อิตาลี มหาอำนาจของโลกในยุคก่อน ดินแดนที่ร่ำรวยทั้งอารยธรรมและประวัติศาสตร์อันแสนยิ่งใหญ่ ดินแดนที่เต็มไปด้วยสถาปนิก นักออกแบบ และจิตรกรชื่อดังระดับโลกจำนวนมากมายที่มาฝากผลงานเอาไว้ที่แผ่นดินแห่งนี้ ทำให้ปัจจุบันทั่วทั้งประเทศ มีสถาปัตยกรรมที่แสนงดงามตั้งตระหง่านรอให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชื่นชมความงามแห่งอดีตอันน่าหลงไหลอย่างไม่ขาดสาย
และนี่คือ 5 เมืองแห่งดินแดนรองเท้าบู๊ท ที่เราอยากแนะนำให้ไปเสพสถาปัตยกรรมอันแสนอัศจรรย์กัน
AMALFI & POSITANO
ทางตอนใต้ของกรุงโรม ชายฝั่งทางตอนใต้ของคาบสมุทร Sorrentine Peninsula มีแนวชายฝั่งที่มีหมู่บ้านน้อยใหญ่เรียงรายเกาะแนวชายทะเลไปหลายสิบกิโลเมตร ที่นั่นเรียกรวม ๆ ว่า Amalfi coast ชายหาดที่ว่ากันว่าไม่เพียงแค่งดงามที่สุดในประเทศแห่งนี้เท่านั้น แต่ยังติดอันดับหาดที่งดงามที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้งด้วย และเมืองที่เราคิดว่าสวยงามที่สุดของถนนเส้นนี้คือ Amalfi กับ Positano นั่นเอง
ทั้งสองเมืองนั้นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมทะเล มีสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ไล่เรียงระดับลดหลั่นกันไปจากบนเขาไปจนสุดชายหาด เมื่อมองจากจุดชมวิวของทั้งสองเมือง เราจะเห็นหลังคากระเบื้องดินเผาสีแดงมากมายเรียงรายกันอย่างสวยงามเป็นที่สุด โดยกระเบื้องดินเผาหรือ Terracotta นี้ เป็นหลังคาที่นิยมใช้กันมากในอิตาลีและแพร่กระจายความนิยมไปยังประเทศแถบข้างเคียงด้วยความสวยงาม ทนทาน และประโยชน์ใช้สอย ความงดงามนี้ทำให้จิตรกรชาวอิตาเลี่ยนหลาย ๆ คน นิยามทิวทัศน์แห่งนี้ว่า สวยงามเหมือนรูปวาดมากกว่าจะเป็นความจริง

แน่นอนว่าจุดเด่นของที่นี่ก็คือทะเลนั่นเอง แนวบ้านเรือนที่ลดหลั่นเป็นสีแดงจากหลังคาตัดกันกับผืนทะเลสีน้ำเงินเข้มของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนออกมาเป็นภาพฝันที่เข้ากันเป็นที่สุด และถ้ามาที่นี่ ก็อย่าลืมทานอาหารทะเลรสเลิศและลองผลิตภัณฑ์จากมะนาวที่เป็นของขึ้นชื่อของที่นี่ด้วย
SIENA
เมืองหลักอีกเมืองหนึ่งของแคว้นทัสคานีควบคู่ไปกับ Florence ด้วยบ้านเรือนที่เก่าแก่ มีเอกลักษณ์ทั้งตัวสถาปัตยกรรม การวางผังเมืองที่สวยงาม ถ้าลองได้เดินเข้าไปที่เมืองนี้แล้ว จะเหมือนเดินเข้าไปไปตรอกที่มีกำแพงล้อมไว้ทั้งสองด้านเลยทีเดียว เดิน ๆ ไป ก็นึกว่าเดินอยู่ในเขาวงกตยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
นอกจากนี้บริเวณกลางเมืองยังมีหอคอยชมวิวที่จะสามารถเห็นทะเลหลังคา Terracotta ไปพร้อม ๆ กับวิวของ Tuscany อันลือชื่อได้พร้อม ๆ กันอีกด้วย โดยภาพหลังคาสีแดงนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของแถบ Tuscany นี้ไปแล้ว หาดนึกถึงไอแดด เนินสลับซับซ้อน และทุ่งหญ้าแล้ว ก็แทบจะต้องนึกภาพบ้านเรือนสีโทนอุ่นทั้งเหลืองแดง ประดับด้วยกระเบื้องหลังคา Terracotta ควบคู่กันทุกครั้งไป นับว่าเป็นบ้านที่มีสไตล์โดดเด่นมาก
และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คือจัตุรัสอันเลื่องชื่อ Piazza del Campo จัตุรัสแห่งนี้ถูกใช้เป็นสนามแข่งม้าในช่วงเทศกาล ทำให้เซียน่าเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย และด้วยภูมิทัศน์รอบด้านที่เป็นเนินหญ้าสลับซับซ้อนเหมือนภาพในความฝัน ทำให้เพิ่มความน่าไปเยือนมากขึ้นไปอีกหลายขั้นทีเดียว
VERONA
ถ้าในวงการหนังสือ ละครเวที หรือหนัง ไม่มีใครไม่รู้จัก Romeo and Juliet นิยายชื่อก้องโลกของเชคสเปียร์ ที่ว่าด้วยความรักโรแมนติคของหนุ่มสาวที่สถานะไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ และ Verona เมืองนี้นี่เองที่เป็นเมืองตามท้องเรื่องที่เกิดตำนานความรักนี้ขึ้น และถ้าแค่นั้นยังไม่เพียงพอจะดึงดูดให้ไปเยือน ที่นี่ก็ยังมีสิ่งก่อสร้างที่ถือว่าเก่าแก่และสำคัญในประวัติศาสตร์อื่น ๆ ให้เยี่ยมชมอีกมาก อย่างเช่น ARENA ที่เป็นสนามที่สร้างมาก่อนโคลอสเซียมอันโด่งดังเสียอีก

นอกจากนี้ บ้านเรือนในเมืองและลานต่าง ๆ ในเมืองก็ล้วนแต่สวยงามและคึกคักเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมืองเก่านั้นไม่ได้มีขนาดใหญ่มากมาย อีกทั้งยังตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ทำให้ไม่ค่อยจะแออัดเหมือนเมืองเก่าอื่น ๆ มีบริเวณเปิดโล่ง โชว์ให้เห็นบ้านเรือนเดี่ยว ๆ ทั้งหลังเล็ก หลังใหญ่ อวดสายตาอยู่ตามเนินเขาต่าง ๆ โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านบนจะเห็นบ้านต่าง ๆ ที่ไล่เรียงระดับเป็นทะเลสีแดงสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียวเชียว จากหลังคาสีแดงที่เป็นสไตล์ของบ้านเมืองแถบนี้

LUCCA
เมืองเด่นแห่งแคว้น TUSCANY อีกแห่งหนึ่ง เป็นเมืองหลวงของจังหวัด LUCCA จุดเด่นของที่นี่คือกำแพงเมืองโบราณที่ล้อมรอบเมืองเก่าทั้งเมืองเอาไว้ จนถึงปัจจุบันนี้ กำแพงและตัวเมืองเก่าก็ยังคงสภาพที่สมบูรณ์สวยงาม ผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปีได้อย่างสวยงาม
จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่ก็คือลานกลางเมืองอันสวยงาม Piazza Anfiteatro โดยตั้งอยู่ที่กลางเมืองเก่า เป็นการระเบิดพื้นที่เป็นลานเปิดโล่งสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ในเมือง โดยตัวลานมีลักษณะเป็นวงรีดูสวยงามเมื่อมองจากมุมสูง
สถาปัตยกรรมของเมืองนี้ก็คงความงดงามมากว่าพันปี บริเวณเมืองเก่านั้นจะเป็นบ้านเรือนที่ผ่านยุคสมัยมาแล้วหลายรุ่น ทั้งยังมีสีสันที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์อย่างที่สุด วิธีการชื่นชมความงามของที่นี่ที่ดีที่สุดก็คงไม่พ้นการขึ้นไปชมจากหอคอยเลืองชื่อของเมืองนี้อย่าง Torre Guinigi และ Torre delle Ore ซึ่งจากด้านบน เราจะเห็นบ้านที่มีเอกลักษณ์ซึ่งประดับด้วยหลังคา Terracotta หลายร้อยหลังเรียงกันอย่างสวยงามเหลือเชื่อ
BOLOGNA
โบโลญญ่า เป็นเมืองหลวงของแคว้น Emilia – Romagna และยังนับเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นอีกด้วย และหากนับจำนวนประชากร ก็ถือว่าเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นลำดับที่เจ็ดในประเทศทีเดียว โดยมีผู้อยู่อาศัยในเขตชั้นในอยู่ราว 1 ล้านคน
โบโลญญ่า นับเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานโดยในยุคเริ่มแรกที่มีการตั้งถิ่นฐานนั้น ต้องย้อนกลับไปถึงกว่า 1000 ปีก่อนคริสตกาล และเคยเป็นเมืองที่ใหญ่ติดอันดับหนึ่งในห้าของยุโรปในยุคกลางเลยทีเดียว และยังเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1088 และทำให้เมืองนี้กลายเป็นเมืองการศึกษาตั้งแต่อดีต ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยเวลาเดินในเมืองก็จะเห็นประชากรที่อยู่อาศัยในเมืองเป็นเด็กวัยรุ่นมากกว่าที่เมืองอื่นอีกด้วย
และแน่นอนด้วยความเก่าแก่และเป็นผู้นำทางการศึกษาแบบนี้ ทำให้มีสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจหลายแห่งถูกสร้างขึ้นบริเวณเมืองเก่า รวมถึงวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้อีกด้วย ฉะนั้น ถ้ามาอิตาลี ก็ไม่ควรจะพลาดซึมซับบรรยากาศของเมืองมหาวิทยาลัยแห่งนี้เด็ดขาด
แถมอีกหนึ่งเมืองเนื่องจากตัดใจไม่ลง ต้องพ่วงเมืองสุดสวยนี้มาอีกเมืองหนึ่ง นั่นก็คือ
VENICE
เมืองแห่งคลองที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ไม่มีนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้จักเวนิส และหากไม่มาเวนิส การไปเยือนอิตาลีก็คงไม่สมบูรณ์แบบเท่าที่ควร นอกจากความงามของเมืองที่ตั้งในเกาะใหญ่แล้ว ถ้าเรานั่งเรือออกไปก็ยังไม่เกาะเล็ก ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายเกาะเช่นเกาะ MURANO หรือ BURANO

และด้วยความที่เป็นเมืองท่าสำคัญ ทำให้เวนิสในอดีตมีบ้านเรือนที่เจริญเอามาก ๆ โดยถ้าอยากจะชมความงามของเวนิสอย่างเต็มที่ ต้องล่องเรือเท่านั้น เพราะในสมัยก่อน ด้านของอาคารที่ติดน้ำถือเป็นหน้าบ้าน ฉะนั้น ความงามของอาคารต่าง ๆ จึงมารวมกันอยู่ที่ด้านติดคลองนั่นเอง โดนลักษณะของหน้าตาอาคารแต่ละแห่งนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามแต่อารมณ์ของศิลปิน ทั้งประตูหน้าต่างที่ราวกับจะแข่งขันกันประชันความงาม และตัวหลังคาที่มีการปูอย่างมีเอกลักษณ์
จากเมืองทั้ง 5 เมืองใน ITALY ที่เราแนะนำมา จะเห็นได้ว่าลักษณะสถาปัตยกรรมของอิตาลีนั้น มีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างชัดเจน ทั้งรูปร่างหน้าตาของอาคาร การออกแบบ Space การตกแต่งภายใน และหนึ่งในเอกลักษณ์ที่เห็นชัดที่สุดก็คือหลังคานั่นเอง
ส่วนใหญ่แทบจะทุกเมือง จะมีการใช้หลังคากระเบื้องดินเผา ( Terracotta ) โดยกระเบื้อง Terracotta นั้นมีรากศัพท์มาจากภาษาอิตาเลี่ยน และนิยมใช้อย่างแพร่หลายมากมาอย่างยาวนานแล้ว ทั้งกับตัวสถาปัตยกรรมชั้นสูงต่าง ๆ ไล่มาจนถึงบ้านเรือนในเขตตัวเมือง โดยจะนิยมทำออกมาในสีโทนแดงอมส้ม และด้วยคุณสมบัติของดินที่มาทำเป็นกระเบื้องนั้นมีรูพรุนขนาดเล็กจึงทำให้บ้านเย็น โดยจะเห็นว่าในเมืองเก่าต่าง ๆ นั้นจะใช้กระเบื้อง Terracotta แทบจะทั้งเมืองเลยทีเดียว
มาลองทำบ้านของเราให้เป็นสไตล์อิตาเลียนกันเถอะ
ในไทยเองตอนนี้ก็มีหลาย ๆ สถานที่นิยมใช้ Terracotta ในการตกแต่งหลังคาให้ดูสวยงามเหมือนกับที่อิตาลีกันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะแถบเขาใหญ่ที่นิยมสถาปัตยกรรมแบบ Tuscany มาก ๆ จะเห็นได้ว่าที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งในเขาใหญ่ก็จะออกแบบมาในลักษณะเดียวกับเมืองในอิตาลีนี่แหละ และด้วยคุณสมบัติที่ทำให้ตัวอาคารเย็นขึ้นด้วย ทำให้เป็นที่นิยมและเหมาะสมกับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยมากทีเดียว
ฉะนั้นหากอยากจะลองสร้างบ้านหรือตกแต่งบางส่วนของบ้านให้ได้อารมณ์เดียวกับที่อิตาลี นอกจากการออกแบบรูปลักษณ์อาคารแล้ว การเลือกหลังคา Terracotta ให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็นเหมือนกัน โดยในปัจจุบันนี้ก็มีกระเบื้อง Terracotta ของ SCG ที่วางขายอยู่ ถ้าอยากลองตกแต่งบ้านในแบบอิตาเลียน ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scgbuildingmaterials.com/th/products/SCG-Clay-Tile-Terracotta-Roman-Palmilla/8852439020157