ประเทศญี่ปุ่นอาจจะเป็นแค่ประเทศเกาะที่ขนาดไม่ได้ใหญ่มากมายนัก แต่กลับอัดแน่นไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวแบบไฮเทคหรือต่างจังหวัด และหนึ่งในดินแดนที่ชาวไทยยังไม่ค่อยได้ไปสัมผัส แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงามจากธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์นั้นก็คือ AKITA อาคิตะ นั่นเอง
อาคิตะ เป็นจังหวัดในภูมิภาค TOHOKU หรือภาคอีสานของญี่ปุ่นนั่นเอง ตั้งอยู่เกือบเหนือสุดของเกาะฮอนชู เกาะใหญ่ของประเทศ มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะจังหวัดที่มีการปลูกข้าวที่มีดีทั้งปริมาณและคุณภาพ
การเดินทาง
จากไทยมีหลายสายการบินให้บริการ มาลงที่โตเกียวแล้วนั่งชินคันเซนต่อก็ได้ หรือจะต่อเครื่องภายในประเทศลงที่ AKITA เลยก็ได้
สามารถจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นกับ Traveloka ได้เลย เค้ามีสายการบินหลากหลายครอบคลุมทั่วโลก แถมมี call center ให้บริการตอบรับ 24 ชม เผื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จองให้ได้ราคาดี ๆ แล้วเหลือเงินไปเที่ยวเยอะ ๆ คุ้ม ๆ กัน
จองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น กับTraveloka ตามลิงค์นี้ได้เลย https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan
ถ้ามาจากโตเกียวสามารถนั่งรถไฟ SHINKANSEN ( เส้นสีเขียวในภาพ )มาลงได้ที่ AKITA เลย โดยในจังหวัดจะมีสถานี SHINKANSEN ทั้งหมด 4 สถานี คือ TAZAWAKO ( ทะเลสาบ TAZAWA และ นิวโตออนเซน ) , KAKUNODATE ( ย่านซามูไร ) , OMAGARI (ไปดูกระท่อมหิมะ ) และ AKITA (ตัวเมืองอาคิตะ ) โดยจะมีรถไฟท้องถิ่นวิ่งภายในตัวเมือง และเสริมด้วยรถบัสไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
ตัวจังหวัดแบ่งเป็นพื้นที่หลัก ๆ 5 ส่วน คือ
AKITA central OGA and CHOKAI AREA (สีน้ำตาล) เป็นส่วนตัวเมือง ไปถึงรอบ ๆ เขา CHOKAI และ บริเวณ OGA ซึ่งเป็นพื้นที่ริมทะเลญี่ปุ่น
THE YOKOTE , YUZAWA and KURIKOMA AREA (สีเขียว) ส่วนนี้มีหุบเขา OYASU ที่โด่งดัง และมีเทศกาล Kamakura (กระท่อมน้ำแข็ง) ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในฤดูหนาว
LAKE TAZAWA , KAKUNODATE and ANI MORIYOSHI AREA (สีม่วง) ส่วนนี้เป็นเขตของซามูไรเก่า มีการสร้างชุมชนมาแต่โบราณ มีสิ่งปลูกสร้างที่คล้ายคลึงกับในเกียวโต ทั้งบ้านเรือนที่ Kakunodate และบ่อน้ำพุอันเก่าแก่ที่ นิวโตออนเซน
ซึ่งในครั้งนี้ เราได้ไปสำรวจทั้งสามบริเวณนี้ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แค่สามโซนก็ใช้เวลาไปถึง 7 วันแล้ว ทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะสำรวจอีก 2 บริเวณคือ
TOWADA,HACHIMANTAI and ODATE AREA (สีแดง)
THE SHIRAKAMI and NOSHIRO YAMAMOTO AREA (สีฟ้า)
ช่วงเวลาที่เราได้สัมผัสจังหวัดน่ารักแห่งนี้ราว 1 สัปดาห์นั้น ทุกที่ที่เราไปล้วนแต่สวยงามและน่าค้นหาทั้งสิ้น ฉะนั้นเรามาดูกันเลยว่า อะไรเป็นเหตุผลที่เราหลงรักจังหวัดแห่งนี้อย่างที่สุด
1st reason
ใบไม้เปลี่ยนสีกับน้ำตกและลำธาร
ห่างจากมหานครโตเกียวไป 3 ชั่วโมงโดยรถไฟด่วน Shinkansen เป็นที่ตั้งของจังหวัด อาคิตะ เมืองที่รายล้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เราได้ไปเยือนน้ำตกหลายแห่งในจังหวัด ซึ่งก็ถือเป็นโชคที่หลาย ๆ แห่งนั้นตรงกับช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้เพิ่มความงดงามเข้าไปอีก โดยเวลาที่เหมาะสมจะไปชมน้ำตกพร้อมใบไม้เปลี่ยนก็คือราวเดือนตุลาคม การเดินทางส่วนใหญ่จำเป็นต้องขับรถเข้าไปที่น้ำตก แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย
ในครั้งนี้เราได้ไปเยือนน้ำตก 2แห่ง ซึ่งอยู่ในเขต Mt CHOKAI ทั้งคู่ (ดูแผนที่สีน้ำตาล)
MOTO WATERFALL : ขับรถจากสถานี AKITA SHINKANSEN ราว 1 ชั่วโมง
HOTTAI WATERFALL : ขับรถต่อจาก MOTO WATERFALL ราว 30 นาที
2nd reason
ภูเขาอันกว้างใหญ่ไพศาล
ในพื้นที่ของจังหวัด AKITA มีภูเขาที่สวยงามทุกฤดูอยู่หลายแห่ง และหนึ่งในภูเขาที่เราได้ไปเห็นด้วยสองตาและประทับใจสุด ๆ ก็คือ Mt Chokai นั่นเอง เป็นภูเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นฟูจิแห่งทางเหนือเลยทีเดียว ด้วยรูปร่างที่ละท้ายคล้ายฟูจิซังอยู่ไม่น้อย โดยในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเข้าฤดูหนาว ยอดของเขา CHOKAI จะมีหิมะปกคลุมเป็นหมวกเหมือนกับฟูจิด้วย
การเที่ยว Mt Chokai ทำได้หลายวิธี ทั้งการปีนเขาในฤดูร้อน หรือการชมจากระยะไกล ซึ่งรอบ ๆ ภูเขาก็มีเส้นทางขับรถเที่ยว ฟาร์มต่าง ๆ จุดชมวิว ร้านกาแฟน่ารัก ๆ ให้บริการอยู่หลายแห่ง จะนั่งจิบกาแฟชมภูเขาไปก็เป็นไอเดียที่ดีไม่หยอก
หุบที่สองที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กันคือ OYASU valley แต่เป็นคนละอารมณ์กันเลยทีเดียว หุบเขาโอยาสุ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมาก ๆ บริเวณที่โด่งดังมีลักษณะเป็นหน้าผาริมคลอง แต่ที่พิเศษคือน้ำที่ไหลนั้นเป็นน้ำพุร้อน มีอุณหภูมิและแร่ธาตุสูงมาก ทำให้มีไอพวงพุ่งตลอดเวลา เราสามารถเที่ยวโดยการเดินลงไปในร่องเขาแล้วเดินชมความงามเลียบควันที่ล่องลอยได้
เราสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ทั้งทางรถบัสและรถยนต์ส่วนตัว แต่แนะนำว่าใช้รถส่วนตัวสะดวกกว่ามาก
3rd reason
ทะเลสาบที่ใสกระจ่าง
ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดคือทะเลสาบ TAZAWA นอกจากจะเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแล้ว ยังเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในประเทศอีกด้วย ด้วยความลึกถึง 423.4 เมตร รอบ ๆ ทะเลสาบมีจุดท่องเที่ยวกระจายตัวกันหลายแห่ง ที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือ รูปปั้น Tatsuko รูปปั้นหญิงสาวสีทอง ซึ่งเป็นเรื่องเล่าว่า ทะเลสาบนี้ใครได้ดื่มน้ำเข้าไปจะคงความงามได้อย่างอมตะ แต่ห้ามดื่มเกิน 3 อึก แต่เธอฝ่าฝืน จึงโดนสาบกลายเป็นรุปปั้นอยู่ที่นี่ ท่ามกลางวิวที่สวยงามสุดบรรยาย นำ้ในทะเลสาบใสมากถึงมากที่สุดมีปลานับร้อยนับพันว่ายวนเวียนอยู่ริมทะเลสาบดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก
การเดินทางนอกจากขับรถมาเที่ยวแล้ว ยังสามารถนั่งรถบัสมาจากสถานี JR Tazawako Station ใช้เวลาราว 30 นาที (บริเวณพื้นที่สีม่วงในแผนที่)
4th reason
ย่านซามูไรและสวนเก่าแก่
ที่ AKITA นั้นในอดีตเคยเป็นแหล่งที่ตั้งของชุมชนซามูไรที่ใหญ่โตเอามาก ๆ ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่ยังมีการปกครองในรูปแบบโชกุนอยู่ และถึงแม้ระบบโชกุนจะถูกยกเลิกไปแล้ว บ้านเรือนเก่าแก่ของตระกูลซามูไรทั้งหลายก็ยังคงถูกเก็บอนุรักษ์เอาไว้อย่างดี โดยบ้านทุกหลังจะแสดงชื่อสกุลของตระกูลซามูไรนั้น ๆ และมีการแบ่งโซนเป็นบ้านซามูไรชั้นสูง ชั้นกลาง และชั้นผู้น้อย หลาย ๆ หลังเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชม โดยเก็บค่าเข้าชม 300-500 เยน
เราสามารถเช่าชุดยูกาตะเพื่อเดินชมแบบเข้าถึงบรรยากาศอย่างที่สุดได้ โดยเสียค่าเช่าเล็กน้อย บริเวณนี้จะงดงามที่สุดในช่วงราวเดือน พฤศจิกายน ที่ใบไม้แดงสวยงาม และราวเดือน เมษายน ที่มีซากุระ
นอกจากนี้ไม่ไกลนักสวน IKEDA ตั้งอยู่ในเขตเมือง DAISEN สวนสวยแห่งนี้เป็นสวนของตระกูล IKEDA ตระกูลเก่าแก่ของพื้นที่แถบนี้ ซึ่งท่าน IKEDA รุ่นก่อนได้ทำคุณประโยชน์มากมายแก่ชาวบ้านแถบนี้ ที่เห็นชัดเจนคือการเปิดโรงเรียนสอนขึ้นที่พื้นที่สวนแห่งนี้
ในสวนมีการจัดตกแต่งแบบญี่ปุ่นไว้อย่างงดงาม ทั้งยังมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชื่นชมอีกด้วย โดยจุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือมีตะเกียงหินขนาดใหญ่ตั้งประดับอยู่ในสวนอีกด้วย
5th reason
แหล่งน้ำพุร้อนชื่อดัง
AKITA มีแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังที่เป็นที่นิยมของซามูไรในยุคนั้น นั่นคือ นิวโตออนเซน หรือน้ำพุร้อนสีน้ำนมที่มีลักษณะขุ่นจากแร่ธาตุจำนวนมากที่ผสมในน้ำนั่นเอง ซึ่งในบริเวณนิวโตออนเซนนั้นเองก็มีบ่อน้ำพุร้อนให้บริการอยู่มากมาย ในทริปนี้เราไปเยือน 2 แห่งคือ
KUROYU ONSEN ออนเซนน้ำนมชื่อดังที่โด่งดังในเรื่องน้ำที่มีคุณภาพสูง และวิวทิวทัศน์ใบไม้สีแดงที่งดงามเกินบรรยาย โดยช่วงเดือนตุลาคมจะเป็นช่วงที่ใบไม้สีสวยงามมากที่สุด นอกจากนี่ที่นี่ยังมีบ่อแบบแช่รวมชายหญิงที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในประเทศอยู่ด้วย
TSURUNOYU ONSEN ออนเซนเก่าแก่ที่คุณภาพของน้ำเป็นน้ำนมเช่นเดียวกัน จุดเด่นของที่นี่คืออาคารบ้านเรือนที่เก่าแก่ถูกอนุรักษ์ไว้เหมือนเมื่อสมัยหลายร้อยปีก่อนไม่มีผิด แถมไม่มีไฟฟ้าให้ใช้อีกด้วย เป็นออนเซนเก่าแก่ที่หาไม่ได้อีกแล้วในญี่ปุ่น ด้วยความพิเศษนี้เอง ทำให้ต้องจองล่วงหน้ากันเป็นปีเลยทีเดียว
ลองเข้ามาสัมผัสออนเซนที่นี่ดูแล้วจะเสมือนย้อนอดีตไปในยุคซามูไรเลยทีเดียว ไม่ต้องห่วงว่าจะจองที่พักไม่ทัน เพราะแม้ไม่ได้พักที่ออนเซนเหล่านี้ก็ยังสามารถจ่ายเงินเข้าไปใช้บริการแช่น้ำได้ในราคาไม่แพง
6th reason
อาหารขึ้นชื่อ
ในอาคิตะนั้นมีอาหารขึ้นชื่ออร่อย ๆ มากมายเลยทีเดียว ที่มีชื่อดังมาก ๆ ก็คือ สาเก เพราะที่อาคิตะมีข้าวที่ดี มีน้ำที่สะอาดและอร่อย และมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ทำให้สามารถทำสาเกรสชาติดีได้ โดยโรงงานสาเกที่นี่ก็มีชื่อเสียงในระดับประเทศ
เส้นอุด้งที่นี่ก็ถือเป็นอุด้งที่อร่อย 1 ใน 3 ของประเทศ นั่นคือ INANIWA UDON คืออุด้งเส้นเล็กนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นอุด้งที่คนญี่ปุ่นดั้นด้นมาไกลเพื่อมากินกันเลยทีเดียว ฉะนั้นถ้าไปถึงถิ่นแล้วอย่าพลาด
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือมิโซะ ที่ AKITA มีโรงทำมิโซะชื่อดัง YAMAMO MISO ที่ดูแลบริหารงานโดยคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง Mr TAKAHASHI ทำให้มิโซะไม่ได้เป็นเพียงแค่มิโซะธรรมดาแบบที่เราเคย ๆ รู้จัก เพราะเค้ามีแลบไว้ทดลองทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่นใส่เนื้อวัวเข้าไปในมิโซะทำให้เอามาคลุกข้าวทานได้เลย หรือการคิดต้นกลิ่นและรสใหม่ ๆ นั่นเองทำให้เราขนานนามเขาว่า MISO DESIGNER
เราสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ YAMAMO ได้ในร้านค้าต่าง ๆ ทั่วอาคิตะ
7th reason
วัฒนธรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่อาคิตะก็เหมือนเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่นที่มีเทศกลเฉพาะถิ่นอยู่อย่างมากมาย รวมถึงวัฒนธรรมที่ก่อกำเนิดจากที่นี่ก็มีหลายอย่าง แต่ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุดก็ไม่พ้น NAMAHAGE นั่นเอง
NAMAHAGE เป็นวัฒนธรรมประจำปีใหม่ของถิ่นนี้ โดยจะทำกันมากในเมือง OGA ทางตะวันตกของ AKITA ดดยในวันปีใหม่ จะมีผู้ใหญ่ใส่ชุดยักษ์หน้าตาน่ากลัว เดินเข้าไปในบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ และพยายามจะจับเด็ก ๆ ที่ขี้เกียจและซน
การละเล่นแบบนี้เป็นการสอนเด็ก ๆ ไปในตัว เพราะเมื่อยักษ์จู่โจมเสร็จแล้วก็จะมีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ ต้อนรับด้วยโมจิและ สาเก พร้อมทั้งคำสั่งสอนข้อคิดดี ๆ ก่อนที่จะลากลับ โดยยักษ์สีแดงเป็นยักษ์ชาย และยักษ์สีน้ำเงินคือยักษ์หญิง
นอกจากนี้ยังมีการใส่ชุดยักษ์นี้ทำการละเล่นตีกลอง ซึ่งเป็นการแสดงที่ดุดันและสนุกสนานมาก ๆ
8th reason
ชายฝั่งและพระอาทิตย์ตกสุดตรึงใจ
ทางตะวันตกของจังหวัด AKITA ติดกับทะเลญี่ปุ่นเป็นระยะทางยาวหลายสิบกิโลเมตร ทำให้ที่นีเป็นหนึ่งในสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากที่สุดในญี่ปุ่น ตลอดชายฝั่งนั้น ทิวทัศน์ต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปตามภูมิประเทศ ถ้าขับรถเที่ยวไปพลาง หยุดชมวิวไปพลางจะเป็นการขับรถที่อยู่ในความทรงจำแน่นอน
AKITA ยังมีอะไร ๆ ให้ค้นหาอีกมากมาย และเราวางแผนจะไปสำรวจอีกครั้งแล้ว ฉะนั้นคอยหน่อย แล้วเราจะนำเอา AKITA ในฤดูอื่น ๆ มาเสนออย่างแน่นอน
อย่าลืมจองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่น กับTraveloka ตามลิงค์นี้ได้เลยนะ https://www.traveloka.com/th-th/flight-to-japan