ปากคลองตลาดในวันนี้ " ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค "

ถ้าพูดถึงปากคลองตลาด ทุกคนคงจะคุ้นเคยชื่อเป็นอย่างดีว่าเป็นตลาดค้าดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แม้ไม่เคยไป แต่ก็ต้องเคยได้ยินถึงบรรยากาศกันมาบ้างแทบทุกคน ในวันนี้บริเวณปากคลองตลาดได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งตัวตนไปเสียทั้งหมด บริเวณริมน้ำทั้งหมด ได้ถูกปรับปรุงเป็นทางเดินริมน้ำที่กว้างขวางและเปิดมุมมองสู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มตา โดยที่ผสานเอาแหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารมากมายไว้ด้วยกัน นั่นคือโปรเจค ” ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ”  นั่นเอง

ด้วยทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองรายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหน้าตาของประเทศอย่าง วัดพระแก้ว วัดอรุณ วัดโพธิ์ หรือพิพิธภัณฑ์ Museum Siam  ซึ่งอยู่ในระยะเดินทั้งหมด ทำให้บริเวณโครงการนั้นเหมาะมากสำหรับเป็นที่พักผ่อน ทานข้าว  สำหรับการเดินเที่ยวเกาะรัตนโกสินทร์

จุดเด่นจุดแรกคือ แม้จะเป็นพื้นที่กลางเมือง แต่ก็ได้มีการก่อสร้างอาคารจอดรถอัจฉริยะ ที่จอดรถได้มากกว่า 350 คัน ( ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้าง )  นั่นพอจะทำให้เดาได้ว่า ในอนาคต อาคารจอดรถนี้จะมีความสำคัญต่อการท่องเที่ยวในละแวกนี้ขนาดไหน เพราะจากประสบการณ์การท่องเที่ยวของเรา ที่จอดรถในบริเวณกลางเมืองแบบนี้หายากเป็นที่สุด และที่สำคัญ ในบริเวณโครงการก็ยังสามารถเดินทางมาได้โดยทางเรืออีกด้วย เนื่องจากที่มีท่าเรืออยู่ในโครงการเลย  จะข้ามไปวัดอรุณก็สามารถทำได้ ค่าโดยสารแค่ไม่กี่บาทเท่านั้น

ภายในโครงการนั้นเป็นอาคารสองชั้นที่มีพื้นที่กว่า 15,000 ตร.ม   แบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่ขายดอกไม้ พื้นที่สำหรับร้านค้าที่บริเวณชั้น 1 รวมถึงมีร้านอาหารทานเล่นอีกหลายร้าน  ส่วนบริเวณชั้นสองจะเป็นอาหารมื้อหนักหลายร้าน รวมถึงร้านกาแฟเก๋ ๆ อีกด้วย

เราไปถึงช่วงบ่ายแก่ ๆ แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลง เนื่องจากพื้นที่จอดรถยังสร้างไม่เสร็จ เราจึงจอดรถในพื้นที่ใกล้ ๆ ที่จัดเตรียมไว้ชั่วคราว เดินมาไม่ไกลก็ถึงตัวอาคาร ที่สร้างโดยใช้สถาปัตยกรรมให้สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมในบริเวณที่สอดแทรกความเป็นไทยเข้าไปในแต่ละส่วนของอาคารด้วย

ที่ชั้นแรกอย่างที่บอกไป มีร้านอาหารเบา ๆ อยู่หลายร้าน รวมถึงร้านขายของกระจุ๊กกระจิ๊กอีกหลายแห่ง  เราสะดุดตากับสร้อยของร้านหนึ่งเลยจัดการมา 3 เส้น พร้อมกับเดินเล่นและหาไอศครีมเย็น ๆ ทาน  และก็ไม่พ้นไอติมหม้อไฟยศเสที่กินกันเป็นประจำ แต่สาขานี้พิเศษที่มีวิวริมฝั่งน้ำให้ชมเป็นของแถมด้วย

ส่วนร้านอื่น ๆ ก็อย่างเช่น ร้านขายโรตี ชาชัก ขนมหวานไทย ๆ ไอศครีมฮอกไกโด Umm milk  เรียกว่าวนไป วนมาหาของกินเล่นได้หลายอย่างเลย

ส่วนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จบริเวณชั้น 1 มีอีกราวครึ่งหนึ่งทีเดียว ทั้ง ร้านขายของต่าง ๆ Starbucks และจุดบริการอีกหลายอย่าง ทำให้ในอีกไม่นานที่นี่น่าจะเป็นที่เดินเล่นแบบครบวงจรทีเดียว

ทานกันเสร็จแล้ว ลองขึ้นไปสำรวจชั้นสองดู ที่ชั้นสองนี่ขอบอกเลยว่า วิวสวยและเป็นจุดเด่นที่สุดของที่นี่เลย ยิ่งถ้ามาเดินตอนช่วงเย็นถึงค่ำ รับรองเลยว่าที่นี่น่าเดินไม่ได้แพ้ทางเดินริมน้ำของที่ไหน ๆ เลย ส่วนร้านอาหารต่าง ๆ ก็มีให้เลือกพอสมควร คาดว่าถ้าเปิดครบแล้วน่าจะเป็นแหล่งทานอาหารพร้อมวิวที่ยอดเยี่ยมมากอีกที่นึงเลย

สำหรับเรา ที่นี่มี KFC และครัวเจ๊ง้อ ที่วิวสวยที่สุดเท่าที่เคยไปมาทีเดียว ในวันที่ไปนั้นเป็นวันเสาร์ ผู้คนเริ่มเข้ามาทานอาหารค่อนข้างมาก และน่าแปลกใจที่มีชาวต่างชาติเยอะมากทีเดียว ทั้ง ๆ ที่โครงการเพิ่งเปิดไม่นาน

บริเวณชั้นสองนั้นสามารถเห็นแหล่งท่องเที่ยวรอบข้างได้อย่างชัดเจน ทำให้มองเห็นช่างกล้องทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นมากหน้าหลายตามารอถ่ายไฟในช่วงเวลากลางคืนและช่วงพระอาทิตย์ตก

หลังจากเดินเล่นและทานอาหารพร้อมของหวานไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราคิดได้ว่า พื้นที่ริมน้ำแบบนี้แหละที่กรุงเทพเราควรจะพัฒนาขึ้นมามาก ๆ เพราะปัญหาของเราที่มีมาอย่างเนิ่นนานคือ เรามีบริเวณสองฝั่งเจ้าพระยาที่สวยงามมาก แต่มีวิธีชมความงามเพียงการล่องเรือเท่านั้น แต่หากมีพื้นที่ริมน้ำที่เปิดให้ประชาชนสามารถเดินเข้ามาใช้แบบนี้ ย่อมมีแต่ผลดีต่อเมืองทั้งนั้น ทั้งในแง่การท่องเที่ยวและคุณภาพชีวิตของเรา เพราะเราสามารถเดินเที่ยวได้โดยที่มีความปลอดภัยสูง

และอย่างที่บอก เพราะอยู่ท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ปัญหาการหาที่พักระหว่างเดินเที่ยวหมดไป เพราะใช้เวลาเดินจากวัดพระแก้วไม่มาก  จากวัดอรุณก็ข้ามน้ำไปแค่นั้นเอง และถึงบริเวณอาคารจะไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศ แต่ก็ไม่ได้ร้อนแต่อย่างใดเลย

สรุปว่า ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่แวะพักระหว่างวันได้อย่างดี ซึ่งในความเห็นของเรานั้น นอกจากจะเป็นผลดีต่อนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศแล้ว ยังเป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ริมน้ำโดยรวมอีกด้วย ฉะนั้นที่นี่จะเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ แน่นอนเมื่อเรามาเที่ยวชมเกาะรัตนโกสินทร์อีกครั้ง