สุดยอดเทคนิคประหยัดงบสำหรับนักเดินทางตัวพ่อ ตัวแม่

เทคนิคประหยัด เป็นอะไรที่จำเป็นมากสำหรับนักเดินทางตัวยงที่เดินทางปีหนึ่งหลาย ๆ หน  เคยบ้างไหมที่เรารู้สึกว่าค่าใช้จ่ายในบางอย่างมันช่างเกินความจำเป็น บางครั้งก็มีการจ่ายเงินซ้ำซ้อนไปหลายที จนหลาย ๆ ครั้งก็อดที่จะเสียดายเงินจำนวนนั้นไม่ได้

จริง ๆ แล้วถ้าเราเดินทางบ่อย ๆ มีหลายวิธีที่จะช่วยให้ค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละทริปลดลงถ้ามีการจัดการที่ดีพอ ฉะนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการจัดการกับค่าใช้จ่ายของทริปสำหรับคนที่เดินทางบ่อย ๆ ให้สบายกระเป๋ากัน

เก็บของที่ใช้ทุกทริปไว้ให้เป็นระเบียบ

เคยบ้างไหมที่เวลาจะออกเดินทางซักครั้งหนึ่งต้องหาซื้ออุปกรณ์พื้นฐานใหม่เกือบทั้งหมดเลย เพราะหาของเก่าเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็นยาสีฟันแปรงสีฟัน ยาต่าง ๆ อาจรวมไปถึงของใช้ประจำตัวเช่น เจลใส่ผล เครื่องสำอาง อุปกรณ์แต่งหน้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งพอมาลองรวมราคาของที่ต้องซื้อซ้ำ ๆ ทุกทริปแล้วบางทีก็มีมูลค่าทริปละเป็นพันบาทเลยทีเดียว

วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามหากระเป๋าใบเล็ก ๆ สำหรับใช้เก็บอุปกรณ์การเดินทางให้เป็นที่เป็นทาง ทำให้เป็น travel bag ไปเลยก็ได้ เรียกว่าจะไปทริปไหนแค่หยิบเจ้ากระเป๋าใบนี้ขึ้นมาก็จะมีของใช้สำหรับการเดินทางอยู่ครบ ไม่ต้องไปควานหาหลาย ๆ ที่ และพออะไรหมดก็ค่อยซ้อมาเติม  ทำให้เป็นนิสัย รับรองว่าจะทั้งประหยัดเงินและทำให้กระเป๋าเดินทางของเราเป็นระเบียบขึ้นเยอะเลย

เลือกซื้อประกันเดินทางแบบรายปี

ปกติแล้วเวลาเราจะออกทริปไปที่ไหนซักทีโดยเฉพาะไปทริปอย่างยุโรป แค่จะขอวีซ่าก็ต้องมีประกันการเดินทางที่ครอบคลุมวงเงินคุ้มครองแล้ว ฉะนั้นสำหรับบางคนที่ออกทริปถี่ ๆ แล้วต้องมาเสียเงินทำประกันทุกครั้งก็ดูจะลำบากทั้งเวลาและเสียเงินซ้ำซ้อนไม่ใช่น้อย

ยกตัวอย่างเช่นประกันการเดินทางของ AIG  ที่มีทั้งแบบรายเที่ยวและรายปี

จะเห็นว่าประกันรายเที่ยวถ้าเราเลือกแผน C  แบบ World wide สำหรับ 7 วัน จะราคา  843 บาท เปรียบเทียบกับแบบรายปีที่เหมาที่ราคา  3,837 บาท แล้ว ถ้าปีหนึ่งเราเดินทาง 5 ครั้งก็จะถึงจุดคุ้มทุนแล้ว

สำหรับนักเดินทางที่เดินทางบ่อย ๆ และรู้ตัวว่าปีหนึ่งจะมีทริปเกิน 4-5 ทริป  หรือมีทริปที่ต้องเดินทางยาวนานเป็นเดือน ๆ แล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ทำประกันแบบรายปีจะคุ้มค่ามากกว่า เพราะนอกจากราคาจะประหยัดแล้ว ความคุ้มครองที่มีก็จะเป็นแบบเดียวกัน ที่สำคัญไม่เสียเวลาในการทำประกันหลาย ๆ ครั้งอีกด้วย

สำหรับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเดินทาง ก็จะครอบคลุมในเรื่อง การยกเลิกการเดินทาง , ค่าใช้จ่ายกรณีลดจำนวนวันเดินทาง ,การยกเลิกการเดินทาง, คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ

สามารถดูรายละเอียดได้ที่  http://www.aig.co.th/personal/travel-guard-insurance/travel-guard-international

ซื้อซิมถ้าต้องไปที่เดิมซ้ำ ๆ

ถ้าเราวางแผนจะไปประเทศเดิมซ้ำบ่อย ๆ เช่นปีนี้จะไปประเทศหนึ่งสี่รอบ ทุก ๆ สามถึงสี่เดือน แล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ซื้อซิมท้องถิ่นที่มีระยะเวลาการใช้งานนานใช้แทนที่จะเช่า pocket wifi ใช้จะสะดวกกว่า เพราะว่าในบางประเทศเค้าจะมีซิมขายเหมือน ๆ กับที่บ้านเรานี่แหละ ซึ่งซิมท้องถิ่นเหล่านี้สามารถใช้งานได้ยาวนาน อาจจะเริ่มต้นที่ 1 เดือน และเสียค่ารักษาสถานเพียงเดือนละเล็กน้อยเท่านั้น ( คล้าย ๆ ซิมเติมเงินในบ้านเรา )

หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับการซื้อบัตรโดยสารรถสาธารณะเช่นเดียวกัน เพราะบัตรเติมเงินส่วนใหญ่มีระยะการใช้งาน 1 ปี  เราสามารถเก็บบัตรเอาไว้ใช้ในทริปต่อไปได้ไม่จำเป็นต้องแลกคืนให้เสียเงินค่าบริการ

MIX and MATCH เสื้อผ้า

ถ้าเราเดินทางบ่อย ๆ ทั้งประเทศที่หนาวเย็นและประเทศเขตร้อน บางคน( โดยเฉพาะสุภาพสตรี ) มักจะกังวลว่า ถ่ายรูปออกมาแล้วเสื้อผ้าเหมือนทริปก่อนเลย สุดท้ายก็ต้องออกไปหาซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่เกือบจะทุกครั้งที่ต้องออกทริป

ที่จริงแล้วถ้าเรามีไอเดียเสียหน่อย เราสามารถจัดชุดเสื้อผ้าเดิม ๆ ให้มีความแตกต่างกันได้โดยไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ทุกครั้ง เช่นเสื้อกันหนาวตัวเดิม ถ้าเราเอาผ้าพันคอเก๋ ๆ มาพัน รวมกับการสวยหมวกเสียหน่อย ก็จะดูเป็นอีกลุคหนึ่งแล้ว หรือจะใส่คู่กระโปรง กางเกง อื่น ๆ ก็สามารถจัดชุดแต่งกายให้ดูไม่น่าเบื่อได้โดยใช้ของเดิม ๆ

เลือกซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพสมราคา

หลาย ๆ ครั้งเราพลาดกับการเลือกซื้อของโดยดูที่ราคาเป็นหลัก เราไม่ได้หมายถึงให้ทุกคนเลือกซื้อแต่ของแพง ๆ แต่ให้เลือกซื้อดูความทรทานเป็นหลักด้วย ไม่ใช่ดูราคาเพียงอย่างเดียว

ยกตัวอย่างเช่นกระเป๋าเดินทาง หลาย ๆ คนเลือกซื้อแบบที่ถูกที่สุดราคา 1-2000บาท แต่ใช้ไปได้ไม่นานก็เสื่อมสภาพแล้วก็ต้องหาซื้อใหม่ในเวลาไม่นาน

ถ้าเราเลือกโดยดูคุณภาพความคงทนประกอบด้วย ถึงแม้ราคาจะเพิ่มขึ้นมาซักหน่อย อาจจะเป็น 3000 บาท แต่ใช้ได้นานกว่าเท่าตัว มันก็น่าจะคุ้มค่าการลงทุนระยะยาวมากกว่า

วางแผนการทำวีซ่า

ถ้าเราวางแผนจะเดินทางหลายทริปในปนึ่งปีแล้วล่ะก็ การวางแผนทำวีซ่าควรจะเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงเลย เพราะช่วงเวลาที่เราเอาเล่ม Passport ไปทำ Visa นั้น หลายสถานฑูตจะไม่อนุญาตให้เรานำ Passport กลับมาใช้ นั่นหมายความว่าเราจะไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ในช่วงนั้น ๆ

วิธีที่ดีที่สุดคือศึกษาระยะเวลาการทำวีซ่าของแต่ละประเทศให้ดี จากนั้นก็พยายามเผื่อเวลาเอาไว้ในกรณีมรเหตุฉุกเฉิน และถ้าเราต้องไปประเทศที่ต้องทำวีซ่าซ้ำภายในระยะเวลาใกล้เคียงกัน การขอวีซ่าประเภท Multiple ก็เป็นทางเลือกที่ควรทำ แม้จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าก็ตาม

ใช้เครื่องช่วยวางแผนการเดินทาง

พอเริ่มมีทริปเยอะ ๆ แล้วหลาย ๆ คนก็จะเริ่มมึนงงกับทั้งตั๋วเครื่องบินที่จองเอาไว้ วันที่ในการเดินทาง การจองโดรงแรม ยิ่งถ้าต้องการจองล่วงหน้าเพื่อความประหยัดแล้วล่ะก็ยิ่งงงหนักเข้าไปกันใหญ่

เราจึงขอแนะนำให้ใช้ APP ที่ช่วยจัดการการเดินทาง อย่างที่เราใช้อยู่ก็จะเป็น App Tripit ที่ใช้ในการช่วยจดจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเดินทาง ทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถไฟ หรือเช่ารถขับ เพียงเราลิ้งค์ profile เรากับ Email ที่ใช้ในการจอง ระบบจะจัดการกับทริปของเราให้หมดเลย สะดวกสบายและมีประโยชน์มาก ๆ

สามารถโหลดได้ฟรีที่ https://www.tripit.com

และนั่นก็เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้ทริปของนักเดินทางตัวยงทุกท่านประหยัด และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ลองเอาไปปรับใช้กับทริปของตัวเองกันได้เลย