วันหยุดสุดสัปดาห์ 2-3 วันสมัยนี้ เราสามารถไปไหนมาไหนได้เยอะกว่าเมื่อก่อนมากเลย เพราะด้วยราคาตั๋วเครื่องบินที่เอื้อมถึงง่าย ๆ บวกกับการหาข้อมูลที่สะดวกสบายขึ้นสุด ๆ ฉะนั้น หลาย ๆ คนจึงเลือกที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในสุดสัปดาห์กันมากขึ้นทุกปี ๆ
วันนี้เราเลยขอมานำเสนออีก 1 destination ที่น่าสนใจ เพราะไปเที่ยวก็ง่าย อาหารก็ถูกปาก ราคาก็ประหยัด นั่นคือประเทศมาเลเซียนั่นเอง
โดยเฉพาะ 2 เมืองที่ไปง่ายสุด ๆ อย่างกัวลาลัมเปอร์กับมะละกา ได้เที่ยวทั้งเมืองใหม่เมืองเก่าแบบครบรส พร้อมนอนโรงแรมราคาย่อมเยาว์แต่สวยงามอย่าง Ibis ที่เพิ่งเปิดใหม่ที่สองเมืองนี้ด้วย
พร้อมแล้วไปชมกันเลยว่า KL กับ มะละกา มีอะไรให้เที่ยวกันบ้าง
การเดินทางจากประเทศไทย
KL อยู่ใกล้กับประเทศไทยมาก เลยภาคใต้เราไปนิดเดียวเอง ฉะนั้นจึงมีสายการบินมากมายเดินทางจากหลายจังหวัดในประเทศไทย สายการบินที่นิยมนั่งกันและมีโปรบ่อย ๆ ก็คือ Asia asia นั่นเอง โดยจะลงที่สนามบิน Kuala Lumpur International Airport ตั้งอยู่ระหว่าง กัวลาลัมเปอร์กับมะลกา
วิธีเข้าเมือง KL จากสนามบิน มีรถบัส รถไฟ หรือ Taxi ให้บริการรถเข้าเมืองโดยตรงเลย โดยราคาและเวลาเดินทางจะแตกต่างกันดังนี้
OPTION | PRICE | DURATION | AVAILABILITY | |
---|---|---|---|---|
Metro | 35RM | 38min | 05:00–00:30 | |
Taxi | 75RM | 50min | 24/7 | |
Bus | 10RM | 70min | 06:00–00:30 |
ถ้าเดินทางสองคนขึ้นไปและมีกระเป๋า การนั่ง Taxi ก็เป็นทางเลือกที่ดี ราคาประมาณ 600 บาท
ส่วนการเดินทางจากสนามบินไป Melaka ก็มีรถบัสให้บริการ ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยมีรถให้บริการทั้งวัน ราคา 25-35 RM ( ราว 250 บาท ) แล้วแต่ผู้ให้บริการ
การเดินทางในเมือง
ที่นี่มีรถไฟสาธารณะหลายแบบคือ light rail ,Monorail และ MRT โดยมีแผนที่การเดินทางตามรูปด้านล่าง เลือกใช้ได้ตามสะดวก โดยศูนย์กลางของเมืองจะอยู่ที่สถานี Sentral
แต่ถ้าระยะไม่ไกลมาก Taxi ก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะค่าบริการไม่แพง และเราสามารถเรียกได้ด้วย App GrabTaxi ได้เลย ไม่ต้องกลัวโดยโกง
สำหรับใน Melaka เดินทางง่ายเพราะเมืองเล็กเดินถึงกันเกือบหมด แต่ถ้าจะไปที่ไกล ๆ หน่อยก็แนะนำให้เรียก Taxi เช่นกัน
KUALA LUMPUR
เมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ มีสัญลักษณ์โดดเด่นเป็นสง่าคือตึกแฝด Petronas ที่เห็นได้จากทุกมุมของเมือง ที่เมืองใหญ่แห่งนี้มีที่เที่ยวสวย ๆ มากมายหลายแห่งเลยนะ
PETRONAS TWIN TOWER
สัญลักษณ์ของเมือง สวยงาจากทุกมุมเมือง ด้วยความสูง 451.9 เมตร มีสะพานเชื่อมสองตึกที่เปิดให้คนภายนอกเดินชมวิวอันสวยงามจากด้านบน ที่ชั้นล่างมีห้างหรู Suria ตั้งอยู่ พร้อมโชว์น้ำพุเต้นระบำทุกวันในเวลาราว 20.00 นาฬิกา เรียกว่ามาที่เดียวได้ทุกอย่างเลยวิวสวย ๆ อาหารดี ๆ โชว์ฟรี ๆ
KLCC PARK
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ด้านหลังตึกแฝด เป็นปอดของเมืองใหญ่แห่งนี้ มีสถานที่ทำกิจกรรมมากมายสำหรับชาวเมือง ส่วนนักท่องเที่ยวก็ใช้เป็นจุดถ่ายรูปหรือนั่งพักผ่อนสบาย ๆ ก็ดี
BATU CAVE
ถ้ำฮินดูที่อยู่นอกเมืองไปนิดนึง ที่มีถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาฮินดู มีรุปปั้นขนาดใหญ่สวยงามตั้งแต่แรกเห็น ภายในถ้ำมีการทำพิธีฮินดูที่น่าสนใจด้วยนะ
การเดินทางมาที่นี่ สามารถนั่งรถไฟจากสถานี KL Sentral ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 2.6RM เท่านั้น
MERDEGA SQUARE
ย่านกลางเมืองที่มีอาคารสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายแห่งให้ถ่ายรูปด้วย แนะนำนิดนึงว่าควรจะไปก่อน10 โมงก็จะดี จะได้ไม่ร้อนจนเกินไป
CHINA TOWN
แหล่งรวมของอร่อยมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่จะเป็นถนนคนเดิน มีร้านรวงให้เลือกซื้อหาของฝากมากมาย และแน่นอนร้านอาหารท้องถิ่นราคาไม่แพงอีกเพียบ
ที่พัก IBIS KLCC
โรงแรมชื่อดังที่มีสาขาไปทั่วโลก เพิ่งจะมาเปิดให้บริการที่ KL นี่เอง โดยทำเลที่ตั้งอยู่ห่างจากตึกแฝดไปไม่ไกล แค่ราว 600 เมตร
ที่นี่เป็นตึกสูง มีส่วนกลางให้บริการครบครันทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหาร ในราคาเริ่มต้นแค่ห้องละ 1600 บาทเท่านั้น ตกแล้วคนละ 800 บาทเอง
ห้องนอนของที่นี่ตกแต่งแบบสบาย ๆ ไม่หวือหวา แต่น่านอน ใช้แสงไฟพอดี ๆ เหมาะกับการพักผ่อน ที่สำคัญคือถ้านอนในห้องที่ถูกฝั่ง สามารถเห็นตึกแฝดได้จากห้องนอนเลยนะ
ที่นี่มีห้องอาหารที่จัดบุฟเฟ่กลางวันด้วย ถ้าใครไม่อยากออกไปข้างนอกก็สามารถใช้บริการได้ ตกราวคนละ 400 บาท
ชั้นบนของโรงแรมเป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity pool เห็นเมืองแบบ 180องศา สวยงามมาก ๆ
สรุปว่าเป็นโรงแรมที่ทำเลดี ราคาไม่แพง แต่ห้องน่าอยู่คุ้มค่าราคาสุด ๆ ขอแนะนำเลย
MELAKA
เมืองท่าที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมต่าง ๆ อย่างลงตัว ทั้งฝรั่งตะวันตก จีน อินเดีย เอเชีย ได้ออกมาเป็นเมืองที่สวยงามมีความน่าค้นหาและไม่เหมือนใครแห่งหนึ่งในโลก
DUTCH SQUARE
จุดศูนย์กลางของเมือง ใคร ๆ ก็ต้องมาแวะถ่ายรูปที่นี่ โดยมีจุดเด่นที่โบสถ์สีแดง Christ church สีสวยสดเด่นเป็นสง่า ตรงนี้เราจะเห็นรถสามล้อตกแต่งลายน่ารักมากมายหลายสิบคัน เมื่อก่อนเค้าตกแต่งด้วยดอกไม้ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นลายปีกาจู โดเรม่อนไปซะแล้ว
Melaka Straits Mosque
มัสยิดประจำเมืองที่โลเคชั่นสวยสุด ๆ เพราะตั้งอยู่ริมทะเล โดยเฉพาะยามพระอาทิตย์ตกยิ่งสวยงาม ที่นี่อาจจะไกลจากเมืองสักหน่อย เรียกแท็กซี่ไปแล้วให้เค้ารอรับกลับก็ราว ๆ 25RM ได้
Porta de Santiago
ป้อมปราการเก่าของชาวโปรตุกีส ในสมัยที่ยังปกครองแคว้นมะละกาอยู่ ปัจจุบันมีการบูรณะและเก็บรักษาเอาไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
St. Paul’s Church
โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างตั้งแต่ปี 1521 ทำให้ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเลเซีย และอาเซียน ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมือง เดินขึ้นสักหนึ่งเหนื่อย เหงื่อออกกำลังดี
Jonker Street Night Market
ถนคนเดินของ Melaka ที่ไม่ได้มีแค่ร้านอาหารร้านค้านะ แต่มี street art สวย ๆ หลายจุดเลย เดินถ่ายรูปกันเพลินเชียวแหละ นอกจากนี้ก็ยังมีวัดจีนสวย ๆ อีกหลายแห่งด้วยอย่างวัด Cheng hoon teng
HAINAN CHICKEN RICE
มาแถบนี้ห้ามพลาดข้าวมันไก่สไตล์ ไหหนาน ของมะละกา เค้าจะปั้นข้าวมาเป็นก้อนกลม ๆ กินกับไก่ที่ออกรสเค็มนิด ๆ อร่อยไปอีกแบบ มีร้านข้าวมันไก่ตั้งอยู่หลายแห่งรอบ Jonker Street หาไม่ยากเลย
ที่พัก IBIS MELAKA
IBIS อีกแห่งที่เพิ่งมาตั้งที่มาเลเซียอยู่ที่มะละกานี่เอง ด้วยทำเลสุดเทพเช่นเคยเพราะห่าง Dutch square แค่ 300 เมตร ด้วยราคาเริ่มที่ 1600 บาทเท่ากัน แต่ได้ห้องใหญ่กว่าห้องที่ราคาเท่ากันกับโรงแรม IBIS ใน KL
ที่นี่โรงแรมมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ตกแต่งได้มีสไตล์เป็นของตัวเอง โถงทางเข้าใช้หลังคาโชว์แสงไฟเป็นรูปเมฆดูแปลกตาดี ( เคยเห็นแบบนี้ที่สิงคโปรกับห้างดัง ๆ ในญี่ปุ่น ) ส่วนกลางอื่น ๆ อย่างสระว่ายน้ำหรือห้องอาหารก็มีให้บริการในสเกลที่จะเล็กกว่าใน KL หน่อย แต่สะดวกสบายเหมือนกัน
ใครมองหาที่พักในมะละกา IBIS ที่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีและคุ้มราคาเลยนะ
สรุปค่าใช้จ่าย
ถ้าเรามาเทียวที่มาเลเซีย 3 วัน 2 คืน ค่าใช้จ่ายโดยประมาณจะมีดังนี้
ค่าเครื่องบินลง Kl 2,000 บาท
ค่าโรงแรม 2 คืน 1,600 บาท
ค่ารถเข้าเมืองและระหว่างเมืองรวมกันราว 1,000 บาท
ค่าอาหาร 4-5 มื้อ คิดว่ากินเต็มที่ก็ราว 1,500 บาท
รวมแล้ว 6,100 บาท โดยประมาณ ได้กินเที่ยวเต็มที่ 2 เมือง นอนโรงแรมดี สะดวกสบาย
ถือว่าเป็นเมืองที่ค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก เที่ยวสนุก ครบรส ใครสนใจจะเที่ยวใกล้ ๆ ราคาประหยัด ลองที่มาเลเซียรูทนี้ได้เลย