สำหรับคนไทยส่วนใหญ่ เมื่อถูกถามว่าทวีปไหนที่ดูลึกลับมากที่สุด ส่วนใหญ่คำตอบมักจะไม่พ้นทวีปแอฟริกา
อาจจะเพราะด้วยภาพลักษณ์ที่สื่อนำเสนอ หรือรูปร่างหน้าตาและการดำเนินชีวิตที่ดูแตกต่างจากชาวเอเชียค่อนข้างมาก ทำให้เราไม่ค่อยคุ้นชินกับอะไร ๆ ที่เป็นแอฟริกาเท่าไรนัก เรื่องที่คิดจะเดินทางไปท่องเที่ยวนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความคิดของนักเดินทางชาวไทยอย่างมากเลยทีเดียว
หลาย ๆ คนมักจะถามว่าไปแอฟริกาแล้วจะมีอะไรให้เที่ยวนอกจากไปดูสิงสาราสัตว์? ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วแอฟริกาเป็นทวีปที่มีความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวมากทีเดียว ตั้งแต่ภูเขาหิมะ ไปจนถึงทะเลทราย ที่ดินรกร้างไปจนถึงเมืองใหญ่ ฉะนั้นวันนี้เราจะนำทุกท่านไปรู้จักกับแอฟริกาตอนใต้ หนึ่งในพื้นที่ที่น่าสนใจมากที่สุดของแอฟริกา รับรองว่าแอฟริกาในความคิดของหลาย ๆ คนจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
ที่เราจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้คือบริเวณแอฟริกาตอนใต้ เนื่องจากแอฟริกาเป็นทวีปที่กว้างใหญ่ ทำให้การท่องเที่ยวทีเดียวทั้งทวีปแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย อย่างทริปนี้เราใช้เวลาราว 2 เดือน ก็ไปสำรวจได้แค่ราวครึ่งหนึ่งของแอฟริกาตอนใต้เท่านั้นเอง
โดยประเทศในบริเวณนี้ก็ได้แก่ South Africa , Namibia , Botswana, Lesotho, Swaziland , Zambia , Zimbabwe , Malawi , Mozambique , Angola
และดินแดนที่เราไปสำรวจในทริปนี้ได้แก่ SOUTH AFRICA , NAMIBIA , ZAMBIA , ZIMBABWE โดยเราจะเช่ารถขับจาก Capetown ขับเลาะทะเลไปเข้า Namibia และขับเที่ยวใน Namibia ราว 16 วัน ก่อนจะนั่งบัสข้ามไป Zambia และ Zimbabwe ตามลำดับ
SOUTH AFRICA

ถ้าจะพูดว่าแอฟริกาใต้เป็นหัวใจทางด้านเศรษฐกิจของทวีปแอฟริกาก็คงจะไม่ผิดนัก ในอดีตยุคที่การเดินเรือมั่งคั่งและรุ่งเรือง การจะเดินทางจากยุโรปไปเอเชียนั้น อย่างไรเสียก็ต้องผ่านดินแดนนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ทำให้แผ่นดินทางตอนใต้สุดของประเทศคึกคักและเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีตกาล โดยการพัฒนาร่วมกันของชาวยุโรปและชนพื้นถิ่น ทำให้ประเทศนี้มีกลิ่นอายของความเป็นตะวันตกอยู่
โดยเฉพาะ CAPETOWN ซึ่งเป็นเมืองเอกทางตอนใต้ของแอฟริกาใต้นั้นมีความเป็นยุโรปค่อนข้างมาก ทั้งสิ่งก่อสร้าง ภาษา ศาสนา และผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ โดยมีชาวยุโรป ทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และดัชท์ อาศัยอยู่อย่างหนาแน่น
มีอะไรเที่ยวบ้าง ?
จุดเด่นที่สุดของ CAPETOWN คือ Table mountain ภูเขาลูกใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมือง เรียกว่าจะมองจากทางไหนก็เห็นเด่นชัดไปเสียทุกทิศทุกทาง มีความความสูง 1,083 เมตร และด้วยรูปทรงที่แปลกตา บวกกับระบบนิเวศน์ที่มีเอกลักษณ์บนเขา ทำให้เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม จนหลายสำนักยกให้เป็น 1 ในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดในโลก

การจะขึ้นไปชมบนภูเขา เราต้องขึ้น Cable car ไปชม ได้ความตื่นเต้นไปอีกแบบ ด้านบนมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ ใครที่ชื่นชอบการเดิน treking เค้าก็มีเส้นทางเดินข้ามเขาให้ด้วย จะเดินชั่วครู่แค่ไม่กี่สิบนาทีหรือเดินกันเป็นวัน ๆ ก็เลือกได้ตามใจชอบเลย

นอกจากภูเขาแล้ว แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของที่นี่ก็ยังคงอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ไม่ว่าจะเป็น Colony ของเพนกวิ้นแอฟริกันนับพันตัวที่ Boulders Beach เกาะแมวน้ำ Seal Island ที่เราจะได้ล่องเรือไปพบกับฝูงแมวน้ำมากมายจนแทบไม่เชื่อสายตา หรือถ้าใครรักความหวาดเสียว จะลองไปดำน้ำในกรงเพื่อสัมผัสฉลามขาวในระยะประชิดก็เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นแน่นอน หรือจะไปชมวาฬตัวเป็น ๆ จากแถวแหลม Goodhope ก็มีให้บริการมากมาย



สำหรับคนที่รักการกินที่นี่ขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องเนื้อวัวชั้นเลิศ และไวน์รสดี ในราคาที่ต้องบอกว่าถูกมาก ๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพ

ใช้เวลาท่องเที่ยวที่นี่ราว 5-6 วันกำลังดี ที่จริงจะอยู่นานกว่านี้ก็ได้เพราะกิจกรรมต่าง ๆ มีมากมายจริง ๆ และราคาค่ากิจกรรมรวมถึงค่าครองชีพในแต่ละวันไม่แพงเลย
การเดินทาง
มีหลายสายการบิน บินลงที่ Capetown ทั้งบินตรงและแบบต่อเครื่อง ราคาอยู่ที่ราว 2หมื่นกลาง ๆ ขึ้นไป แล้วแต่โปรโมชั่น ส่วนการเดินทางใน Capetown มีรถไฟและรสบัสให้บริการค่อนข้างมาก หรือจะใช้การเช่ารถขับก็ไม่ลำบากเท่ใดนัก เพราะพวงมาลัยขวาเหมือนเมืองไทย แถมมีรถเกียร์ออโต้ค่อนข้างมาก
ที่พัก
แนะนำแถบ Camps Bay เพราะสงบและติดกับทะเลที่สามารถเดินลงไปชมวิวได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมีมินิมาร์ทและร้านอาหารอร่อย ๆ ตั้งอยู่เยอะเลย
เราพักที่ Designer Studio Camps Bay คุณป้าเจ้าของใจดี ที่พักดีมาก ถ้าใครเช่ารถขับแนะนำเลย สะดวกมาก ๆ
NAMIBIA

ประเทศที่คนไทยน้อยคนนักจะรู้ว่าตั้งอยู่ที่ไหนในแผนที่โลก อีกทั้งยังนึกภาพไม่ออกด้วยซ้ำไปว่าประเทศนี้มีอะไรโดดเด่นจนต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปเที่ยว
NAMIBIA เป็นประเทศขนาดค่อนข้างใหญ่ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา อยู่ทางตะวันตกของแอฟริกาใต้ ทำให้ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะเช่ารถขับจาก CAPETOWN และขับข้ามชายแดนมาเที่ยว NAMIBIA ต่อเลย
ที่นี่โด่งดังอย่างมากในเรื่องทะเลทรายที่สีและรูปร่างสวยกว่าที่อื่น ๆ บริเวณทางตอนใต้ของประเทศ ตั้งแต่ชายแดนที่ติดกับแอฟริกา ไล่มาจนถึงกลางประเทศเป็นพื้นที่แล้ง ภูมิประเทศมีทั้งทะเลทรายและแคนยอนเกือบทั้งหมด ส่วนตอนเหนือจะมีความชุ่มชื้นมากกว่า ทำให้เหมาะกับการเที่ยวซาฟารี
ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมายหลายแห่ง โดยในเส้นทางขับรถของเราจะผ่าน FISH RIVER CANYON , GHOST TOWN ( Kolmanskop ) , Sossusvlei , Windhoek , อุทยาน ETOSHA และ Spitzkoppe
FISH RIVER CANYON

กลุ่มผาหินสูงชัน ( CANYON ) ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ เกิดจากแม่น้ำฟิชซึ่งไหลคดเคียวไปตามพื้นที่ด้วยความยาวมากกว่า 650 กิโลเมตร ตั้งแต่เมื่อ 500 ล้านปีก่อน ก่อเกิดเป็น CANYON ขนาดใหญ่ นับเป็น CANYON ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากแกรนด์แคนยอนในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกาเท่านั้น หน้าผาแต่และแห่งมีความสูงถึงกว่า 500 เมตร สลับซับซ้อนซ้อนทับกัน เกิดเป็นวิวที่ยิ่งใหญ่เกิดจะจินตนาการ

บริเวณรอบ ๆ CANYON มีที่พักให้บริการหลายแห่ง บางแห่งมีบริการไกด์นำเที่ยวอีกด้วย โดยบางโปรแกรมจะนำเราเดิน Treking ภายใน CANYON โดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมทั้งอธิบายความเป็นมาของพื้นที่อย่างละเอียด แต่ถ้าจะให้ดี เช่ารถขับจะสะดวกที่สุด ถึงแม้ถนนหนทางจะไม่ดีสักเท่าใดนักก็ตาม
ที่พัก
ในอุทยานมีที่พักแต่เป็นแบบ Camping อาจจะไม่สะดวกสำหรับหลาย ๆ คน เราเลยแนะนำ Gondwana Canyon Village ราคาอาจจะแรงสักหน่อย แต่ที่พักสวยคุ้มราคาอยู่
GHOST TOWN ( Kolmanskop )

ภาพของทรายจำนวนมากกองอยู่ในห้องสภาพเก่า ๆ ประตูหลุด ๆ หัก ๆ พร้อมโดนฉาบด้วยแสงสีทองนั้นเป็นภาพที่ดูเหนือจริง ชวนให้คิดกันไปว่านั่นเป็นภาพกราฟฟิค หรือไม่ก็ฉากที่ถูกจำลองขึ้นมาในหนังแทบทั้งนั้น แต่แท้จริงแล้วฉากดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ใน NAMIBIA นี่เอง
หมู่บ้านร้าง Kolmanskop หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า GHOST TOWN นั้นตั้งอยู่ทางภาคใต้ของ NAMIBIA ห่างLUDERITZ ไปประมาณ 10 กิโลเมตร ในปี 1908 Kolmanskop เติบโตและเจริญขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะมีการค้นพบเพชรในบริเวณนี้ มีการก่อสร้างอาคารต่าง ๆ ทั้งบ้านเรือน โรงแรม โรงเรียน บ่อนการพนัน เป็นเมืองที่แสนครึกครื้นท่ามกลางทะเลทรายกว่า 30 ปี ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มซบเซาในปี 1950 และค่อย ๆ กลายเป็นเมืองร้างที่ถูกลืมในที่สุด

ปัจจุบันหลังจากมีผู้เข้าไปสำรวจและถ่ายภาพหมูบ้านร้างออกไปสู่สาธารณชน ทำให้ Kolmanskop โด่งดังขึ้นอย่างมากในฐานะจุดถ่ายรูปที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ที่พัก
ในเมือง LUDERITZ มีที่พักหลากหลาย ราคาไม่แพงและได้ห้องที่ใหญ่มาก เราพักที่ Zum Anker ราคาแค่คนละ 700-800 บาทต่อคืน แต่ได้ห้องขนาดเกือบ 100 ตารางเมตรสำหรับ 4 คน คุ้มค่ามาก ๆ
ใน EP 2 เราจะพาไปพบกับ ทะเลทรายและเนินที่สุดแสนจะแปลกและสวยงาม ซาฟารีที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และเมืองหลวงของ NAMIBIA คอยติดตามชมได้สัปดาห์หน้า ระหว่างนี้ชมรูปตัวอย่างไปพลาง ๆ กันก่อน ^__^