โลกใบนี้มีเมืองแห่งเทพนิยายมากมายหลายร้อยเมือง แต่ละเมืองก็เล่าเรื่องราวร้อยเรียง ออกมาได้ไม่ซ้ำแบบกัน จนถือเป็นเสน่ห์ที่นักท่องโลกต้องออกไปตามหาเอกลักษณ์ที่น่าหลงไหล ของแต่ละเมือง
และที่ Tbilisi เมืองหลวงของ จอร์เจีย ก็เป็นอีกหนึ่งเมืองแห่งเทพนิยายที่มีเอกลักษณ์มากที่สุด เพราะที่นี่แฝงเอาไว้ด้วยสิ่งก่อสร้างล้ำยุคสมัยเหมือนออกมาจากหนังไซไฟมากมายหลายแห่ง ถือเป็นจุดตัดที่ลงตัวระหว่างความเก่ากับใหม่
ตอนนี้ถ้าใครฉีดวัคซีนแล้ว หรือทำตามกฎของประเทศนั้นๆ ก็ไปเที่ยวได้แล้ว โดยเฉพาะจอร์เจียที่เค้าเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้แล้วนะ และประเทศนีโดยเฉพาะเมืองในต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติ ไม่แออัด ไม่ต้องกังวลเท่าไหร่
ไปดูกันว่าความงดงามที่อุดมด้วยเอกลักษณ์ของเมืองหลวงแห่งนี้ จะให้ภาพฝันอันงดงามแบบไหนออกมากัน
การเดินทางจากไทย
ทริปนี้เราเหินฟ้าด้วยสายการบิน Air Astana สู่กรุง Tbilisi ถ้าจะบินสู่เอเชียกลางหรือแถบ ๆ รัสเซีย Air Astana สายการบินประจำชาติของประเทศคาซัคสถานเป็นตัวเลือกแรก ๆ เสมอสำหรับเรา
สำหรับไฟลท์ทั้งขาไปและกลับนั้นจะต่อเครื่องที่ กรุง Almaty ของคาซัคสถาน เวลากำลังสวยงาม
โดยจะบินออกจากกรุงเทพ 10:05 ถึง Almaty 16.35 และบินต่อไปถึงกรุง Tbilisi 21.45 รวมเวลาบินประมาณ 15 ชั่วโมง
ส่วนขากลับจะออกจากกรุง Tbilisi 15.35 ถึงกรุงเทพ 8.55 ในวันรุ่งขึ้น เวลาบินประมาณ 15 ชั่วโมงเท่ากัน
จองตั๋วได้ที่ Traveloka > https://www.traveloka.com/ th-th/flight-to-georgia
GEORGIA ตั้งอยู่ตรงไหน ?
จอร์เจียเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่คนไทยหลายคนปักหมุดไม่ถู
การขอวีซ่า / การแลกเงิน
ที่จอร์เจีย คนไทยสามารถไปเที่ยวได้นานถึง 365 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นประเทศที่ชาวไทยเราอยู่ได้นานที่สุดในโลกโดยไม่ต้องขอวีซ่าเลย
เงินที่นี่ใช้เงิน Lari โดย 1 Lari มีค่าประมาณ 12 บาท เราสามารถนำเงิน USD ไปแลกได้ โดยที่ร้านในสนามบินจะมีอัตราแลกเปลี่ยนแย่กว่าในเมือง หรืออีกทางเลือกที่น่าสนใจคือ กดเงินจาก ATM จะได้เรทเงินค่อนข้างดีมาก ใกล้เคียงอัตราแลกเปลี่ยนกลางของวันนั้น ๆ เลย แถมสะดวกด้วย
การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบิน
เราสามารถนั่งรถบัสสาย 37 เข้าเมืองได้ โดยจะลงบริเวณ Freedom square กลาง Old town เลย ค่าโดยสาร 0.5Lari (ประมาณ 6 บาท)
หรือถ้าจะเอาง่าย ใช้บริการรถ Taxi ก็ได้ ราคาประมาณ 30 Lari ( 360 บาท ) ก็พอ ๆ กับค่ารถTaxi บ้านเราจากสนามบินเข้าเมือง
ส่วนการเดินทางในเมือง ก็มีรถใต้ดินให้บริการ ดังแผนที่นี้ แต่ส่วนใหญ่สถานที่ท่องเที่ยวจะกระจุกอยู่บริเวณ OLD TOWN รอบ ๆ สถานี Liberty square ( ก็คือบริเวณ Freedom square นั่นแล ) ฉะนั้นก็ไม่ค่อยจำเป็นต้องใช้รถใต้ดินมากนัก อาจจะใช้บริการรถ Taxi เป็นครั้งคราวก็ได้ ราคาค่าเดินทางภายในเมืองเก่าไม่ควรเกิน 8-10 Lari ( 100-120บาท ) เด็ดขาด ส่วนใหญ่จะอยู่ราว ๆ 4-6 Lari เท่านั้น
ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองจะใช้บริการรถบัสที่สถานีรถบัสกลาง ที่สถานี Station square ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำเสนอในตอนต่อ ๆ ไป
ที่พักผ่อน
ราคาที่พักของที่นี่ ไม่แพง เราสามารถหา Apartment กว้างมาก ๆ ได้ในราคาคืนละประมาณ 900-1000 บาทเท่านั้น มีทั้งห้องนั่งเล่นและห้องครัว สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านเลย
เราพักที่ Apartment Rustaveli Avenue 1 กับ Dzveli Tiflisi ชอบมาก ๆ ทั้งสองที่ ราคาคืนละ 800 กับ 1000 บาทตามลำดับ เอาคำนี้ไปหาได้เลยในเวปจองโรงแรม
อาหารการกิน
อาหารจอร์เจียจะคล้าย ๆ กับอาหารรัสเซีย มีของเด่นคือเกี๊ยวยักษ์ที่เรียกว่า Khinkali รสชาติดีแต่จะติดเค็มนิดหน่อย จริง ๆ อาหารที่นี่จะออกเค็มทุกอย่าง ถ้ากินกับข้าวก็ถือว่ากำลังพอดี
อาหารอื่น ๆ ที่ดังก็เช่น Khachapuri Adjaruli คล้ายขนมปังพิซซ่าหน้าชีสกับไข่ดาว Mtsvadi ที่เป็นเนื้อย่าง และก็สลัดต่าง ๆ กับขนมปังจอร์เจียที่ชิ้นใหญ่มาก ๆ ส่วนขนมชื่อดังจะเป็น Churchkhela ที่ทำจากวอลนัท เคลือบด้วยผลไม้กวน รสหวานอร่อยดี มีขายอยู่ทั่วเมือง
ราคาอาหารต่อมื้ออยุ่ที่ราวไม่เกิน 100 บาทต่อคนต่อมื้อ ถ้ากินร้านทั่ว ๆ ไป ถ้าขึ้นร้านอาหารชั้นดีก็ตกราวคนละ 300-500 บาทต่อคน ถือว่าราคาไม่แพงเลย ใกล้เคียงกับบ้านเรานี่แหละ
มีอะไรให้เที่ยวบ้าง
แม้จะเป็นประเทศใหม่ที่แยกม
และที่นี่ไม่ได้มีแต่ของเก่า ๆ แต่ยังมีสิ่งก่อสร้างใหม่ ๆ อีกหลายแห่งแทรกผสมผสานอย่างลงตัวอีกด้วย มาดูกันว่าสิ่งก่อสร้างทั้งใหม่และเก่าของที่นี่มีอะไรบ้างที่พลาดไม่ได้
Narikala
ป้อมปราการเก่าแก่สัญลักษณ์ของเมือง ใครที่มา Tbilisi แล้วไม่ได้แวะ Narikala ก็เสมือนว่ามาไม่ถึง ป้อมปราการ Narikala เป็นจุดเด่นที่สุดขอ
Kartlis Deda
เทพธิดาที่พิทักษ์เมืองหลวงแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 1958 ซึ่งเป็นปีที่เฉลิมฉลองกรุง Tbilisi ครบรอบ 1500 ปี ออกแบบโดย Elguja Amashukeli มีความสูงกว่า 20 เมตร ถ้าเราขึ้น Cable car มาที่ป้อม Narikala จะสามารถเดินมาชมรูปปั้นอย่างใกล้ชิดได้เลย
Cable car
การจะขึ้นป้อม Narikala นั้น เราจะเดินขึ้นก็ได้ แต่ถ้าอยากประหยัดแรงกาย ขอแนะนำ Cable car ที่จะนำเราขึ้นไปที่ป้อมได้อย่างสะดวกและสนุกสนาน วิวระหว่างทางก็สวยมาก ๆ เลย ค่าขึ้นกระเช้าที่นี่ นับว่าถูกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ตกประมาณรอบละ 25 บาทเท่านั้น
RIKE PARK
สวนสาธารณะหลักของเมือง ที่สามารถมองเห็นวิวของป้อมปราการได้อย่างเต็มตา เป็นสวนสาธารณะฮิป ๆ อีกแห่งที่เต็มไปด้วยงานศิลปะร่วมสมัยมากมาย สวนแห่งนี้อยู่ริมแม่น้ำ บรรยากาศดีมาก ๆ และเป็นที่ตั้งของสถานีกระเช้าและทางเข้าสะพานสำคัญของเมืองอย่าง bridge of peace อีกด้วย
BRIDGE OF PEACE
อย่างที่บอกเมืองทั้งเมืองต
ด้วยความยาวกว่า 150 เมตร และโครงหลังคากระจกสุดอลังก
และสะพานแห่งนี้เองก็เป็นหั
ฉะนั้นมาที่นี่อย่าลืมมองหาตึกรูปทรง แปลก ๆ ที่แอบซ่อนอยู่ท่ามกลางสถาป
Holy Trinity Cathedral
โบสถ์ที่ดังและใหญ
Sioni Cathedral
โบสถ์เก่ากลาง OLD TOWN สร้างแบบ medieval Georgian tradition ตั้งแต่ปี 1812 เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเมืองมาอย่างช้านาน รอบ ๆ โบสถ์มีร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ มากมาย คึกคักมาก ๆ โดยเฉพาะยามเย็นถึงช่วงดึก
Gabriadze Theater
โรงละครหุ่นเชิดแห่งแรกของเมือง ที่ตั้งขึ้นเมื่อปี 1981 โดดเด่นด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกแหวกแนวโดยเฉพาะหอนาฬิกาที่ออกแบบแปลกไม่ซ้ำใคร โดยทุก ๆ 12.00 น จะมีการแสดงของนาฬิกาด้วยทุกวัน
Sulfur baths
เดินข้ามสะพานไปนิดนึงบริเว
Freedom Square
วงเวียนชื่อดังที่สุดของเมือง ชื่อเดิม Erivan or Pashkevich-Erivanskaya Square สร้างขึ้นในสมัย สหภาพ Soviet รอบ ๆ บริเวณจะเชื่อมต่อกับถนน Rustaveli Avenu ซึ่งเต็มไปด้วยตึกสวย ๆ และห้างสรรพสินค้าทันสมัยมากมาย บริเวณนี้ยังเป็นบริเวณที่เหมาะจะหาที่พักอีกด้วย เพราะสะดวกและใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทุกแห่ง
CHRONICLE OF GEORGIA
Open air museum ที่เสมือน STONEHENGE แห่ง Tbilisi ตั้งเด่นเป็นสง่าเหนือเมือง Tbilisi ลักษณะเป็นเสาสีดำขนาดใหญ่ สลักเหตุการณ์สำคัญของประเทศเอาไว้อย่างครบครัน จากที่นี่เรายังสามารถเห็นวิวของเมืองทั้งเมืองได้360 องศาอีกด้วย การจะมาที่นี่มีสองทางคือเช่า TAXI เหมา ไป – กลับจากเมืองเก่า ราคาราว 30 Lari หรือเช่ารถขับ
ที่เที่ยวนอก TBILISI
ที่นอกเมืองหลวงมีที่เที่ยวสวย ๆ เยอะมากกกก ส่วนใหญ่จะเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติและโบสถ์เก่าแก่ แนะนำให้เช่ารถขับจะดีที่สุด ค่าเช่ารถตกแค่วันละ 800-1200 บาทเท่านั้นเอง ใช้ใบขับขี่สากลแค่นั้นเอง
Mtskheta โบสถ์ Jvari
ออกนอกเมืองไปราว 20 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงเก่า Mtskheta ซึ่งมีโบสถ์สำคัญสองแห่งคือ Svetitskhoveli Cathedral ที่ตั้งภายในตัวเมือง และ Jvari ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาเหนือเมือง Mtskheta ที่นี่มีจุดเด่นคือวิวที่สวยงามสามารถเห็นเมืองหลวงเก่าได้อย่างชัดเจน
STEPANTSMINDA
เมืองทางตอนเหนือ เมืองใหญ่เมืองสุดท้ายก่อนจะข้ามเขตไปรัสเซีย ที่นี่มีที่เที่ยวน่าสนใจรอบ ๆ เมืองหลายแห่งเลยล่ะ
GERGETI TRINITY
โบสถ์คริสต์นิกายจอร์เจียนออร์โธด็อกซ์ชื่อดังทางตอนเหนือของประเทศ ที่นี่งดงามด้วยโลเคชั่นที่มีภูเขาหิมะเป็นฉากหลังแสนสวยงามในฤดูหนาว หรือถ้าไปหน้าร้อนก็จะเห็นสีเขียวสดชื่นเป็นฉากหลังเช่นกัน
ตัวโบสถ์สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตอนนี้มีถนนอย่างดีขึ้นมาแล้ว แต่ในช่วงหิมะตกเค้าไม่อนุญาตให้เรานำรถขึ้นมานะ ต้องใช้รถที่ขึ้นทะเบียนแล้วเท่านั้น ค่ารถราว ๆ 500 บาท / คัน ไปหลายคนก็คุ้มหน่อย
Russia-Georgia Friendship Monument
อนุสาวรีย์ที่ทำจากหินและคอนกรีตเป็นรูปทรงกลมขนาดใหญ่ อยู่ใกล้ ๆ STEPANTSMINDA
สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 200 ปี ของสนธิสัญญา Georgievsk สนธิสัญญาที่แสดงถึงมิตรภาพระหว่างโซเวียตจอร์เจียและโซเวียตรัสเซีย
ที่นี่มีรูปเขียนสวย ๆ และในฤดูหนาวถูกปกคลุมด้วยหิมะ สวยงามมาก ๆ เลยล่ะ แถมภูมิทัศน์รอบ ๆ ก็ล้อมไปด้วยเขาหิมะ เช่นDevil’s Valley หุบเขาชื่อดังของคอเคซัสสวยสุด ๆ ไปเลย
SNO
เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกับ STEPANTSMINDA ที่นี่มีชื่อเสียงเพราะมีรูปสลักหินหน้าคนขนาดใหญ่วางประดับอยู่ทั่วทั้งบนิเวณหมู่บ้าน รวมถึงอนุสาวรีย์ของ Vakhtang Gorgasali ราชาแห่ง Iberia
และนั่นคือ GEORGIA ส่วนหนึ่ง ที่จริงประเทศนี้ยังมีอะไรสวยงามอีกมากมายเลยทีเดียว ไว้เราจะต้องไปซ้ำอีกครั้งและนำมาเสนอแน่นอน







