NAGANO
ในหมู่เมืองท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่กำลังเติบโตและเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น มีหลายเมืองที่มีเอกลักษณ์มากมายต่างกันออกไป ทั้งด้านวัฒนธรรม ธรรมชาติ สถาปัตยกรรม
แต่จะมีซักกี่จังหวัดกันที่มีของดีมากมายหลากหลาย ทั้งโบราณสถานชื่อดังอันสวยงาม ธรรมชาติอันน่าหลงไหล และสัตว์น้อยที่ทั้งน่ารักและแปลกอย่างที่สุด
เรากำลังจะพาทุกคนเข้าไปรู้จักเมืองนั้น นั่นคือ NAGANO นั่นเอง
NAGANO เป็นจังหวัดในภูมิภาค Chubu หรือแถบภาคกลางของประเทศญี่ปุ่น มีเมืองหลวงของจังหวัดในชื่อเดียวกันคือ Nagano ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง ทำให้มีอากาศหนาวเย็น จึงเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับท่องเที่ยวในฤดูหนาว แต่ในฤดูอื่น ๆ ก็มีแหล่งท่องเที่ยวไว้รองรับอย่างดีเหมือนกัน
การเดินทาง
การเดินทางเริ่มจากโตเกียวก็ทำได้ไม่ยากเลย เพราะมีรถ Shinkansen ให้บริการจากสถานี Tokyo ใช้เวลาเดินทางถึงเมืองที่ใใกล้ที่สุดอย่าง Karuizawa เพียง 60 กว่านาทีเท่านั้นเอง โดยเราสามารถใช้ JR PASS ได้เลย โดยสามารถจอง JR Pass กับTraveloka ได้ตามลิ้งค์นี้เลย
https://www.traveloka.com/
ส่วนการเดินทางในจังหวัดก็ทำได้ง่าย ๆ โดยทางรถไฟ ทั้งรถไฟด่วน รถไฟท้องถิ่น และรถบัส หรือจะขับรถเที่ยวเองก็ไม่ได้ลำบากแต่อย่างใดเลย
ส่วนตั๋วจากญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้มีหลากหลายสายการบินมากที่บินตรงไปลงโตเกียว บางทีก็จะงง ๆ เพราะเที่ยวบินเยอะมาก ๆ แนะนำให้ลองหาจากเวปจองตั๋วที่มีการเทียบราคาอย่างเช่น Traveloka เพราะว่าจองง่ายมาก Interface เข้าใจไม่ยาก เลือกจุดหมายปลายทางและวันเดินทาง ก็มีสายการบินและราคามาให้เราเลือกแล้ว แถมราคาดี มีช่องทางการจ่ายเงินหลายทางด้วย เข้าไปจองตั๋วไปญี่ปุ่นได้ที่เวป Traveloka
https://www.traveloka.com/
เอาล่ะจบเรื่องการเดินทางกันแล้ว และในวันนี้เราจะขอมาแนะนำเมือง NAGANO อย่างเจาะลึก เพราะเมืองนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากมาย เรียกได้ว่าจังหวัดเดียวเที่ยว10 วันก็ยังไม่ครบเลยทีเดียว
NAGANO และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ในตัวเมือง Nagano City (長野) แม้จะเป็นเมืองหลวงของจังหวัด ที่มีความเจริญมากที่สุด แต่ก็ยังมีสถานที่หลายแห่งที่ยังคงมนต์ขลังเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะในด้านประวัติศาสตร์อันยาวนาน หรือบรรยากาศที่ลึกลับน่าค้นหามีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดใจ และมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ระดับ TOP ของจังหวัดอยู่หลากหลายแห่ง เราไปดูกันว่าในตัวเมือง Nagano มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
TOGAKUSHI SHRINE ( 戸隠神社 )
Togakushi Shrine ศาลเจ้ากลางป่าที่มีบรรยากาศสงบเงียบและงดงามในแบบของตัวเองอย่าที่สุด แค่ย่างก้าวเดินเข้าไปท่ามกลางกลุ่มต้นไม้ซีด้าร์ ที่สูงใหญ่ ก็ทำให้เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว
ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่นิยมทั้งสำหรับผู้ที่มีความศรัทธา นักเดินป่า และนักท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งจุดที่ควรมาสัมผัสบรรยากาศอย่างยิ่ง
การเดินทางไป : ขึ้นบัส 70 หรือ 71 จากสถานี Nagano
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
เวลาให้บริการ : 8:00 – 17:00
Zenkoji Temple (善光寺)
หนึ่งในวัดที่สำคัญมากที่สุดของญี่ปุ่นแห่งนี้ตั้งอยู่กลางเมืองเลย ความสำคัญที่สุดของวัดนี้ก็คือเป็นวัดแห่งแรกในญี่ปุ่นที่นำพระพุทธรูปมาประดิษฐานตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ฉะนั้นที่นี่จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพุทธศาสนาในประเทศญี่ปุ่น ภายในวัด มีทางเดินลงไปที่ underground passage ทางเดินใต้ดินที่มืดสนิท ไม่มีแสงไฟ ว่ากันว่าเป็นทางเดินเพื่อหาทางสู่สวรรค์ นอกจากนี้ในบริเวณรอบทางเดินเข้ามาที่วัด ยังมีร้านค้าและร้านอาหารที่น่าสนใจอีกหลายร้านให้เลือกซื้อหาด้วย
การเดินทางไป : จากสถานีรถไฟ Nagano แล้วเดินต่อราว 15 นาที
ค่าบริการ : underground passage ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
เวลาให้บริการ : หนึ่งชั่วโมงก่อนพระอาทิตย์ขึ้น – 16:30
Togakure Ninpo Museum (善光寺)
ที่แถบนี้ถือเป็นจังหวัดที่เป็นที่ฝึกนินจาชั้นเยี่ยมมาตั้งแต่สมัยโบราณ ที่นี่จึงมีโรงเรียนนินจาอยู่จริง ๆ จะว่าไป วิชานินจาก็คือวิชาลอบสังหารดี ๆ นี่เอง โดยผู้ฝึกหัดวิชานินจาจะถูกส่งมาโรงเรียนที่นี่ และพอจบการศึกษาก็จะถูกกระจายไปตามหัวเมืองต่าง ๆ เพื่อเป็นองครักษ์หรือนักฆ่าให้กับเจ้าเมืองต่าง ๆ
ในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเครื่องมือนินจาต่าง ๆ การจัดแสดงโชว์หลายอย่าง ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมงในการชม
การเดินทางไป : ขึ้นบัส 70 หรือ 71 จากสถานี Nagano เพื่อไป Togakushi ลงที่ป้าย Togakushi-Okushairiguchi (戸隠奥社入口, 65 นาที, ราคา 1350 เยน, 1 คันต่อชั่วโมง )
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
เวลาให้บริการ : 9.00 – 17:00
Togakure Ninpo Museum (善光寺)
เรียกว่าสวนสนุกนินจาสำหรับเด็กก็ได้ ที่นี่มีที่เล่นในธีมนินจาสำหรับเด็ก ๆ มากมาย ทั้งปาดาวกระจาย ฐานทรงตัว พิพิธภัณฑ์นินจา และอื่น ๆ อีกเพียบ ใครพาน้อง ๆ หนู ๆ มาเที่ยวรับรองว่าถูกใจแน่นอน
การเดินทางไป : ขึ้นบัส 70 หรือ 71 จากสถานี Nagano เพื่อไป Togakushi ลงที่ป้าย Togakushi-Okushairiguchi (戸隠奥社入口, 65 นาที, ราคา 1350 เยน, 1 คันต่อชั่วโมง ) จากนั้นเดินต่อ 15 นาที
ค่าบริการ : ค่าเข้า 500 เยน จ่ายค่าเครื่องเล่นต่างหาก
เวลาให้บริการ : 9.00 – 17:00
ที่พักแนะนำ Hotel Metropolitan Nagano
โรงแรมหรูที่มีจุดเด่นที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟ NAGANO เลย ฉะนั้นจึงเหมาะสมที่สุดที่จะใช้เป็นฐานที่มั่นสำหรับการสำรวจจังหวัด นากาโน่ ที่นี่ให้บริการห้องแบบตะวันตก ขนาดห้องกว้างขวางใช้ได้ สิ่งอำนวยความสะดวกครบ และมีวิวที่สวยทีเดียว
การเดินทาง : ติดสถานีรถไฟ NAGANO
ราคาเริ่มต้น : ห้องละ 16,000 เยน ( ประมาณ 5,000 บาท )
MATSUMOTO เมืองปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
เมืองที่ใคร ๆ ก็รู้จักเพราะมีหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่นตั้งอยู่ แต่นอกจากปราสาท ที่นี่ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกหลายที่เลยทีเดียว
Matsumoto castle (松本城)
ปราสาท Matsumoto ถือเป็นปราสาทไม้ที่สวยงามและทรงคุณค่ามากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เพราะถือเป็นปราสาทที่สร้างจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ และแน่นอนถูกขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติ ความทรงคุณค่าของปราสาทนี้ไม่ใช่แค่ความเก่าแก่เท่านั้น แต่ยังถือเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในภูมิประเทศที่แสนสวยงาม ถ้ามองไปถูกทิศจะเห็นเทือกเขาหิมะเป็นฉากหลังแสนสวยงาม สีของปราสาทที่เน้นความเข้มขรึมก็ช่างลงตัวกับแสงไฟที่สาดส่องยามพลบค่ำ ยิ่งบวกกับเงาสะท้อนจากน้ำรอบปราสาท ยิ่งทำให้ปราสาทที่นี่ดูสวยงามและเด่นเป็นสง่ามากยิ่งขึ้น
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Matsumoto เดินมา15 นาที
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 610 เยน เด็ก 300 เยน
เวลาให้บริการ : 8:30 – 17:00
Daio Wasabi Farm (大王わさび農場)
เดี๋ยวนี่จำนวนคนกินวาซาบิในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ฉะนั้นที่ฟาร์มวาซิบิจึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจทีเดียว
ที่นี่นอกจากจะได้ชมไร่วาซาบิที่ปกติหาชมยากแล้ว ยังมีเมนูวาซาบิหลากหลายทั้งข้าวแกงวาซาบิ มันทอดวาซาบิ หรือแม้แต่ไอศกรีมวาซาบิกับเบียร์วาซาบิก็ยังมี ขอเชิญมากทดลองกันได้เลย
การเดินทาง : นั่ง JR Oito Line จากสถานี Matsumoto ลงที่สถานี Hotaka (30 นาที, 320 เยน , 1-2 รอบต่อชั่วโมง), จากนั้นนั่งแท็กซี่ราว 10 นาที ราคาประมาณ 1,300 เยน
ค่าบริการ : ฟรี
เวลาให้บริการ : 9:00 – 17:20
Narai (奈良井)
เมืองเก่าที่เป็นเมืองครึ่งทางระหว่าง NAGOYA ถึง TOKYO มาตั้งแต่สมัยเอโดะ นักเดินทางในสมัยก่อนจึงนับเอาที่นี่เป็นเป็นจุดแวะพักยอดนิยม
ในบริเวณจะมีบ้านเก่า ๆ และร้านค้า ห้องพักหลายแห่ง สามารถเดินชมโดยได้บรรยากาศเอโดะ หรือจะพักที่นี่ก็สามารถทำได้
การเดินทาง : ขับรถจาก Matsumoto ราว 50 นาที รถไฟจาก Matsumoto 45 นาที
ที่พักแนะนำ SHOHO HOTEL
เรียวกังนอกเมืองซักนิด แต่แลกมาด้วยบรรยากาศที่สวยงามและสงบ ข้อดีคือได้วิวที่สวยงาม มีออนเซนให้แช่อย่างจุใจและอาหารอร่อยอีกด้วย
www.japanican.com/en/hotel/detail/5196002/?ar=20&sar=2002&pn=2&rn=1
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Matsumoto นั่งบัสต่อราว 15 นาที
ราคาเริ่มต้น : ห้องละ 12,000 เยน ( ประมาณ 4,000 บาท )
ที่พักแนะนำ Beuna Vista
ที่พักบริเวณตัวเมือง อยู่ห่างสถานีรถไฟมาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น โรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องกว้างพอสมควร บริเวณล็อบบี้ก็กว้างใหญ่ สามารถลงมานั่งคุยเล่นได้ ส่วนห้องอาหารชั้นบนก็มีวิวสวยงามทีเดียว
http://www.japanican.com/en/hotel/detail/5192087/
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Matsumoto เดินราว 7 นาที หรือนั่งรถของโรงแรม
ราคาเริ่มต้น : ห้องละ 11,200 เยน ( ประมาณ 4,000 บาท )
YAMANOUCHI แหล่งลิงที่ชื่อดังระดับโลก
เมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกจากลิงน้อยแสนน่ารัก น่ารักขนาดที่ใครต่อใครจากทั่วโลกต่างก็หลงไหลจนหัวปักหัวปำเลยทีเดียว ยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมาชมกัน
JIGOKUDANI MONKEY PARK
หุบเขาลิงอันน่าตื่นตาตื่นใจ จิโกคุดานิ ที่นี่มีลิงอาศัยอยู่อย่างมากมาย และไม่ใช่แค่ลิงธรรมดา แต่เป็นลิงออนเซน ลิงที่ลงไปแช่ออนเซนได้เหมือนคนเทีเดียว
เจ้าลิงภูเขาเหล่านี้ถือว่าเป้นลิงที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลยทีเดียว ไม่ว่าจะมีการจัดชาร์ทสัตว์แปลกและน่าสนใจระดับโลกกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เจ้าลิงพวกนี้ก็มักจะติดอันดับทุกครั้งไป ฉะนั้นอย่าพลาดที่จะไปสัมผัสความน่ารักของเหล่าเจ้าจ๋อพวกนี้กัน ถ้าจะให้ดีก็พักแถว ๆ นั้นซักคืน ลองแช่ออนเซนก่อนแล้วไปดูลิงแช่บ้างก็สนุกดีไม่น้อย
การเดินทาง : สถานีรถไฟ YUDANAKA แล้วต่อรถบัส 15 นาที
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน
เวลาให้บริการ : summer 8:30 – 17:00 / Winter 9.00 – 16.00
Sora terrace
ไม่ไกลจากสถานี YUDANAKA นัก มีจุดชมวิวยอดนิยมแห่งใหม่ที่ชื่อ SORA TERRACE ตั้งอยู่บนยอดเขา RYUO ขึ้นไปโดย RYUO Ropeway ที่นี่ในวันที่อากาศเป็นใจ เราจะสามารถเห็นทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ตกได้เลยทีเดียว (เสียดายที่ไปสองครั้งแล้วไม่เห็นเลยซักครั้ง )
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Yudanaka แล้วจะมี Free shuttle bus ตรงสู่กระเช้าเลย ใช้เวลา 20 นาที
โรงฝึกยิงธนูแบบโบราณ
ใครเคยเห็นฉากรบในหนังญี่ปุ่นโบราณที่มีซามูไรยิงธนูด้วยท่าทางองอาจแล้วล่ะก็ คุณจะต้องปลื้มกับการฝึกยิงธนูที่นี่อย่างแน่นอน เพราะอาจารย์ท่านจะสอนให้เราตั้งแต่ประวัติศาสตร์ของธนูและการรบ ไปจนขั้นตอนแรกของการฝึก จนเราสามารถฝึกยิงได้จริง ในโรงฝึกที่แสนมีเอกลักษณ์ และท่านพูดภาษาอังกฤษได้
ถ้าสนใจจะฝึกยิงธนู ลองติดต่อที่คุณลุงของที่พัก Yudanaka seifuso ได้เลย สถานที่ฝึกไม่ไกลจากที่พักนัก
หรือดูรายละเอียดได้ที่ http://www.avis.ne.jp/~miyasaka/index-e.html
ที่พักแนะนำ Yudanaka seifuso
ที่พักสุดน่ารักที่บริหารงานโดยลุงกับป้าที่แสนใจดี อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ YUDANAKA เท่าไหร่ สามารถเดินลงจากสถานีแล้วลากกระเป๋าเข้าพักได้เลย จากที่นี่เราสามารถนั่งรถบัสไปดูลิงหิมะได้เลย หรือบางทีลุงหรือมัตสึโอะซังผู้ช่วยคุณลุง ก็ทำหน้าที่คนขับรถไปส่งให้เราด้วย ที่นี่มีออนเซนลอยแอปเปิ้ลให้แช่ด้วย อาหารเช้าและเย็นที่ให้บริการก็มีรสชาติดี มาพักที่นี่เหมือนมาพักกับญาติผู้ใหญ่เลยทีเดียว
http://www.yudanaka-seifuso.com/english/
การเดินทาง : สถานีรถไฟ YUDANAKA
ราคา เริ่มต้นที่ 5,000 เยน ต่อคน ( ห้องละ 10,000 เยน )
CHIKUMA ทุ่งนาสีเขียวแสนสดใส
Obasute , Chikuma ทุ่งนาข้าวสีเขียวแสนสดชื่น
เมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเร
บางคนอาจจะถามว่านาข้าวที่ไทยก็มี จะดั้นด้นไปดูที่ญี่ปุ่นทำไ
นั่นเพราะถึงเป็นนาข้าวเหมือนกั
ถ้ามาช่วงรวงข้าวสีทอง อากาศก็จะเย็นเป็นของแถมด้ว
IIYAMA สวรรค์ของคนรักความสงบ
ที่ NAGANO มีเมืองเล็ก ๆ ที่ยังคงมีความสงบอยู่หลายแห่งเลยทีเดียว เนื่องจากมีพื้นที่เกษตรกรรมและภูเขาอยู่มาก ดังนั้นเราจะสามารถหา Homestay น่ารัก ๆ หรือบ้านแบบ Log cabin สวย ๆ ได้ไม่ยากเลย
เมืองที่เราขอแนะนำให้ไปเยือนคือ IIYAMA เมืองชื่อไม่คุ้นหูแต่สวยงามไม่ได้แพ้เมืองไหนเลย ที่เมืองนี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมซะส่วนใหญ่ มีทุ่งนาขนาดใหญ่อยู่ทั้งบริเวณ ผลิตผลทางการเกษตรก็เยอะ จุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์ชนบทอันแสนจะน่าประทับใจ และในช่วงเดือน พค ดอกไม้สีเหลืองจะบานสะพรั่งทั่วเมือง เป็นภาพที่สวยงามเกินจะบรรยายเลยทีเดียว
Takahashi Mayumi Museum of Doll Art
Museum ที่เก็บเอาตุ๊กตาผ้าที่น่าสนใจที่ได้รับการออกแบบและสร้างโดยศิลปินชื่อดัง Takahashi Mayumi ตุ๊กตาที่จัดแสดง จะแสดงถึงวิถีชนบทที่เรียบง่าย แต่ดูแล้วต้องยิ้มตามอย่างมีความสุขเลย
การเดินทาง : จากสถานี IIYAMA นั่งรถต่อไปที่สถานี Kita IIYAMA แล้วเดินต่อ 5 นาที
ค่าบริการ : 610 เยน
เวลาให้บริการ : 9:00 – 17:00
ที่พักแนะนำ KANOE
ถ้ามีโอกาส แนะนำให้พักสบาย ๆ ที่นี่ดู ที่เราไปพักคือ Kanoe เป็นโรงแรมเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่กลางทุ่งอันแสนกว้างใหญ่ ที่นี่เราจะได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบทอย่างเต็มที่เลยทีเดียว อาหารต่าง ๆ ก็จะนำเอาวัตถุดิบในพื้นที่มาปรุง รับรองว่าสดอร่อยไม่แพ้ที่ไหนเลย
SHIKISAI NO YADO KANOE
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ IIYAMA นั่งรถบัสหรือรถโรงแรมต่อไปราว 20-30 นาที
ราคา : เริ่มต้นคนละ 5000 เยน
ที่พักแนะนำ MADARAO Kogen
ที่พักแบบ SKI RESORT ที่มีวิวสวยงามอย่างที่สุด ที่นี่เห็บวิวรอบทิศทาง 360 องศาเป็นเทือกเขาสวยงามล้วน ๆ ที่พักมีทั้งแบบตะวันตกและญี่ปุ่น เลือกได้ในราคาไม่แพงเลย นอกจากนี้ยังมีบริการอื่น ๆ พร้อมสรรพ ทั้งออนเซน ลานสกี หรือกิจกรรมผาดโผนต่าง ๆ
ราคา : เริ่มต้นคนละ 12,000 เยน
HAKUBA กับ หิมะ หิมะ และ หิมะ
นากาโน่ ถือเป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านหิมะเป็นอย่างมาก มากขนาดไหนน่ะเหรอ ? ก็ขนาดที่เคยจัดโอลิมปิคฤดูหนาวมาแล้วน่ะสิ
ที่นี่มีสถานที่เล่นสกีชื่อดังมากมาย วิวทิวทัศน์ในฤดูหนาวก็สวยงามสุดแสนจะบรรยาย ถ้าต้องการมาสัมผัสวิวหิมะสวย ๆ แนะนำให้มาช่วงเดือน มค ถึง มีค หิมะกำลังสวยงามเลยทีเดียว โดยเฉพาะในบริเวณ Hakuba ที่มีภูเขาหิมะสวย ๆ และลานสกีดี ๆ มากมายเลย
Mountain Harbour
ที่เที่ยวใหม่ล่าสุดบนเขา Iwatake นั้นเราจะได้สัมผัสวิวภูเขา
เค้าจัดเตรียมที่พักและเก้า
BALLOON & PARAGLIDING
กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างเมื่อมาที่ HAKUBA นั่นคือการกระโดดร่มชมวิวทิวทัศน์ที่แสนสวยงามของเมือง HAKUBA นั่นเอง ที่นี่เค้ามีให้ทั้งกระโดดเองหรือโดดพร้อมผู้เชี่ยวชาญ สำหรับคนทั่วไปนั้นกระโดดพร้อมผู้เชี่ยวชาญนี่ปลอดภัยหายห่วงในราคาประมาณ 14,000 เยน ( 4,000 บาท ) เทียบกับประสบการณ์ที่ได้รับแล้วคุ้มค่ามาก ๆ
ส่วนบอลลูนในฤดูอื่น ๆ จะเป็นการบินขึ้น ลง ในแนวดิ่งเท่านั้น ในราคาราว 3,000 เยน ส่วนฤดูหนาวจะพิเศษเพราะบอลลูนจะลอยไปทั่วท้องฟ้า HAKUBA เลยทีเดียว
ติดต่อได้ที่ Sky Blue Happo One Paragliding School (Tandem Flights)
Reservation: Web or E-mail (English)
Tel: 0261-72-7013
E-mail: [email protected]
ที่พักแนะนำ shiroumaso
โรงแรมขนาดเล็กน่ารักที่การบริการเป็นเยี่ยม ที่นี่บริหารงานกันแบบครอบครัว ห้องพักไม่มาก แต่ได้รับรางวัลการันตีระดับโลกมาอย่างมากมาย ราคาก็แสนจะเป็นมิตรอีกด้วย
วิวตอนกลางคืนที่นี่สวยมาก ๆ เพราะอยู่ติดลานสกีเลยทีเดียว หากจะไปเล่นสกีก็เดินแค่นิดเดียวเท่านั้น หากไปพักลองเรียกหา TOSHISAN ผู้ดูแลที่แสนน่ารักดู
การเดินทาง
โตเกียว→ชินคันเซน(สายอาซามะ)→สถานีนากาโนะ→รถบัสอัลพิโก→ฮะคุบะ ฮัปโป→ชิโระอุมะโซ [2.5ชั่วโมง]
จองที่ http://www.shiroumaso.com/thai/
ราคา : เริ่มต้นคืนละ 10,000 เยน
KARUIZAWA กลางธรรมชาติป่าเขาอันแสนสวยงาม
ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่งดงามไม่แพ้ที่ไหนในญี่ปุ่น มีลำธารสวยใสและน้ำตกมากมายหลายแห่ง หรือธรรมชาติที่แปลกตาอย่างอุทยานภูเขาไฟก็มีให้เข้าไปชมความสวยงามกัน
โดยน้ำตกที่มีชื่อเสียงก็คือ Shiraito Falls น้ำตกที่มีน้ำไหลลงมา 180 องศาดูสวยงามเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในฤดูใบไม้แดง สีสันจะสวยงามอย่างที่สุด
แหล่งธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งก็คือ Onioshidashi Volcanic Park สวนหินภูเขาไฟที่มีเอกลักษณ์ ถือเป็นสวนภูเขาไฟเพียงไม่กี่แห่งในโลก
ทั้งสองแห่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวใน Karuizawa เมืองตากอากาศชื่อดังของญี่ปุ่น (เทียบกับไทยก็คงประมาณหัวหินนั่นเอง )
ที่พักแนะนำ Cottage in Log cabin
ถ้าจะไปเยือนแนะนำให้พักที่ตัวเมือง Karuizawa โดยเราแนะนำโรงแรม Cottage in Log cabin ที่พักบรรยากาศบ้านซุง ดูอบอุ่นน่ารัก แถมยังมีชาบูและสุกี้ให้บริการอีกด้วย
http://www.log-cabin.co.jp/en/
ราคาเริ่มต้น 6000เยนต่อคน
ราคา : เริ่มต้นคืนละ 10,000 เยน
KAMIKOCHI ภาพฝันกลางธรรมชาติ
แม้จะไม่ได้มรีชื่อเสียงมากมายนักในประเทศไทย แต่ที่ญี่ปุ่น Kamikochi จัดเป็นเป้าหมายอันดับท็อปสำหรับการไปพักผ่อนเลยทีเดียว เนื่องจากที่นี่มีทุกอย่างที่อุทยานหนึ่งพึงจะมีได้ ทั้งน้ำที่ใสราวกระจก ป่าไม้เขียวชอุ่ม ท้องฟ้าสดใส ดอกไม้สีสันงามตา และแน่นอนว่าอากาศที่แสนบริสุทธิ์อย่างที่สุด
ที่นี่ห้ามมีการนำรถส่วนตัวเข้ามาเนื่องจากข้อกำหนดทางสิ่งแวดล้อมซึ่งก็เป็นข้อดีที่ทำให้ยังคงรักษาความงดงามเอาไว้ได้ และหากมีแรงพอ แนะนำให้เดิน trekking ในอุทยาน ทั้งสนุกและได้ชมวิวงาม ๆ ตลอดทางเลย
ปล. ที่นี่เปิดแค่ช่วงหน้าร้อนประมาณเดือนเมษายน ถึงพฤศจิกายน ฉะนั้นอย่าไปผิดฤดูกาลล่ะ
วิธีการเดินทางทำได้หลายแบบทั้งจาก Takayama หรือเมือง Matsumoto
ถ้าเดินทางมาจากเมืองอื่นมีรถบัสตรงให้บริการจากหลายเมืองถึงที่อุทยานเลย
หรือจาก Matsumoto นั่งรถไฟสาย Matsumoto ไปลงสถานี Shin Shimashima แล้วต่อรถบัสเข้าไปอีก 1 ชั่วโมง
ที่พักแนะนำ KAMIKOCHI LEMEIESTA HOTEL
โรงแรมหรูหราบรรยากาศตะวันตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในชัยภูมิที่แสนงดงาม เพียงมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นภูเขาหิมะและลำธารสวยใสอยู่ตรงหน้าแล้ว ยิ่งวันที่ฟ้าเป็นใจกลางคืนจะสามารถชมดาวได้อย่างเต็มอิ่มเลยทีเดียว
ห้องพักที่นี่มีทั้งแบบตะวันตกและญี่ปุ่นให้เลือก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งส่วนกลาง ออนเซน และร้านอาหารที่เสิร์ฟดินเนอร์ชุดฝรั่งเศสที่อร่อยจนต้องติดใจเลย
จากที่นี่ยังสามารถเดินในเส้นทางสำรวจธรรมชาติในระยะทางที่ไม่ไกลอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่มาพักเป็นครอบครัว
จองที่ http://www.japanican.com/th/hotel/detail/5204002/
ราคาเริ่มต้น 30,000เยนต่อคน รวมอาหารสองมื้อ
ที่พักแนะนำ Tokusawa lodge
โรงแรมกลางอุทยานสำหรับคนรักความสงบ เพราะต้องเดินเข้าไปกว่า 2 ชั่วโมง แม้จะเหนื่อยแต่สิ่งที่แลกกลับมาคือความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ตอนกลางคืนเราจะสามารถเห็นดาวได้อย่างเต็มตา ห้องพักมีทั้งแบบดอร์มและห้องคู่ เลือกได้ตามอัธยาศัย
จองที่ http://www.tokusawaen.com/english.html
ราคาเริ่มต้น 10,000เยนต่อคน
OBUSE เมืองเกาลัดและศิลปิน
เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ระหว่างนากาโน่กับ Yamanouchi นี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องเกาลัด เราจะสามารถพบหาผลิตภัณฑ์จากเกาลัดได้อย่างมากมายตั้งแต่เค้ก ขนมหวาน อาหารต่าง ๆ เป็นของฝากชื่อดังเลยทีเดียว ขนาดทางเดินในเมืองยังใช้ไม้จากต้นเกาลัดมาปูเลย
นอกจากเกาลัดแล้วที่นี่ยังโด่งดังจากศิลปินที่ชื่อโฮคุไซ จิตรกรเอกที่รังสรรผลงานชื่อดังมากมาย ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักมาก็ได้แค่ภาพคลื่นแบบญี่ปุ่นที่คงจะคุ้นตากันจากหน้าปก JRPASS นั่นเอง
หากมีเวลา การแวะพักที่เมืองนี้หลังจากไปชมลิงแช่ออนเซนก็เป็นไแเดียที่ดีไม่น้อย
SUWA เมื่ออาทิตย์ลาลับกลางทะเลสาบ
SUWA มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะมีทะเลสาบที่ใหญ่มากกลางเมือง ทำให้โรงแรมรีสอร์ทรอบ ๆ ทะเลสาบนี้มีมากมายหลายโรงแรม ด้วยความใหญ่โตนี้เอง ยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า เราจะเห็นผืนน้ำโดนฉาบด้วยแสงสีของพระอาทิตย์อย่างสวยงาม เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่เหมาะเจาะเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวจะอยู่รอบ ๆ ทะเลสาบ ที่น่าสนใจที่สุดก็ได้แก่ SUWA Glass center ที่เป็นพิพิธภัณฑ์รวบรวมแก้วแปลก ๆ และสวย ๆ มาให้ได้ชมกัน นอกจากนี้เรายังสามารถทำผลิตภัณฑ์แก้วด้วยตัวเองได้อีกด้วย และแน่นอนเก็บกลับไปเป็นของที่ระลึกได้
วิธีการชมเมืองนอกจากขับรถเที่ยวแล้วยังมี Duck tour ที่เราจะสามารถนั่งรถสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกชมเมืองทั้งจากบนบกและในน้ำได้อย่างเพลิดเพลิน
ที่พักแนะนำ Sousen-no-yado SUHAKU
โรงแรมทำเลดีที่อยู่ริมทะเลสาบ ที่นี่เราสามารถชื่นชมวิวทะเลสาบได้จากบนห้องเลยทีเดียว โดยเฉพาะห้องชั้นสูง ๆ โดยสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่ก็ครบครัน รวมถึงออนเซนด้วย
ห้องเป็นห้องแบบญี่ปุ่นมาตรฐาน กว้างขวางใช้ได้ ที่ชอบคือชุดอาหารเย็นที่มีเนื้อเสียบไม้ย่าง อร่อยถูกใจคนชอบเนื้อมากเลย แต่ถ้าไม่กินเนื้อก็มีชุดอาหารทะเลให้เลือกชิมกันก่อนจะไปแช่ออนเซนชมวิวทะเลสาบให้สบายใจ
จองที่ http://www.japanican.com/th/hotel/detail/5184020/
ราคาเริ่มต้น 23,800เยนต่อห้อง
KOMORO เมืองปราสาทเล็ก
เมืองเล็ก ๆ ที่หลาย ๆ คนมองข้ามไป แต่ที่นี่มีของดีที่ซ่อนอยู่ นั่นคือซากปราสาทเก่า ถึงแม้จะเหลือเพียงฐานรากและทางเข้าก็ตาม แต่ที่เป็นทีเด็ดก็คือในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและสีชมพูดูสวยงามอย่างที่สุด ถึงกับติดอันดับจุดชมซากุระที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
นอกจากนี้ในบริเวณที่ราบสูงของเมืองเราก็ยังสามารถเที่ยวสวนดอกไม้และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ ได้อีกหลายแห่งเลย ที่โดดเด่นก็คือเราสามารถเดินขึ้นไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ ASAMA ได้ด้วย ซึ่งทั้งสวยงามและน่าตื่นเต้นมากทีเดียว
ที่เมืองนี้ยังเป็นแหล่งพักผ่อนของชาวญี่ปุ่นในละแวกที่จะมาหาเรียวกังดี ๆ นอนแช่ออนเซนให้สบายในวันหยุดสุดสัปดาห์อีกด้วย
ที่พักแนะนำ Nakadanaso
หนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในเมือง มีทั้งความสวยงาม เก่าแก่และสงบ บริหารงานโดยเถ้าแก่วัยหนุ่ม NAOKI SAN ที่คอยมาดูแลต้อนรับแขกด้วยตัวเองกับภรรยา การบริการจึงน่าประทับใจอย่างที่สุด
ที่นี่ให้บริการห้องพักแบบญี่ปุ่นที่กว้างขวาง มีออนเซนให้บริการ อาหารเย็นที่ให้บริการนั้นรวมในค่าที่พักในราคาย่อมเยาว์ นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีฟาร์มองุ่นทำไวน์ของตัวเอง จะทดลองสั่งไวน์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมาชิมแกล้มอาหารก็เข้าท่าไม่หยอก
จองที่ http://www.japanican.com/en/hotel/detail/5107004/?ar=20
ราคาเริ่มต้น 20,000เยน ต่อคนรวมอาหารสองมื้อ
นั่นคือ นากาโน่ เมืองที่เราขอแนะนำให้ลองไปเยือนซักครั้งหนึ่ง เมืองขนาดใหญ่ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย รับรองไปครั้งหนึ่งแล้วจะติดใจจนต้องไปซ้ำอีกอย่างแน่นอน