การเดินทางทุกครั้งมีราคาของมัน แน่นอนว่าหลาย ๆ ครั้งที่เราเดินทางแบบค่ำไหน นอนนั่น ตามสัญชาตญานนั้นจะให้ความรู้สึกอิสระ และไม่ถูกผูกมัดจากกำหนดการต่าง ๆ แต่ในบางครั้ง เราก็จำเป็นต้องมีการวางแผนเตรียมตัวล่วงหน้ากันบ้าง เพราะส่วนใหญ่แล้ว การวางแผนเดินทางก่อน มักจะทำให้การเดินทางประหหยัดลงมากอย่างเหลือเชื่อทีเดียว บางครั้งอาจจะถูกลงกว่าครึ่งเลยก็เป็นได้
และนี่คือเช็คลิสท์ขั้นตอนต่าง ๆ ของเรา สำหรับสิ่งที่ควรเตรียมตัวก่อนจะออกเดินทาง เพื่อความประหยัดที่สุด
1. วางแผนการเดินทางล่วงหน้า
สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทำสำหรับนักเดินทางราคาประหยัดก็คือ วางแผนการเดินทางล่วงหน้านั่นเอง การวางแผนการเดินทางล่วงหน้าในที่นี้ไม่ได้หมายถึงวางแผนล่วงหน้า 1 เดือน หรือ 2 เดือน แต่หมายถึงวางแผนล่วงหน้าประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือบางทีก็วางแผนข้ามปีกันเลยทีเดียว
หลายคนมักจะบอกว่า ไม่มีทางรู้เลยว่าปีหน้าจะว่างหรือไม่ว่าง หรือจะต้องมีเหตุอะไรที่ทำให้ไปไม่ได้หรือเปล่า อันนี้ขอเสนอว่าให้ลองคุยกับหัวหน้าดู ( ในกรณีเป็นพนักงานบริษัท ) หรือถ้าทำงานอิสระก็ต้องตั้งข้อกำหนดของตัวเองขึ้นมาเลยว่า ฉันจะไปช่วงนี้ของปีหน้านี่แหละ 10 วันนี้ห้ามใครยุ่งกับฉัน ถ้าจะมีงานก็ต้องทำให้เสร็จก่อนกำหนด หรือไม่ก็เริ่มงานใหม่หลังกลับมาจากการเดินทาง
อาจจะดูเหมือนยาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งเรามีกำหนดการที่แน่ชัดมากเท่าไหร่ เรายิ่งกำหนดชีวิตของเราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น เพราะเรารู้ล่วงหน้าแล้วว่า ช่วงเวลาเหล่านั้นเราจะไม่อยู่ เราสามารถทำงานเตรียมเอาไว้ก่อน หรือฝากฝังเพื่อนร่วมงานให้สานต่อได้
คราวนี้พอเรามีกำหนดล่วงหน้าแล้ว เราก็จะสามารถดำเนินการในข้อต่อ ๆ ไปได้โดยหมดห่วงแล้ว
2. ตั๋วเครื่องบิน
ถ้าเราสังเกตุดูดี ๆ ในยุคสมัยนี้มีตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่นออกมาอย่างมากมาย หลาย ๆ สายการบินพยายามที่จะแข่งขันกันออกโปรโมชั่นราคาถูกเพื่อยึดพื้นที่ในสื่อ แน่นอนว่าตั๋วประเภทนี้บางทีต้องจองกันข้ามปี หรือบางครั้งก็มีวันเดินทางที่ไม่ค่อยจะสวยซักเท่าไรนัก แต่ถ้ามันแลกมาด้วยเงินที่จ่ายน้อยลงไปหลักหมื่นล่ะก็ มันก็คุ้มค่าเสี่ยงไม่ใช่หรือ ?
ยกตัวอย่างเช่น ตั๋วไปยุโรปที่ส่วนใหญ่จะราคาประมาณ 30,000 บาทนั้น ณ เวลานี้ ตั๋วโปรโมชั่นราคาประมาณ 20,000 กว่าบาทหาไม่ได้ยากเท่าไหร่เลย มีออกมาเรื่อย ๆ โดยสายการบินชั้นนำเสียด้วย หรือถ้าโชคดีกว่านั้น หลาย ๆ สายการบินที่ออกเส้นทางใหม่มักจะมีโปรโมชั่นเปิดเส้นทางที่ถูกอย่างเหลือเชื่อออกมา อย่างเส้นทางไปยุโรปในราคาต่ำกว่าหมื่นก็เคยมีมาแล้ว หรือเส้นทางญี่ปุ่นในราคา 6-7000 ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้
3. วางแผนเดินทาง
หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินมาเรียบร้อยแล้ว เราก็อย่างนิ่งนอนใจ รีบวางแผนเดินทางกันเลยดีกว่า เพราะการวางแผนเดินทางนั้น จะกำหนดทั้งหมดของทริปว่าจะไปที่ไหนบ้าง คุ้มราคาไหม และจะประหยัดได้จากส่วนไหนบ้าง
การวางแผนเดินทางเหมือนกับการเล่นเกมที่มีทางเลือกอย่างมากมายนับไม่ถ้วน เราจำเป็นต้องเลือกจุดที่เราอยากจะไป เลือกเส้นทางที่ไม่ลำบากหรือเดินทางนานเกินไป เลือกวิธีการเดินทาง ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่มีอะไรถูกหรือผิดทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างที่เราจัดที่เราทำไปนั้น เพื่อตัวเราเอง ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะเห็นบางคนเลือกเส้นทางที่ไกลหรือเส้นทางที่ดูราคาแพง ดูไม่ควรจะลงทุนไป แต่หากผู้เดินทางยืนยันว่าจะไปเพราะว่าชอบ หรือเป็นจุดหมายในฝันแล้ว แผนการที่ดูไม่เมคเซ้นท์ก็จะดูเข้าใจได้ขึ้นมาทันที
ฉะนั้นการเลือกวางแผนเดินทางจึงถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์ ( การคำนวน เส้นทาง ระยะ ราคา ) กับอารมณ์ ( ความรู้สึก แรงดึงดูดให้อยากไปโดยไม่มีเหตุผล ) เลือกให้พอเหมาะ และอย่าลืม แพลนแผน B C D ไว้เผื่อด้วยก็จะดี
4. ที่พัก
การจองที่พักก็เหมือนกับตั๋วเครื่องบิน คือจะมีช่วงเวลาโปรโมชั่น เวปอย่าง Expedia หรือ Booking ก็มีช่วงเวลาโปรโมชั่นมาเรื่อย ๆ แต่ที่สำคัญมากกว่าโปรโมชั่นก็คือ ในหลาย ๆ ช่วงเวลานั้น ที่พักในเมืองต่าง ๆ จะถูกจับจองอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้ที่พักที่คุณภาพดีและราคาถูกมักจะไม่มีที่ว่างเหลือให้คนที่คิดช้าเท่าไรนัก หลาย ๆ คนจึงแปลกใจเสมอเมื่อมีเพื่อนมาบอกว่าสามารถพักที่เมืองนี้ได้ โดยที่พักราคาคืนละแค่ 1500 บาท แถมทำเลดีมาก ห้องกว้างน่าอยู่ แต่ทำไมตัวเองจ่ายกว่า 3000 บาท แต่ได้สิ่งที่ไม่สมราคา
โดยเฉพาะช่วงเวลาทอง อย่างเช่น ช่วงเทศกาลในเมืองต่าง ๆ ที่พักยิ่งถูกจองเร็วมาก บางทีอาจจะต้องจองข้ามปีกันเลยทีเดียว ฉะนั้น อย่านิ่งนอนใจเรื่องที่พักเป็นอันขาด
ที่สำคัญ พยายามให้การจองที่พักนั้นยืดหยุ่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อาจจะมีหลาย ๆ ที่ที่จองแบบสามารถยกเลิกได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เผื่อเอาไว้สำหรับกรณีที่เราต้องการเผลี่ยนเส้นทางโดยกระทันหัน ซึ่งหลาย ๆ โรงแรมก็มีบริการยกเลิกโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเอาไว้ด้วย
5. ตั๋วเดินทาง
จะรถบัส เครื่องบิน หรือรถไฟก็มีโปรโมชั่นเช่นเดียวกัน รถไฟของหลาย ๆ ประเทศ ยกตัวอย่างเช่นที่เราเคยเจอที่อิตาลี ที่นี่มักจะมีโปรโมชั่นล่อตาล่อใจเสมอ ๆ โดยค่าโดยสารรถไฟไปไหนก็ได้แค่ 9 ยูโรเท่านั้น ฉะนั้น ทริปจาก โรมขึ้นมิลานที่ปกติราคาหลายสิบยูโรก็จะเหลือแค่ 9 ยูโรเท่า แค่ 300 บาท!!!
หรืออีกที่ที่มีประสบการณ์แสนประทับใจ ( ในความถูก ) ก็คือที่สหราชอาณาจักร มีรถบัสบริษัทหนึ่งที่มีโปรโมชั่น 1 ปอนด์ไปไหนก็ได้ ในตอนนั้น เราจองราคา 1 ปอนด์ไม่ทัน แต่ก็สามารถนั่งรถจากลอนดอนขึ้นไป เอดินเบอระได้ด้วยราคา 4 ปอนด์ หรือ 200 บาทเท่านั้น
ฉะนั้นการเช็คตั๋วล่วงหน้าก็จะทำให้เราประหยัดได้มากเลยทีเดียว แต่ข้อเสียก็คือ ตั๋วพวกนี้ซื้อแล้วซื้อเลย คืนไม่ได้ เปลี่ยนไม่ได้ ฉะนั้นวันเดินทางของเราต้อง FIX ขยับไม่ได้ จึงเหมาะสำหรับช่วงที่ต้องเดินทางระยะไกลเสียมากกว่า
ตัวอย่างเช่น ทริปของเรามี 15 วัน ใน7 วันแรกเราก็เที่ยวในภูมิภาคนึงแบบหลวม ๆ สบาย ๆ แล้วจองตั๋วรถไฟหรือเครื่องบิน Lowcost ไปอีกภูมิภาคนึง แล้วก็เที่ยวอีก 8 วันที่เหลือแบบหลวม ๆ ถ้าตามแผนนี้ เราก็จะมีข้อกำหนดแค่วันที่ 7 เท่านั้นที่จะต้องเดินทางข้ามภูมิภาค ส่วนวันอื่น ๆ ก็ยังขยับได้ ไม่โดนบีบรัดจนเกินไป
ที่สำคัญคือ อย่ายึดติดกับการเดินทางเพียงชนิดเดียว ควรจะดูการเดินทางในทุกรูปแบบ และเทียบเวลากับราคา ทั้งรถไฟ รถบัส เครื่องบิน ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย เปรียบเทียบให้ดีก่อนตัดสินใจ
6.ระบบการสื่อสาร
ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้เราสามารถติดต่อหรือทำงานผ่านทางโลกไซเบอร์อย่างง่ายดาย และที่สำคัญมีหลายทางเลือกให้เราเลือกใช้ซะด้วย ฉะนั้นเช็คให้ดีก่อนเดินทางว่าทางไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ไม่ว่าจะการโรมมิ่ง การเช่า Pocket wifi หรือการซื้อซิมท้องถิ่น ทุกวิธีต่างมีข้อดีข้อเสียทั้งนั้น