สิงคโปร์ ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่หลาย ๆ คนอาจจะเล็งสำหรับการไปพักผ่อนไว้มานานแล้ว และแน่นอนคนจำนวนมากที่ไปเยือนสิงคโปร์ต่างก็ประทับจิตประทับใจในความเป็นระเบียบและสะอาดของบ้านเมืองเขา จนอยากจะกลับไปอีกหลาย ๆ รอบเลยทีเดียว อย่างเช่นเราเป็นต้นที่ไปเที่ยวมานับสิบรอบแล้วก็ยังอยากกลับไปอีก
แต่ด้วยความที่เป็นประเทศที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพง ทำให้หลาย ๆ คนกังวลเรื่องงบประมาณ จนบางทีก็กลายเป็นกังวลมากเกินไป ประหยัดทุกอย่างจนหลาย ๆ ครั้งก็กลายเป็นลำบากกว่าที่ควรจะเป็น
วันนี้เราจึงมาขอแนะนำทริคดี ๆ ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ ในการเที่ยวไปสิงคโปร์ รับรองเลยว่าจะทำให้ทริปสิงคโปร์ของคุณสะดวกสบายขึ้นมากทีเดียว พร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลย
ปล . ทริปนี้เราบินลัดฟ้าด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์โดยชั้นโดยสารประหยัดพิเศษ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังท้ายบทความว่าชั้นประหยัดพิเศษน่ะ พิเศษยังไง
ไปหลายคน บางทีใช้ TAXI สะดวกกว่า
เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนมักจะมองข้ามไป ทั้งที่สิงคโปร์มีข้อดีที่ประเทศเล็ก ไปไหนมาไหนก็ไม่ไกล รวมถึงสนามบินด้วย แต่ลองคิดดูว่าถ้าเราพักอยู่ในย่านยอดนิยมอย่าง Lavender หรือ Little India แล้วต้องการเดินทางภายในเมืองใกล้ ๆ เช่นไปช็อปปิ้ง หรือไปแถวมาริน่าเบย์
มันคงลำบากน่าดูหากเราถือของเต็มสองมือแล้วจะขึ้นรถไฟฟ้ามันจะลำบากแค่ไหน ไหนจะต้องเดินขึ้นเดินลง แล้วหลาย ๆ ครั้งที่พักก็ไม่ได้อยู่ติดกับสถานีรถไฟฟ้าซะด้วยสิ บางทีต้องเดินเกินกว่าครึ่งกิโล
บางทีถ้าเราใช้รถ TAXI บางทีค่าใช้จ่ายอาจจะแพงขึ้น ( ประมาณ 10SGD ) แต่หากเราไปกับเพื่อน ๆ 4 คน หารออกมาคนละ 2.5 SGD เทียบกับการใช้รถไฟฟ้าที่ค่าใช้จ่าย 1-2 SGD แล้ว ในบางโอกาส การใช้ TAXI ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ในอีกกรณีก็คือการเดินทางจากสนามบิน บางครั้งก็มีปัญหาเรื่องสัมภาระ คงไม่สนุกแน่ถ้าเราต้องลากกระเป๋ากลางแดดจ้าแล้วหาที่พักไม่เจอ เดินวนไปวนมา ( เราก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ) บางทีการยอมจ่ายค่าแท็กซี่ (ราว 16 SGD คนละประมาณ 4SGD ) แพงกว่าค่ารถไฟเข้าเมืองประมาณคนละ 50 กว่าบาทเท่านั้นถ้ามา 4 คน หรือถ้ามา 2 คนก็เพิ่มประมาณคนละไม่ถึง 100 บาท
ลองคิดภาพเล่น ๆ ว่าปกติเราไปเที่ยว เราใช้รถสาธารณะหรือแท็กซี่ในการไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ เราเสียค่าแท็กซี่ไปเท่าไหร่ ? บอกได้เลยว่าใกล้เคียงกันนั่นแหละ
ซื้อซิมคุ้มกว่า
แทบไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้อินเตอร์เนทที่สิงคโปร์เลย เพราะว่ามีซิมขายในแทบจะทุกที่ เช่นในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ราคาก็ไม่ได้แพงเลย ประมาณ 15SGD ( 375 บาท ) ใช้ได้สบาย ๆ ถ้าเทียบกับค่าโรมมิ่งอินเตอร์เนท ( วันละ 350 บาท ) ราคาถูกกว่ากันเยอะเลย
แล้วถามว่าทำไมเราต้องเจียด 375 บาทเพื่อเล่นอินเตอร์เนทด้วย คำตอบง่าย ๆ ก็เพราะมันสะดวกกว่าเยอะน่ะสิ แค่ใช้ในการเปิดแผนที่ หาร้านอาหาร หารอบรถ หาระบบขนส่ง แค่นี้ก็สุดจะคุ้มค่าแล้ว เพราะในยุคนี้ข้อมูลต่าง ๆ เราสามารถดูแบบอัพเดทได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกร้านอาหารที่มีร้านค้าใหม่ ๆ เปิดอยู่ตลอดเวลา
ลองกินอาหารขึ้นชื่อ
ไม่น่าจะดีถ้าเรามาเที่ยวแล้วจะกินแต่อาหารสำเร็จรูป ทั้ง ๆ ที่สิงคโปร์มีอาหารอร่อย ๆ ให้เลือกลองชิมมากมาย
ศูนย์อาหารประเภท HAWKER มีอยู่มากมายทุกที่ อาหารก็ดูน่ากินน่าอร่อยทั้งนั้น หรือถ้าจะเพิ่มงบนิดหน่อย ก็มีร้านชื่อดังให้เลือกอีกมากมาย
ลองคิดภาพง่าย ๆ ใครมาเที่ยวประเทศไทย เราก็อยากจะให้เขาลองกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้าเด็ด หอยทอดเจ้าดัง ข้าวหน้าเป็ดรสเลิศ กันทั้งนั้น เราไปเที่ยวสิงคโปร์ก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่
ลองดูบทความนี้ของเราได้ สำหรับไอเดียการหาร้านอาหาร วิธีหาร้านอร่อย
คำนวนแล้วใช้ PASS
สิงคโปร์เป็นเกาะที่มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ( และเสียเงินเยอะด้วย ) สถานที่ท่องเที่ยวแบบเสียเงินที่น่าสนใจมีมากมายไปหมด ทั้ง Garden by the bay หรือ Singapore flyer ค่าเข้าแต่ละที่ก็ไม่ใช่ถูก ๆ ( 700 บาทขึ้นไปทั้งนั้น ) ทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าจะเจียดงบไปใช้บริการเท่าไหร่
ฉะนั้นคำนวนดี ๆ อยากเช่น Singapore Explorer Pass นั้น ราคาบัตรสำหรับ 1 วัน (24 ชั่วโมง) เพียง SGD60 ( 1500 บาท ) โดยเริ่มนับเวลาตั้งแต่เวลาเริ่มใช้
|
|
สมมุติในสองวัน เราจะขึ้น Singapore Flyer เข้า Gardens by the Bay(28) ,Trick Eye Museum(25) ,Jurong Bird Park(20) , Singapore River Cruise(25) Singapore Zoo (33) เอาแค่นี้พอไม่ต้องเยอะ รวมแล้วก็เกินแล้ว ถ้าแบบนี้ก็ซื้อได้แบบไม่ต้องลังเล แถมคุมงบได้ด้วย
ดูรายละเอียดของSingapore Explorer Pass ได้ที่ http://goo.gl/2Ij22a
ลองดูไอเดียที่เที่ยวต่าง ๆ ได้ที่รีวิวนี้เลย https://travelkanuman.com/tips/singaporebudget/
นั่นเป็นไอเดียคร่าว ๆ ที่เราได้มาจากการไปเที่ยวมาหลาย ๆ รอบ ลองใช้ดูแล้วทริปสิงคโปร์ครั้งต่อไปอาจจะมีอะไรมากขึ้น
การเดินทางครั้งนี้เราบินด้
โดยชั้นนี้มีสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ มีอาหารให้เลือก 3 ชนิด ( จากเดิมมี2 ) หรือจะเลือกอาหารพิเศษก่อนขึ้นเครื่องก็ยังได้ เก้าอี้โดยสารก็จะกว้างมากขึ้น มีที่เก็บของ ที่ชาร์ทมือถือ ที่วางขาเพิ่มขึ้นมา ส่วนจอสำหรับรับชมหนังก็จะเพิ่มขนาดเป็น 13.3 นิ้ว ใหญ่กว่าที่ไหน ๆ ในชั้นประหยัดเลยทีเดียว
และแน่นอนว่าได้เช็คอินก่อนใครเพื่อน แถมน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มให้เป็น 35 กิโลอีกด้วย
โดยที่นั่งชั้นพิเศษนี้จะเปิดให้บริการในเส้นทาง สิงคโปร์ – Sydney ,Oakland ,Dubai , Frankfert , London ,LA , Manchester , Munich , Mumbai , Paris , New delhi , San Francisco และ Tokyo
ลองนั่งดูแล้วก็รู้สึกสบายไม่ต่างกับ Business เท่าไหร่ แต่ราคาไม่แรงเท่า Business ถือเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการเดินทางไกลได้ดีทีเดียวดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หากต้องการสำรองที่นั่ง ติดต่อได้ที่ Global Union Express at tel 02-3082104 หรือ Six Stars Travel at tel 02-7129800