ถ้าพูดถึงการไปเกาะฮอกไกโดเมื่อ 4-5 ปีก่อน ถือว่ายากพอสมควรสำหรับชาวไทยอย่างเรา เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงไปถึง วิธีที่จะไปถึงส่วนใหญ่ก็ต้องนั่งรถไฟไป ใช้เวลาเป็นวันเลยทีเดียว บางคนก็ถอดใจไม่ไปดีกว่าเพราะเหตุผลว่าไกลนี่แหละ
แต่ในปัจจุบันมีหลายสายการบินที่มีไฟล์ทบินตรงจากกรุงเทพสู่ซัปโปโรในฮอกไกโดเลย แถมราคาโดยสารก็ไม่ได้แพงมาก การไปเยือนดินแดนที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่นจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป วันนี้เราจึงมานำเสนอวิธีการเที่ยวฮอกไกโด พร้อมแนะนำโรงแรมราคาเหมาะสมทำเลดีกลางซัปโปโร เพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวไปรอบเกาะนี้ได้อย่างสนุกและประหยัดงบประมาณกัน !! เรามาดูว่าต้องเตรียมตัวกันอย่างไรบ้างกับการไปลุยฮอกไกโด
การเดินทางเข้าเมือง
จากสนามบินมีรถไฟเข้าเมืองจากสนามบินสู่สถานี Sapporo โดยใช้เวลา37 นาที ราคา 1070 เยน ส่วนภายในเมืองมีรถไฟใต้ดินให้บริการทั่วถึง รวมทั้งแท็กซี่ก็สามารถใช้ได้ในราคาที่จ่ายไหว โดยเฉพาะเมื่อมา3คนขึ้นไป

การหาแหล่งที่พัก
การจะเที่ยวฮอกไกโดนั้น ส่วนใหญ่เราก็จะปักหลักกันที่ซัปโปโร เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเกาะ จะไปไหนมาไหนก็สะดวก และอยู่ใกล้กับสนามบินชิโตเสะที่มีเครื่องบินมาจากเมืองไทยอีกด้วย ฉะนั้นอย่างน้อย วันไป วันกลับ และวันที่ช็อปปิ้งต้องอยู่ที่ซัปโปโรแน่นอน เรามาดูแผนที่ซัปโปโรกัน
จะเห็นว่าสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ จะอยู่รอบบริเวณเบอร์ 3 หรือสวน โอโดริพาร์ค สวนสาธารณะชื่อดังของเมืองนั่นเอง โดยแหล่งช็อปปิ้งหลักจะอยู่ที่เบอร์4 คือ Tanukikoji เบอร์ 7 คือสถานีรถไฟหลักของเมือง ฉะนั้นการเลือกที่พักอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว หรือที่ช็อปปิ้งก็น่าจะดี และถ้าราคาไม่แพงมากก็จะยิ่งเข้าทางทีเดียว เราจึงเลือกที่จะนำเสนอ Sapporo TOBU Hotel ที่พักที่อยู่ตรงกันข้ามกับถนนช็อปปิ้งอย่าง Tanukikoji เลยทีเดียว
Sapporo Tubu ( http://sapporotobu.bskafe.com/thai/ )เป็นโรงแรมขนาดกลางมีห้องพักหลักร้อยห้อง มีส่วนกลาง ส่วนต้อนรับที่ดูดี ใช้ได้ทีเดียว โดยราคาที่พักสำหรับห้องคู่แค่ 2000กว่าบาท หรือตกแค่คนละ 1000 กว่าบาทเท่านั้นเอง ที่สำคัญมีห้องสามคนกับสี่คนให้บริการด้วย โดยที่ราคาหารออกมาก็เหลือแค่คนละประมาณ 1000บาทต่อคืนต่อคน ฉะนั้นถ้าเราจะเที่ยวซัปโปโร่ 5คืน งบตรงนี้ก็จะแค่ 5000 กว่าบาทเอง ถือว่าถูกมากสำหรับราคาห้องพักแบบโรงแรม
ที่ตั้งโรงแรมอยู่ตรงกันข้ามกับแหล่งช็อปปิ้งแบบเดินไปแค่นาทีเดียวถึง ใครชอบดองกีโฮเต้ ร้านปลอดภาษีที่เปิด24ชั่วโมง ก็สามารถเดินไปได้โดยใช้เวลา5 นาทีเท่านั้นเอง แถมจะเดินไปหอชมวิว Sapporo tv tower หรือสวนโอโดริ ก็แค่ ไม่กี่นาทีเท่านั้น แถมใกล้ ๆ มีตลาดด้วย เช้า ๆ ก็จะมีร้านขายข้าวหน้าปลาดิบเพียบเลย
ห้องนอนคู่อย่างที่บอกราคาประมาณ 2000 กว่าบาท กว้างประมาณ 30 ตารางเมตร พอ ๆ กับคอนโดบ้านเราเลย ถือว่าขนาดกำลังเหมาะเลย สิ่งอำนวยความสะดวกก็ถือว่ามีเยอะอยู่ห้องน้ำในตัว มีทีวี เครื่องปรับอากาศ ครบครัน ถ้าเทียบกับที่พักในโตเกียวถือว่าราคาถูกมากเมื่อเทียบกับพื้นที่ขนาดนี้
ห้องสามคน ก็จะเป็นแบบนี้ ราคา3XXX เหมาะมากกะทริปที่คนหารไม่ลงกะห้อง เช่น 3 5 7คน
และสำหรับครอบครัว ห้องFamily ที่ราคา 4XXX ก็ถือว่าตอบโจทย์เช่นกัน ห้องกว้างมากทีเดียว
บริเวณโรงแรมก็ดูหรูหราเกินราคา ล็อบบี้ใหญ่โต (แถมมีมุมของฝากด้วย) การออกแบบโดยเน้นเปิดโล่งโดยเป็นกระจกใหญ่ทั้งสามด้านที่เปิดเข้าสู่คอร์ทภายในอาคาร
สวนภายในในฤดูหนาว เต็มไปด้วยหิมะ ดูคลาสสิคทีเดียว สามารถเดินเข้าไปปั้นหิมะเล่นในสวนได้ด้วยนะ ถ้าไม่กลัวหนาววววววววววววว
ในโรงแรมมีห้องอาหารอยู่สองห้อง คือ KEGON ห้องอาหารหลักและ b’s Kafé
KEGON จะเปิดวิวเข้าสู่สวนกลางโรงแรม ให้บริการทั้งอาหาร เช้า กลางวัน และเย็น แบบบุฟเฟ่และ แบบเป็นเมนู ซึ่งอาหาร บุฟเฟ่ราคาไม่แพง แค่ประมาณ 1500 เยนเท่านั้นเอง (ราว 400กว่าบาท)
ส่วน b’s Kafé จะขายพวกเบเกอรี่และเครื่องดื่ม ซึ่งสามารถใช้นั่งพักเหนื่อยพร้อมจิบกาแฟได้แบบสบาย ๆ ส่วนการเดินทางจากสถานีรถไฟ SAPPORO สามารถนั่ง subway สาย Nanboku Line ลงที่สถานี Susukino (2ป้าย) แล้วออกทางออกที่3 เดินต่อนิดเดียว หรือถ้าไป 3-4คน นั่งแท็กซี่สะดวกกว่า ราคาแค่ 700 เยนเท่านั้น ( ค่ารถไฟสองสถานีก็คนละ200เยนแล้ว มาสามคนยังไงแท็กซี่คุ้มกว่า ) สรุปแล้วถ้าเราจะพักที่ SAPPORO 5 คืน และไป2คนขึ้นไป จะเสียค่าที่พักทั้งหมด 5500 บาท โดยประมาณ
อาหารการกิน
ที่ฮอกไกโดถือว่าเป็นครัวของญี่ปุ่นอีกที่หนึ่ง มีอาหารน่าอร่อย น่าลิ้มลองมากมาย โดยแหล่งอาหารก็กระจายกันไปทั่วเกาะ ส่วนในซัปโปโรก็มีอาหารอร่อย ๆ มากมาย โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ Tanukikoji ตรอกราเมน และมีสถานที่ขายอาหารโดยเฉพาะแบบ Sapporo beer garden ตรอกราเมน จาก Sapporo Tobu เดินไปแค่ 5 นาทีก็จะถึงตรอกราเมนที่มีอาหารขายมากมายโดยเฉพาะราเมน มีหลายร้านมาก ราคาเริ่มตั้งแต่ 600 เยนขึ้นไป ถือเป็นอาหารราคาประหยัดที่อิ่มอร่อยได้ทุกคน นอกจากนี้ที่ตรอกยังมีอาหารอร่อย ๆ อย่างอื่นอีกเยอะทีเดียว
Tanukikoji อยู่ตรงข้ามกับโรงแรมSapporo tobu เลย นอกจากร้านอาหารที่มากมายแล้ว ยังเป็นแหล่งช็อปปิ้งชั้นดีอีกด้วย อาหารตามร้านมีทั้ง ซูชิ ข้าวหน้าต่าง ๆ ราเมน อาหารชุด ในราคาเริ่มต้นแค่ 500 เยน
Center market ตลาดปลากลางที่เราสามารถหาทานซูชิแสนอร่อยได้มากมายในราคาไม่แพง อย่างข้าวหน้าแซลมอนก็เริ่มที่ไม่ถึงพันเยนเท่านั้น หรือจะกินหรูหราอย่างหน้าไข่หอยเม่น ไข่ปลาอิคุระ ก็ถือว่าราคารับไหวที่2000กว่าเยน
Sapporo beer garden นอกจากเบียร์ที่เป็นของเด่นแล้ว แกะย่างเจงกีสข่านที่นี่เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เลย นุ่มอร่อย ส่วนบรรยากาศรอบนอกสวยงามทีเดียว โดยเฉพาะยามค่ำคืน
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอีกมากที่ย่านสถานีรถไฟ Sapporo หรือทางเดินใต้ดิน และห้างต่าง ๆ เลือกชิมได้ตามใจชอบเลย สรุปเราทานอาหารเฉลี่ยมื้อละ 700เยน 15 มื้อ ก็ตกราว 10000 เยน หรือ 2750 บาท แต่เราเผื่อมื้อพิเศษเอาไว้ซัก3มื้อ ก็ตีเป็นค่าอาหารประมาณ 4000 บาทกำลังสวยงาม
สถานที่ท่องเที่ยวในซัปโปโร
ซัปโปโรอุดมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มาได้ทั้งฤดูหนาวและร้อน ซึ่งความรู้สึกจะต่างกันราวกับคนละเมืองทีเดียว ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหลายนั้นก็กระจายอยู่รอบ ๆ เมือง มีรถไฟฟ้าผ่านเกือบทุกที่
ODORI PARK สวนขนาดใหญ่กลางเมือง ที่แปลว่าถนนขนาดใหญ่ เป็นที่รวมตัวของผู้คนมากมายตลอดความยาว หนึ่งกิโลเมตรครึ่ง และยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลหิมะอันโด่งดังในต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีอีกด้วย
Sapporo tv tower หอชมวิวกลางเมือง สามารถเห็นวิวของทั้งเมืองได้อย่างสวยงาม โดยเสียค่าขึ้นคนละ 720 เยน
Okurayama ลานกระโดดสกีที่เคยใช้ในงานโอลิมปิคฤดูหนาว นอกจากจะใช้เพื่อเล่นสกีแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งอีกด้วย โดยค่าขึ้นกระเช้า ไปกลับ อยู่ที่ 500เยน
Shiroi Koibito Park โรงงานช็อคโกแลทชื่อดัง ที่จัดแสดงวิธีการผลิตรวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของบริษัท จุดเด่นคือการตกแต่งได้สวยงามเหมือนอยู่ในยุโรปทีเดียว ค่าเข้าชม 600เยน
ทำเนียบอิฐแดง อาคารสีแดงสวยงามที่เป็นอดีตศาลาว่าการของเมือง ที่สวยงามทั้งยามดอกไม้บานในฤดูร้อน และยามหิมะปกคลุมในฤดูหนาว
Clock tower หอนาฬิกาเก่าแก่ของเมือง ที่คงความคลาสสิคถึงทุกวันนี้
Hitsujigaoka observation hill จุดชมวิวที่ไม่ได้มีแค่การชมวิว เพราะมีสวนขนาดใหญ่อยู่ข้างบนเขา รวมทั้งโบสถ์สวย ๆ และรูปปั้น ศ.จ. คลาร์ก ที่โด่งดังอีกด้วย ค่าเข้าชม 520เยน
สนามบิน New Chitose ที่สนามบินมีที่เดินเที่ยวอีกหลายแห่ง ที่เด่น ๆ คือ Doraemon Waku waku sky park ที่คนรักแมวอ้วนสีฟ้าต้องชอบ ค่าเข้า 600 เยน รวมถึงมีร้านRoyce ขนาดใหญ่และพิพิธภัณฑ์ราเมนอีกด้วย
ฉะนั้นหากเราเที่ยวแค่ในซัปโปโร่ ค่าเข้าสถานที่ต่าง ๆ ไม่ได้มากมายเลย รวม ๆ แล้วไม่น่าจะถึง 10000เยน รวมค่าเดินทางด้วย ก็ให้ตีงบไว้ที่ 3000บาท
ฉะนั้นถ้าเราเที่ยวในซัปโปโร่ 5 คืน ก็จะเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดราว 13000 บาท ถ้าเราหาตั๋วเครื่องบินราคาถูกได้ ยังไงก็ใช้ไม่เกิน 30000 บาท แน่นอน !!! หรือหากหาตั๋วได้ถูกมากกว่านี้ เช่น 13000 หรืออาจจะไม่ถึงหมื่น เราก็สามารถนำเอาไปเพิ่มงบในส่วน อาหาร หรืออาจจะออกไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ รอบข้างได้ โดยจ่ายค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกเล็กน้อย เช่น โอตารุ ที่จ่ายเพิ่มมาแค่ 1300 เยน ( 400บาท ) หรือสวนสัตว์Asahiyama ที่จ่ายเพิ่มมาอีกราว6000 เยน ( 1700บาท )
ที่ท่องเที่ยวและที่พักนอกซัปโปโร
ไหน ๆ จะมาที่ฮอกไกโดแล้ว จะเที่ยวแค่ในซัปโปโรก็กระไรอยู่ ก็เลยขอเสนอที่ท่องเที่ยวพร้อมงบประมาณคร่าว ๆ ของเมืองนอกซัปโปโรให้ไว้เป็นทางเลือกด้วย ซึ่งแน่นอนว่าในรัศมีการเดินทางไม่เกิน 2ชม นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเต็มไปหมดเลย
YUNI เมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกของซัปโปโร สามารถเดินทางไปถึงได้โดยรถไฟจากสถานีซัปโปโร ใช้เวลา 90 นาที ค่าโดยสาร 1270 เยน
ที่นี่มีที่ท่องเที่ยวหลายอย่าง ทั้งสปาบ่อน้ำร้อน เก็บสตอเบอรรี่ หรือสวนผลไม้ รวมทั้งมีสวนดอกไม้ในฤดูร้อนด้วย
ที่พักหากต้องการพัก แนะนำ Yuni resort ( http://www.yunni-spa.com/ )ซึ่งเป็น โรงแรมที่มีออนเซนให้บริการทั้งกลางแจ้งและในร่ม ในราคาที่ไม่แพงเลย โดยค่าพักต่อคนรวมอาหารสองมื้อและออนเซนแล้วเริ่มที่คนละ 8500 เยนเท่านั้น (ประมาณ 2400บาท)
ห้องก็จะมีทั้งแบบ ยุโรปแบบญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอน เราเลือกนอนแบบญี่ปุ่น มีอ่างแช่น้ำในตัวด้วยนะ
จุดเด่นของที่นี่คงเป็นความเงียบสงบ เพราะตั้งอยู่กลางเขาเลย ได้บรรยากาศเต็ม ๆ และออนเซนกลางเขาหิมะสวยงามมาก อยากแช่ทั้งวันเลย
จุดให้บริการรถบัสรับส่งยามเช้า
กิจกรรมอื่น ๆ ก็เช่นเก็บผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งหวานสะใจมากสำหรับสตอเบอรี่
งบรวม ๆ สำหรับการมาเที่ยวหากต้องการค้างด้วยก็น่าจะราว 12000เยน หรือ 3000กว่าบาท
ZAO เมืองที่อยู่ในภูมิภาค โทโฮคุ อุดมไปด้วยภูเขาไฟ ทำให้มีออนเซนคุณภาพดีอยู่อย่างมากมาย อีกทั้งภูมิทัศน์ในช่วงฤดูหนาวยังงดงามอย่างที่สุด โดยต้นสนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะทั้งบริเวรณ เรียกกันเก๋ ๆ ว่า Snow monster
OTARU ที่นี่เป็นเมืองท่าที่ได้ชื่อว่ามีปลาดิบที่สดอร่อยเป็นอย่างมาก มากขนาดไหนน่ะเหรอ ก็ขนาดที่ร้านซูชิชื่อดังมากมายตั้งอยู่ที่เมืองนี้น่ะสิ แถมเมืองก็น่ารัก มีร้านค้าน่าสนใจมากมาย เช่นร้านกล่องดนตรี ร้านขนมน่ารัก ๆ
การเดินทางนั่งรถไฟจากซัปโปโรมาราว30นาที ค่าโดยสาร 640 เยน
ASAHIKAWA เมืองที่โด่งดังด้านสวนสัตว์เป็นทีสุด Asahiyama zoo ถือเป็นสวนสัตว์ที่ขึ้นชื่อเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ จากซัปโปโรเราสามารถซื้อตั๋วเหมารถไฟรวมกับค่าเข้าสวนสัตว์ได้ในราคาแค่ 6130 เยนเท่านั้น
FURANO ขึ้นชื่อด้านสวนดอกไม้ที่สวยงามที่สุดในประเทศ โดยจะเบ่งบานในช่วงฤดูร้อนราวเดือน กค ที่เด่น ๆ ก็คือทุ่งลาเวนเดอร์นั่นเอง
เราสามารถเดินทางไปทางรถไฟได้ แต่จะสะดวกกว่าหากเช่ารถขับ ซึ่งค่าเช่ารถก็ตกราววันละพันกว่าบาทเท่านั้นเอง
NOBORIBETSU เมืองน้ำพุร้อนอีกที่หนึ่งที่มีบ่อนรกให้เข้าชม รวมถึงมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่น่าเข้าไปชมอีกด้วย
จากซัปโปโร่ใช้พาสนั่งรถไฟไปกลับ ราคา 4130 เยน หรือ 1200 บาท
TOYA LAKE ทะเลสาบที่มีจุดเด่นที่โรงแรมที่มีน้ำพุร้อนเช่นกัน แถมตอนดึก ๆ ยังมีการจุดพลุในฤดูร้อน สวยงามมากทีเดียว
หวังว่าทุกคนคงจะได้ไอเดียคร่าว ๆ สำหรับทริปฮอกไกโดในคราวต่อไปกันแล้ว ปิดท้ายนี้ ขอฝากภาพสวย ๆ จากเกาะแห่งนี้ให้ได้ชมกัน และหวังว่าทุกคนจะได้เที่ยวฮอกไกโดอย่างสนุกสนานและเหลือเงินช็อปปิ้งกันนะ ^__^