
ภาคใต้ของไทยเรานับเป็นขุมทรัพย์ทางการท่องเที่ยวที่ประเมินค่าไม่ได้อย่างแท้จริง เนื่องจากความงดงามของธรรมชาติที่แสนจะหลากหลาย ทั้งทะเล ป่า ภูเขา เกาะแก่ง ลำธาร เขื่อน ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ยังบริสุทธิ์และสวยงามอย่างที่สุด นี่ยังไม่รวมถึงอาหารที่อร่อย และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
และหนึ่งในจังหวัดที่คนไปเที่ยวกันมากที่สุด ก็คงไม่พ้น
พังงา
เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวระดับหัวหอกอย่างหมู่เกาะสิมิลัน เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวอยู่ ( แม้ว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้เลยก็ได้ว่า หมู่เกาะสิมิลันอยู่จังหวัดพังงา ) แต่รู้ไหมว่าพังงาเป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายมากกว่าที่คิดอย่างมากมาย มากขนาดที่เที่ยวเดือนนึงอาจจะยังไม่หมดด้วยซ้ำไป
ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำที่เที่ยวของพังงาที่เราได้ไปสัมผัสแล้วบอกได้คำเดียวว่า ห้ามพลาด !!!!!
หมู่เกาะแสนสวยกับทะเลแสนใส
แน่นอนว่านี่คือจุดขายที่ทำให้จังหวัดพังงามีคนเข้ามาชมอย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะสิมิลัน สุรินทร์ หรือตาชัย ล้วนแต่เป็นจุดหมายในฝันของผู้ที่ชื่นชอบทะเลทั้งสิ้น และไม่ใช่แค่กับชาวไทย แม้แต่ชาวต่างประเทศเองก็ยอมข้ามน้ำข้ามทะเลมานับพันไมล์เพื่อมาสัมผัสความสวยสุดยอดของที่นี่

ทุ่งสะวันน่าแห่งเดียวของเมืองไทย
ทุ่งสะวันน่า !!! ฟังไม่ผิด ทุ่งแบบเดียวกับที่เราเห็นฝูงม้าลายวิ่งเล่นกันในแอฟริกานั่นแหละ เราสามารถหาชมได้ที่นี่ จังหวัดพังงา โดยออกเรือไปที่เกาะพระทอง หมู่เกาะที่ได้ชื่อว่า กาลาปากอสแห่งเมืองไทย เพราะมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติอย่างมาก จนมีหลาย ๆ องค์กรต่างชาติต้องส่งคนมาวิจัยธรรมชาติที่นี่กัน
ถ้าอยากชมทุ่งหญ้าสีเหลืองทองสวยงามสุดลูกหูลูกตา อย่าพลาดที่จะไปชม ติดต่องานส่งเสริมการท่องเที่ยว อบต.เกาะพระทอง 085-781-7902 สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวโดยชุมชน พักค้างโฮมสเตย์ได้ที่ 080-692-0039
ทะเลหมอกสุดตระการตา
พูดถึงทะเลหมอก คนส่วนใหญ่ก็จะนึกภาพไปถึงดอยที่ภาคเหนือกัน แต่ที่นี่พังงา อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะที่นี่มีทะเลหมอก และไม่ใช่ทะเลหมอกเล็ก ๆ แต่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามตระการตาอย่างที่สุด ที่จุดชมวิวเขาไข่นุ้ยนั่นเอง ที่นี่ ถ้าเรามาในช่วงเช้า เราจะสามารถขึ้นไปชมทะเลหมอกกำลังไหลลงทะเลพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
สามารถติดต่อได้ที่คุณโจ อบต.ทุ่งมะพร้าว โทร 084 309 9222 ค่ารถขึ้น-ลงเหมาคันละ 600 บาท นั่งได้ 6 คน หากมีจำนวนมากกว่านั้นเหมาราคา 800 บาท
ชายหาดกับพระอาทิตย์ตก
ไม่ใช่แค่บนเกาะเท่านั้นที่มีทะเลสวยงาม แต่เลียบชายฝั่งตลอดแนวที่ติดกับทะเลอันดามัน หาดของพังงาสวยสดอย่างที่สุด มีทั้งชายหาดที่ยาวที่สุดในประเทศ ชายหาดที่มีจุดชมวิวอันแสนสวยงามเหมือนต่างประเทศ อย่างเขาหน้ายักษ์ ฉะนั้น แค่อยู่บนฝั่ง เราก็สามารถสัมผัสทะเลแสนสวยได้แล้ว
คลองฉายา Little Amazon
คลองที่ได้ชื่อว่า Little Amazon แห่งพังงา ชาวบ้านรู้จักในชื่อคลองสังเน่ห์ ที่นี่เป็นลำคลองลัดเลาะไปตามป่าอันแสนอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์หลายชนิดอยู่รอบบริเวณ ที่นี่ให้บรรยากาศการผจญภัยพร้อม ๆ ไปกับความร่มรื่นและการได้สูดกลิ่นไอธรรมชาติอย่างเต็มปอด ค่าเรือพายนำเที่ยว ลำละ 500 บาท (นั่งได้ 2 คน) เรือยนต์ลำละ 800 บาท (นั่งได้ 2 คน)
ถ้ำและน้ำตก
ที่นี่มีถ้ำและน้ำตกที่สวย ๆ หลายแห่งเช่นกัน เช่น ถ้ำใหญ่ ถ้ำแจ้ง ถ้ำมืด ในบริเวณวัดสุวรรณคูหา ที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามคู่กับโบราณสถานที่ทรงคุณค่า ส่วนน้ำตกนั้น เนื่องจากที่นี่มีเขาหลายลูกทำให้มีน้ำไหลจากยอดเขาหลายทางเกิดเป็นน้ำตกหลายสาย เช่น น้ำตกลำปี น้ำตกโตนไพร ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลได้ดีเลยทีเดียว
อาหารใต้รสจัดจ้าน
อาหารของภาคใต้ ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องความจัดจ้าน และแน่นอนว่าอาหารที่พังงาก็รสจัดไม่ได้แพ้ที่ไหนเลยทีเดียว อย่างเช่น คั่วกลิ้งเนื้อ น้ำพริกต่าง ๆ กะปิผัดลูกตอ แกงส้มโชนหมูย่าง ของร้านครัวหลวงเทน ขนมจีนป้าศลหน้าศาลเจ้ามาจ้อโป๋ แค่คิดก็น้ำลายไหลแล้ว
ที่พักหลากหลาย หลักร้อยถึงหลักหมื่น

ที่พักที่พังงานั้นมีให้เลือกหลากหลาย สามารถได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกันได้ตั้งแต่โรงแรมหรูหราหลักหมื่น โรงแรมที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน โรงแรมราคาประหยัดคืนละไม่กี่ร้อย โรงแรมแบบHostel มีห้องนอนรวม หรือ Home stay ที่อยู่กับชาวบ้าน ที่นี่มีทุกอย่างให้เลือกได้ ทำให้เราสนุกสนานกับการพักในสถานที่ต่างแบบกัน


ช่องฟ้ารีสอร์ท ราคาเริ่มต้น ห้องละ 3,700 บาท
คุระบุรี กรีนวิว รีสอร์ท ราคาเริ่มต้น ห้องละ 1,500 บาท
To Zleep Hotel ราคาเริ่มต้น ห้องละ 700 บาท
Home stay เกาะพระทอง ราคาเริ่มต้น ห้องละ 200-300 บาท
และนั่นคือพังงา ที่จริงจังหวัดนี้ยังมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่านี้อีก ถ้าเราได้ไปสำรวจเพิ่มเติม จะมานำเสนออีกแน่นอน
#พังงา #fantastic similan travel