เมืองจีนกว้างใหญ่ไพศาลเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์มากมายยากที่เราจะหยั่งถึงกันได้ นั่นเป็นสาเหตที่ทำให้ใครต่อใครกลับไปเยือนเมืองจีนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนบางทีจำนวนนิ้วมือก็ไม่สามารถนับจำนวนครั้งที่ไปเยือนได้พอ
และถ้าให้ยกเมืองยอดนิยมของแดนมังกรขึ้นมาสักเมืองหนึ่ง ชื่อของ กุ้ยหลิน ย่อมต้องถูกเอ่ยถึงจากปากของใครหลายคนอย่างแน่นอน
กุ้ยหลินเป็นเมืองในมณฑลกวางสี มีชื่อเสียงในฐานะเมืองที่มีภูมิทัศน์เขาหินปูนที่ดูสวยงามแปลกตาราวกับภาพแห่งความฝัน จนมีการนำเอาชื่อกุ้ยหลินไปเปรียบเทียบกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของแต่ละประเทศมากมายทีเดียว ทั้ง กุ้ยหลินเวียดยนาม กุ้ยหลินเมืองลาว หรือกุ้ยหลินเมืองไทยก็มีเช่นกัน
วันนี้เราจะขอมาแนะนำ 8 สิ่งที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนกุ้ยหลินให้ได้ชมกัน และเพื่อให้พิเศษยิ่งขึ้น ทริปคราวนี้เราไปพร้อมกับคุณอาที่น่าเคารพอย่าง ” อาหนิง ” นิรุตติ์ ศิริจรรยา พิธีกรมากความสามารถจากรายการ ลีลามี ทางช่อง 3 Family ฉะนั้นมาดูกันว่า ทริปนี้ อาหนิง และพวกเราจะติดใจอะไรที่กุ้ยหลินกันบ้าง
ล่องเรือแม่น้ำหลีเจียง
สายหมอกที่ล่องลอยตามสายลมพัดปลิวไปกระทบยอดเขาสูงชันสลับซับซ้อนรูปร่างแปลกตา เกิดเป็นภาพแห่งความฝันที่ศิลปินจีนรุ่นแล้วรุ่นเล่า บรรยายออกมาผ่านปลายพู่กันออกมาเป็นภาพเขียน
ถ้ามาที่กุ้ยหลินแล้วไม่ได้ล่องตามแม่น้ำหลีเจียงเพื่อชมความงามของภูมิทัศน์แล้วก็นับว่ามาไม่ถึงกุ้ยหลิน เพราะตลอดระยะเวลาการล่องเรือราวสามชั่วโมง ทิวทัศน์ที่แปลกตาหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยนเข้ามาให้ชมอย่างแทบตั้งตัวไม่ทัน เสมือนสายน้ำที่ทะลักจากเขื่อนและถาโถมเข้ามาแบบไม่มีวันหยุด ฉะนั้นนี่เป็นกิจกรรมที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ชมถ้ำที่น่าอัศจรรย์
ทั่วทั้งบริเวณกุ้ยหลินและรอบนอกมีถ้ำน้อยใหญ่อยู่มากมาย แต่ละถ้ำมีการจัดการประดับแสงสีไว้อย่างที่เรียกว่า ไม่ใช่ที่เมืองจีนไม่มีทางเห็นอย่างแน่นอน เพราะถ้าไปชมถ้ำในแถบยุโรป เขาจะประดับไฟด้วยสีเหลืองหรือขาวเป็นส่วนใหญ่ แต่ที่จีนนั้น ไฟหลากสีดูจะได้รับความนิยมมากกว่า ฉะนั้น เมื่อย่างเท้าเข้าไป หลาย ๆ คนเลยรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการยังไงยังงั้นเลย โดยถ้ำที่เขาว่ากันว่าใหญ่และสวยที่สุดก็คือ ถ้ำขลุ่ยอ้อ (Reed Flute cave) นั่นเอง
นาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตา
ห่างจากตัวเมืองกุ้ยหลินไปประมาณ 2 ชั่วโมง มีมังกรกำลังหลับอยู่ แน่นอนว่าไม่ใช่มังกรตัวเป็น ๆ หรอก แต่เป็นนาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตาที่วางตัวอยู่บนเทือกเขาที่เสมือนมังกร เป็นที่มาของชื่อ หลงจี๋ (龙脊 ) ที่แปลว่าสันหลังมังกร นั่นเอง
ถ้านับว่าที่นาทั้งหมดเป็นสันหลังมังกร คงต้องเป็นมังกรที่ตัวใหญ่เอามาก ๆ และว่ากันว่าเป็นนาขั้นบันไดที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย โดยสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทั้งสี่ฤดู ทั้งช่วงฤดูฝนที่สีเขียวแบบที่เราไป ฤดูหว่านที่เป็นน้ำสะท้อนท้องฟ้า ฤดูเก็บเกี่ยวที่เป้นสีทองอร่าม และฤดูหนาวที่ปกคลุมด้วยหิมะ
ชมวิถีชาวประมง
เนื่องจากกุ้ยหลินเป็นเมืองที่ติดแม่น้ำ และไม่ได้ติดทะเล ฉะนั้นปลาที่หาทานได้ก็ต้องเป็นปลาแม่น้ำเท่านั้น ฉะนั้นอาชีพชาวประมงจึงมีมาแต่สมัยโบราณ โดยชาวประมงที่แถบนี้มีจุดเด่นที่การใช้นกในการจับปลานั่นเอง โดยฝึกให้นกลงไปจับปลาและนำขึ้นมาให้ชาวประมง ในปัจจุบันนั้นในตัวเมืองกุ้ยหลินอาจจะไม่มีการจับปลาแบบนี้แล้ว จะมีก็เพียงนกที่โชว์ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเท่านั้น ต้องออกไปหาตามเมืองประมงเล็ก ๆ ที่ห่างเมืองใหญ่ออกไปถึงจะเห็นการจับปลาด้วยนกจริง ๆ แบบสมัยก่อน
ทานอาหารกวางสีที่ขึ้นชื่อ
ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารจีน คนไทยส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบอยู่แล้ว แต่แท้จริงแล้วอาหารจีนนั้นมีมากมายหลายชนิดเหลือเกิน ด้วยความกว้างใหญ่ไพศาลของประเทศจีนนั้นเอง ทำให้อาหารทางใต้กับทางเหนือต่างกันมากจนเหมือนอาหารคนละประเทศเลยทีเดียว แต่รับรองได้ว่าอาหารในแถบนี้ถูกปากคนไทยได้อย่างไม่ยาก เพราะที่นี่ทานเผ็ด และเป็นความเผ็ดจากพริกสดแบบที่ชาวไทยชอบเสียด้วย ฉะนั้นอย่าพลาดที่จะลองชิมอาหารในแถบนี้อย่างเด็ดขาด
เดินถนนคนเดิน
ขึ้นชื่อว่าเมืองจีนแล้ว ถนนคนเดินมักมีสิ่งน่าอภิรมย์ให้หยุดแวะดูอยู่เสมอทุกเมือง โดยเฉพาะใครที่ชอบความคึกคักและบรรยากาศสนุกสนาน แนะนำให้เดินในช่วงพลบค่ำถึงกลางคืนกันเลย เพราะถนนคนเดินที่นี่คึกคักเป็นที่สุดในเวลาค่ำคืน โดยเฉพาะ Yangshuo West Street หรือถนนฝรั่งในเมืองหยางซัว นั้น เต็มไปด้วยสีสันอย่างที่สุด ทั้งร้านรวงขายของขายขนมต่าง ๆ หรืออาหารหาบเร่แผงลอยที่มีเสน่ห์แบบสุด ๆ รับรองว่าค่ำคืนที่ถนนคนเดินจะไม่มีวันเงียบเหงาแน่นอน
ล่องแพแบบชาวบ้าน
ถ้าการล่องเรือใหญ่ ๆ ยังไม่จุใจล่ะก็ ขอแนะนำให้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาล่องแพเล็ก ๆ แบบชาวบ้านดูบ้าง ซึ่งใกล้ ๆ กับตัวเมืองหยางซัวนั้นมีแพให้เช่าอยู่อย่างมากมาย โดยการล่องแพนั้นจะได้ใกล้ชิดน้ำมากกว่า เดินทางช้ากว่า และได้สัมผัสกับทุกสรรพสิ่งรอบตัวมากกว่า ฉะนั้น ลองเปลี่ยนบรรยากาศมาล่องแพบ้างก็น่าสนใจไม่หยอก
เดินชมเมืองอย่างไม่เร่งรีบ
ในเมืองกุ้ยหลินนั้นมี Landmark ที่สวยงามอยู่หลายอย่าง ทั้งเจดีย์เงินเจดีย์ทอง ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง หรือเขางวงช้างที่เป็นเขาหินปูนที่มีรูปร่างเหมือนงวงช้างที่สวยงาม รวมทั้งสวนสาธารณะต่าง ๆ ที่แสนจะร่มรื่น ลองใช้เวลาอย่างช้า ๆ เดินชมทีละอย่าง ใช้เวลาให้คุ้มค่า แล้วอาจจะพบว่า เวลา 24 ชั่วโมงที่นี่ มีค่ามากกว่าที่อื่นก็ได้นะ
นั่นคือกุ้ยหลินที่ อาหนิง นิรุตติ์ ศิริจรรยา และพิธีกรคู่หู พี่เอ๋ ณัฐพงษ์ จอมบดินทร์ พาพวกเรา Travelkanuman ไปสัมผัสมา 6 วัน 5 คืนแบบเต็มอิ่ม แน่นอนว่ามันเป็นทริปแห่งความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนได้ทริปหนึ่งเลยทีเดียว
และหากอยากรู้จักทริปนี้ของเรามากขึ้นติดตามชมได้ทางรายการ “ Leela Me … มีลีลา ” ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 – 14.00 น ทางช่อง 3 family และรายการ “ รอบจาน รอบโลก ” “รอบจานรอบโลก” ในวันอาทิตย์ เวลา 17.00-18.00น. ที่ช่อง 3 SD