ 3,000 บาทที่ตั้งเอาไว้ ( อย่าลืมล่ะว่าสถานที่ที่เข้าชมได้ฟรีหลายแห่งก็พลาดไม่ได้เหมือนกัน )
เที่ยวแบบหรูหรา
สำหรับผู้ที่อยากได้อะไรที่พิเศษกว่าปกติ ก็สามารถทำได้ จะลองเที่ยวแบบสุด ๆ ก็ต้องลองแบบนี้เลย เราไปลองสำรวจมาให้แล้วเช่นกัน แต่ขอบอกก่อนว่า นี่คือสุด ๆ แบบที่เราเองทำได้ ถ้าจะเอาหรูกว่านี้ แพงกว่านี้ รับรองว่ามีแน่นอน ถ้าเงินในกระเป๋าถึง
ค่าตั๋วเครื่องบิน เริ่มที่ 10,000 บาท
ค่าที่นอน เตียงคู่ที่ Marina bay sands คนละ 6,500 บาท ( รวมอาหารเช้า ) สองคืน 13,000 บาท
ค่าอาหาร ร้านอาหารขึ้นชื่อตกราวมื้อละ 1,000 บาทขึ้นไป ร้านระดับหรูเช่นบุฟเฟ่ที่ Tiffin room 75 SGD ( 1,875 บาท ) ค่าเครื่องดื่มบน SKY BAR แก้วละประมาณ 300 บาท ค่าอาหารรวมประมาณ 6-7,000 บาท ( มากกว่านี้ก็ได้ถ้าสั่งของให้แพงขึ้นอีก )
ค่าเดินทาง รถแท็กซี่เข้าเมืองประมาณ 20 SGD ( 500 บาท ) แท็กซี่ภายในเมืองเที่ยวละ 10 SGD ขึ้นไป ( 250 บาทขึ้นไป ) รวม ๆ ค่าแท็กซี่ 4-5,000 บาท ถ้าไปสองคนเฉลี่ยคนละ 2,500 บาท
ค่าเข้าสถานที่ รวม ๆ คร่าว ๆ ราว 5,000 บาท
รวมทั้งหมดค่าใช้จ่าย อยู่ที่ 10,000 + 13,000 + 7,000 + 2,500 + 5,000 เท่ากับ 37,500 บาท
ราคานี้เที่ยวอะไรได้บ้าง ?
นอกจากจะได้นอนโรงแรมที่วิวสวยมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแล้ว อาหารอะไรที่ว่าขึ้นชื่อก็รับรองว่าจะได้กินเต็มอิ่ม เดินทางสะดวกสบาย เข้าชมอะไร ๆ ได้ทุกอย่าง ข้อดีกว่าไปทัวร์ก็คือ อยู่ที่ไหนนานขนาดไหนก็สามารถทำได้ อยากจิ้มเลือกที่เที่ยวไหนใน List ด้านบนก็ตามสบายได้เลย
สำหรับการ Shopping เป็นรสนิยมส่วนบุคคลของแต่ละคน จะช็อป 100 บาทหรือ 100,000 บาท ก็แล้วแต่ style ใคร style มันเลย
ทั้งนี้ทั้งนั้นจะเที่ยวแบบไหนอะไรยังไง ไม่มีถูกผิด ขอให้เรามีความสุขและไม่กระทบกับชีวิตหลังจากกลับมาก็พอแล้ว
สำหรับข้อมูลในการทำรีวิวครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะเราได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมงาน อีเว้นท์ Content Growth Hacker ที่จัดโดย Skyscanner ณ ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นงานที่รวบรวม Blogger นักเขียนจากหลาย ๆ ประเทศ ทั้ง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย เกาหลีใต้ และไทย เข้ามาร่วมกันระดมสมองสำหรับการเขียน Content แบบใหม่ ๆ ที่น่าสนใจขึ้นมา โดยในงานก็จะมี Workshop รวมถึงการเดินสำรวจย่านที่น่าสนใจในสิงคโปร์เพื่อนำมาเขียน content อีกด้วย
ระหว่างงานที่มีสองวันนั้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือการเรียนรู้เรื่องพื้นฐานของการทำ Social media เริ่มตั้งแต่ว่าสื่อออนไลน์คืออะไร มีเป้าหมายเพื่ออะไร ไล่ไปจนถึงเรื่องการทำคอนเท้นท์ให้น่าสนใจ และเทคนิควิธีการเขียนและใช้สื่ออื่น ๆ เช่น VDO ในการนำเสนอให้เรื่องราวที่ถ่ายทอดน่าสนใจสำหรับกลุ่มเป้าหมาย
ในส่วนที่สองจะเป็น Post event โดยใช้ความรู้ความเข้าใจจาก workshop ที่ได้เรียนรู้มา นำมาลองประยุกต์ใช้กับสถานการณ์จริง โดยในส่วนนี้ก็จะนำคณะโดยคนของ Skyscanner ในส่วนรับผิดชอบของแต่ละประเทศ เช่นกลุ่มของเราก็จะเป็นกลุ่มของมาเลเซียกับไทย กลุ่มอื่น ๆ ก็อาจจะมี อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี แยกกันออกไปสำรวจแต่ละส่วนของสิงคโปร์ ซึ่งส่วนของเราจะเน้นไปที่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ฮิป ๆ ที่ชาวสิงคโปร์มักจะใช้เวลาว่างไปชิลกัน ก็ถือว่าสนุกสนานและได้รับข้อมูลการท่องเที่ยวในโซนใหม่ ๆ ไปพอสมควรเลยทีเดียว และแน่นอนได้ปรับมาใช้กับงานเขียนในบทความนี้ด้วย
ต้องขอบคุณ Sky scanner สำหรับทริปที่สนุกสนานและได้รับความรู้ใหม่ ๆ มาปรับใช้กับบทความได้จริง แถมยังได้เพื่อนใหม่ ๆ จากทั่วเอเชียอีกด้วย และหวังว่าในครั้งหน้าจะได้รับโอกาสดี ๆ แบบนี้อีก