ถ้าจะพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร หรือน่าจะสำคัญมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้คงจะไม่พ้นบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์นั่นเอง
บริเวณนี้เปรียบเสมือนศูนย์กลางของกรุงเทพมหานคร มีสถานที่สำคัญแทบจะทุกบริเวณ ทั้งสถานที่สำคัญทางศษสนา ศูนย์ราชการ ตลาด
วันนี้เราจึงขอเสนอ 16 สถานที่ห้ามพลาดเมื่อเราไปเยือนเกาะรัตนโกสินทร์กัน พร้อมแล้วก็ตามเรามาชมกันเลย
สักการะวัดพระแก้ว
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นศาสนสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองไทยเรามานับร้อย ๆ ปี วัดพระแก้วพร้อมไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรม และการจัดวางพื้นที่ภายในอย่างลงตัวที่สุด สมกับเป็นสมบัติของชาติ
เดินชิล ยอดพิมาน Riverwalk
ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหน้าตาของประเทศอย่าง วัดพระแก้ว วัดอรุณ วัดโพธิ์ หรือพิพิธภัณฑ์ Museum Siam ซึ่งอยู่ในระยะเดินทั้งหมด ทำให้บริเวณโครงการนั้นเหมาะมากสำหรับเป็นที่พักผ่อน ทานข้าว สำหรับการเดินเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์
ภายในโครงการนั้นเป็นอาคารสองชั้นที่มีพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม แบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ขายดอกไม้ พื้นที่สำหรับร้านค้าที่บริเวณชั้น 1 รวมถึงมีร้านอาหารทานเล่นอีกหลายร้าน ส่วนบริเวณชั้นสองจะเป็นอาหารมื้อหนักหลายร้าน รวมถึงร้านกาแฟเก๋ ๆ อีกด้วย
รำลึกป้อมมหากาฬ
ป้อมที่ถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เป็น 1 ใน 14 ป้อมที่ทรงโปรดให้สร้างเพื่อป้องกันพระนคร ปัจจุนป้อมเกือบทั้งหมดพังทลายไปตามเวลา เหลืออยู่เพียง 2 แห่งเท่านั้น ฉะนั้น ป้อมมหากาฬนี้จึงถือเป็นโบราณสถานที่ควรค่าแก่การรักษายิ่ง ใครที่ผ่านไปแถวนั้นสามารถเดินชมบรรยากาศของป้อมได้ตามอัธยาศัย มีร่มเงาไม้ให้หลบแดดได้พอสมควร
ดินเนอร์วิวงาม ณ ศาลารัตนโกสินทร์
ศาลารัตนโกสินทร์ เป็นโรงแรมในเครือ SALA ที่มีสาขาอยู่หลายแห่งในประเทศไทย โดยที่นี่เป็นโรงแรมขนาดเล็ก มีห้องพักเพียง 17ห้องเท่านั้น และมีห้องอาหาร 1 ห้อง บาร์ที่อยู่บน Roof top อีก 1แห่ง
จุดเด่นที่สุดของที่นี่คือวิว วิวที่งดงามเกินบรรยาย เนื่องจากอยู่ตรงข้ามกับวัดอรุณเลย ทำให้แทบจะทุกที่ของโรงแรมไม่ว่าจะห้องอาหาร ห้องนอน หรือRoof top เห็นวิวของวัดอรุณได้อย่างชัดเจน
สำรวจของอร่อยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
รอบอนุสาวรีย์แห่งนี้อุดมไปด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อหลายต่อหลายแห่ง ถ้ามาช่วงกลางคืนจะเห็นคนต่อคิวกันเข้า มนต์นมสดกันจนร้านแทบแตก หรือร้านเก่าแก่อย่างครัวอัปสรก็มีรสชาติดี ถ้าอยากกินอะไรง่าย ๆ ร้าน ส หน้าวังก็อิ่มอร่อยกับหมี่กระเฉดได้ในราคาไม่แพง หรือจะอิ่มอร่อยรอบดึกแบบไม่แพงก็ขอแนะนำ มิตรโกหยวน ร้านอาหารชื่อดังเก่าแก่ที่มีเมนูเด็ดคือสตูลิ้นวัว รับรองว่าถูกใจแน่นอน
เที่ยวกรุงเทพในอดีตที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์
นิทรรศรัตนโกสินทร์ เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติของกรุงเทพมหานคร โดยเสนอด้วยสื่อสมัยใหม่ที่ทำให้รู้สึกสนานไปกับการเข้าชม
การเข้าชม ต้องมีผู้นำการเดินเข้าชม เข้าไปเป็นกลุ่มเล็กๆ ค่าเข้าชม 100บาท ผู้สูงอายุฟรี เวลาในการเข้าชม ถ้าเดินทีละครึ่งก็ตกช่วงละ2ชั่วโมง ถ้ารวดเดียวก็4ชั่วโมง ถือว่าต้องใช้เวลาแทบจะทั้งวันเลย แต่รับรองว่าคุ้มค่าเวลาแน่นอน
เปิดบริการตั้งแต่ 11.00-20.00 โดยปิดวันจันทร์ ติดต่อพิพิธภัณฑ์ได้ที่ https://www.facebook.com/Nitasrattanakosin/
พักที่หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร
ห้องสมุดแห่งใหม่ล่าสุดของชาวกรุงที่เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 – 21.00 น. ด้วยบรรยากาศการตกแต่งที่ดูย้อนยุคสวยงาม พร้อมติดแอร์เย็นฉ่ำ จึงเหมาะสมมากสำหรับคนที่ต้องการพักขาระหว่างเดินเที่ยวแบบเงียบ ๆ การใช้บริการก็แค่ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็เรียบร้อยแล้ว ไม่เสียค่าบริการใด ๆ บริเวณชั้น 1 มีร้านกาแฟให้นั่งจิบกาแฟแบบสบาย ๆ ด้วย
อิ่มอร่อยกับลุงภาเจ้าเก่า
ร้านผัดไทยชื่อดังอีกร้านแถวประตูผีที่มีเมนูเด็ดคือ ผัดไทยมันกุ้งพิเศษ ใครมาก็ต้องสั่ง ราคาไม่แพงเริ่มต้นแค่ 40 บาทเท่านั้น ถ้าเพิ่มกุ้ง เพิ่มไข่ราคาก็บวกเข้าไป แต่ก็ยังไม่เกินจานละ 100 บาทอยู่ดี ขอแนะนำให้ลอง เปิดทุกวันเว้นวันพุธ 10.00-02.00 น
รื่นรมย์พิพิธบางลำพู
พิพิธภัณฑ์ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยกรมธนารักษ์ การจัดแสดงสิ่งต่าง ๆ ที่นี่ก็ตามชื่อ นั่นก็คือจัดแสดงเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับบางลำพูตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเปิดให้บริการทุกวันเว้นวันจันทร์ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. ค่าเข้าชม 100 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มที่นี่เลย https://www.facebook.com/pipitbanglamphu/
ขึ้นภูเขาทอง
วัดสระเกศราชวรมหาวิหารเป็นวัดที่อยู่คู่กับกรุงเทพมาเป็นเวลาช้านาน และสิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คงไม่พ้น บรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง เป็นเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนภูเขาจำลอง สูงเด่นเป็นสง่าที่สุดในย่าน หากอยากชื่นชมวิวเมืองจากด้านบนก็สามารถเดินขึ้นไปชมได้บริเวณรอบเจดีย์ รับรองว่าสวยงามที่สุด
เติมความสดชื่นที่ Make Me Mango
ใครรักมะม่วงต้องไม่พลาด สารพัดเมนูมะม่วงทั้งข้าวเหนียวมะม่วง สมูตตี้มะม่วง ไอศกรีมมะม่วง และอีกสารพัด กินแล้วชื่นใจเย็นใจ ดับร้อนดับกระหายระหว่างเดินเที่ยวได้ดีนักแล เปิดให้บริการ 10.30 -20.00 ทุกวัน เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ makememango
จุดแวะพักกลางกรุงที่ Farm to Table, Hideout
ร้านเก๋ ๆ ที่ตั้งสโลแกนตัวเองว่าฟาร์มกลางเมืองแถบปากคลองตลาด ให้บริการอาหารเครื่องดื่มหลากชนิดที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้าไปในเมนูหน้าตาตะวันตกเก๋ไก๋ได้อย่างลงตัวที่สุดเลย เมนูอย่าง มะม่วงเบาแช่อิ่มเชอเบทหรือไอศกรีมฟักทองจะถูกใจทุกคนได้อย่างไม่ยากเย็นแน่นอน
ดูรายละเอียดเพิ่มที่นี่ https://www.facebook.com/farmtotablehideout/
เดินชิค ๆ ที่ท่ามหาราช
ที่เที่ยวริมเจ้าพระนาสุดยอดนิยมในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีร้านค้ามากมาย บรรยากาศก็ดี ลมพัดเย็นสบาย แถมมัวิวริมฝั่งน้ำที่สวยงามเป็นของแถมอีก โดนที่นี่ใช้ concept Riverside Eatery, Urban Oasis, Art & Culture Market หรือศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่อุดมไปด้วยศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน เชื่อมความเป็นชุมชนเก่ากับสิ่งก่อสร้างสมัยใหม่เอาไว้ได้อย่างลงตัว
ชมอะไรสนุก ๆ ที่ Museum Siam
หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตชีวามากที่สุดของสยามประเทศ ที่นี่นอกจากจะมีนิทรรศการจัดแสดงแบบถาวรที่น่าสนใจแล้ว ยังมีส่วนจัดแสดงหมุนเวียนชั่วคราวที่มักจะมีงานน่าสนใจมาก ๆ มาโชว์อยู่เรื่อย ๆ เรียกว่าไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเพราะว่ทุกครั้งที่มาเยือนจะได้เห็นอะไร ๆ ที่แตกต่างไม่ซ้ำกันเลย
เดินชิมเยาวราช
ย่านกลางคืนที่มีสีสันมากที่สุด ถือเป็น China town ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย แทบจะทุกซอกซอยอุดมไปด้วยของน่ารับประทานเต็มไปหมด แถมยังปิดกันดึกมากซะด้วย ใครที่ชอบเดินช่วงกลางคืนไม่ควรพลาดที่นี่เด็ดขาด
ลองอาหารเวียดนามที่ Tonkin Annam
ร้านอาหารเวียดนามรสชาติเยี่ยมที่ซ่อนตัวอยู่แถวท่าเตียนตรงข้ามกับวัดโพธิ์พอดีเลย ที่นี่มีอาหารเวียดนามรสชาติดีในแบบที่ไม่เคยลองกินที่อื่นหลายอย่าง ทั้งแหนมเนืองที่แป้งและวิธีกินไม่เหมือนที่อื่น เพราะแป้งจะไม่ต้องแช่น้ำ กินเข้าไปตอนแรกก็คิดว่าจะแข็ง แต่พอลองเคี้ยวก็นิ่มอร่อยทันทีเลย เมนูอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กันในราคามิตรภาพ ตบท้ายด้วยกาแฟเวียดนามใส่ไข่ ออกแนวขนมหวานปิดท้ายมื้อ อิ่มอร่อยได้ทั้งวันตั้งแต่ 11.00 – 22.00 ติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/tonkinannam/
ที่พัก
ถ้ากำลังหาที่พักสำหรับเป็นฐานในการเที่ยวในย่านเมืองเก่าโดยที่มีข้อแม้คือ เดินทางไปเที่ยวไหนต่อไหนสะดวก สงบไม่วุ่นวาย ห้องใหม่และสะอาด ปลอดภัย ราคามิตรภาพ บริการด้วยใจ PHO HOSTEL น่าจะเป็นคำตอบที่ถูกต้องสำหรับหลาย ๆ คน
โรงแรมเล็ก ๆ เปิดใหม่เมื่อกลางปีนี้ให้บริการโดยสองสถาปนิกหนุ่ม การออกแบบตกแต่งจึงหายห่วง เรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง โดยเด่นสะดุดตาตั้งแต่โถงทางเข้าที่มีการออกแบบบริเวณฝ้าเพดานอย่างมีเอกลักษณ์ หากดูดี ๆ จะเห็นว่าเหมือนเจดีย์กลับหัว เพราะคอนเซปของฝ้าคือภาพเงาสะท้อนของยอดเจดีย์นั่นเอง แถมเพิ่มความโดดเด่นด้วยการตกแต่งฝาผนังด้วยสังกะสีลอน เมื่อสะท้อนกับหลอดไฟจากฝ้าแล้ว ออกมาเป็นลายที่สวยงามแถมเคลื่อนไหวได้ด้วยยามที่หลอดไฟส่ายไปมา ไอเดียล้ำจริง ๆ
สถานที่ตั้งน่าจะเป็นจุดเด่นที่สุดของที่นี่ เพราะอยู่ในซอยตรงข้ามกับวัดโพธิ์เลย จะเดินไปวัดพระแก้ว สนามหลวง มิวเซียมสยาม หรือปากคลองตลาดก็ไม่ได้ไกลจนเกินไป เรื่องอาหารการกินก็มีให้เลือกหลายต่อหลายร้านไม่ต้องกลัวอด
ห้องพักมีให้บริการทั้งแบบ dorm และห้องเดี่ยว เลือกพักได้ตามอัธยาศัยเลย อ่อ แล้วอย่าลืมขึ้นไปดูที่ roof top ของโรงแรมล่ะ วิวสวยงามคุ้มค่าเดินขึ้นไปแน่นอน
ติดต่อที่พักได้ที่ https://www.facebook.com/phohostel/
การเดินทาง
การเดินทางในย่านนี้ค่อนข้างลำบากถ้าใช้รถส่วนตัว เนื่องจากรถติดและหาที่จอดรถยากมาก บางครั้งสถานที่ที่เราจะไปห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรแต่ต้องขับรถวนหาที่จอดกันเป็นชั่วโมง ครั้นจะใช้รถตุ๊ก ๆ ก็ต้องต่อรองราคากันจนหน้ามืด บางทีเรียกราคาแพงกว่าปกติไป 2 เท่าก็มี
ฉะนั้นวันนี้เราเลยขอเสนอการเดินทางอีกรูปแบบที่ทั้งสะดวกสบายและราคาไม่แพงนั่นก็คือ TUK TUK HOP นั่นเอง
TUK TUK HOP เป็น App เรียกรถตุ๊ก ๆ ที่สามารถใช้เรียกรถเป็นราคาเหมารายวันได้ทุกเมื่อ ใช้กี่ครั้งก็ได้ เพื่อไปเที่ยวตามจุดต่างๆที่อยู่ในแอพของ Tuk Tuk Hop ในช่วงเวลา 8:30 –18:00 น
การใช้งานก็ง่ายมาก แค่โหลด App จาก www.tuktukhop.com/home#download ซื้อรหัสใช้งานผ่านทางช่องทางต่าง ๆ แล้ว LOGIN ใช้งาน จากนั้นก็เลือกจุดที่จะให้ตุ๊ก ๆ มารับและไปส่งได้จากใน App เลย จากนั้นก็รอคนขับรับงานและก็เดินไปรอที่จุดรับได้เลย จะใช้งานกี่ครั้งก็ได้ สะดวกสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถและการต่อรองค่าโดยสารเลย
ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ใน APP ของ Tuk Tuk Hop ก็มีรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้พร้อมสรรพ อยากไปไหน อยากรู้ว่าที่นี่มีอะไรดีก็กดอ่านได้เลยง่าย ๆ สบาย ๆ
จากที่ลองนั่งและเรียกผ่านแอพในวันธรรมดา ใช้เวลาเรียกและรอรถไม่นาน เฉลี่ย 2-3 นาทีรถก็มาถึงแล้ว ถ้าไปกัน 2-3 คนก็นั่งค่อนข้างสบาย และในอนคตจะมีรถตุ๊ก ๆ ไฟฟ้ารุ่นใหม่กว้างขวางถึง 6 ที่นั่งให้บริการอีกด้วย นั่งสบาย ๆ ได้เป็นหมู่คณะเลย
โดยราคาค่าบริการของ Tuk Tuk hop ก็จะมีดังนี้
1 คน ราคา 399 บาท
2 คน ราคา 599 บาท (เฉลี่ยคนละ 299 บาท)
3 คน ราคา 699 บาท (เฉลี่ยคนละ 233 บาท)
4 คน ราคา 799 บาท (เฉลี่ยคนละ 199 บาท)
เด็กที่มีส่วนสูงต่ากว่า 100 ซม. ใช้บริการฟรี
ค่าเช่าพ็อคเกตไวไฟราคา 49 บาทต่อวัน
ถ้ามากัน 4 คนก็ตกแค่คนละ 200 บาทเท่านั้นเอง นั่งได้รวมกันถึง 10 ชั่วโมงเลย
ติดต่อเพิ่มเติมได้เลยที่
Email: [email protected]
สถานที่ทำการ: ท่ามหาราช สามารถติดต่อทีมงานได้ที่ตู้ขายตั๋วเจ้าพระยาทัวริสต์โบ้ท ที่ท่ามหาราช
เบอร์มือถือ/LINE/WhatsApp/weChat: +66 90 063 2660
www.tuktukhop.com
