Kawagoe เมืองเก่าสุดน่ารัก ช็อปไม่อั้น เดินทางง่าย by ANA x Prince hotel

6012

ญี่ปุ่น เมืองที่ชาวไทยนิยมชมชอบไปเยือนมากที่สุด  โดยเฉพาะมหานครโตเกียวที่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมบินไปลงที่นี่กัน เพราะว่าสะดวกสบาย มีเที่ยวบินหลากหลาย  แถมในโตเกียวและรอบ ๆ ก็มีที่เที่ยวมากมายแบบนับไม่ได้

แต่ถ้าใครอยากจะไปชมอะไรใหม่ ๆ ใกล้ ๆ โตเกียวแล้วล่ะก็  เราขอเสนอแนะเมืองเก่าโบราณที่ชาวญี่ปุ่นเค้าขนานนามว่า Little EDO หรือเอโดะน้อย กัน

เมืองนั้นคือเมืองเก่า KAWAGOE  นั่นเอง

เมืองนี้มีอะไรดี ทำไมต้องไป และเดินทางยังไง พักที่ไหน กินอะไร เที่ยวแล้วเจออะไรบ้าง เราจะพาไปหาคำตอบกับที่บทความนี้เลย


KAWAGOE มีอะไรดี ? ตั้งอยู่ตรงไหน 

เมืองเก่าแก่ในจังหวัดไซตามะ ติดกับกรุงโตเกียว  เป็นที่ตั้งของบ้านและโกดังของพ่อค้าในสมัยก่อน ตั้งเรียงราย  กันตลอดสองข้างทางราวกับกำลังย้อนไปในอดีต บางครั้งเราก็จะเห็นคนเดินเล่นไปทั่วเมืองในชุดกิโมโนช่วยเพิ่มบรรยากาศย้อนยุคได้ดียิ่งขึ้น ที่นี่เราจะรู้สึกราวกับว่าได้เดินทางย้อนกลับไปในสมัยเอโดะโบราณ รวมถึงได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแท้ ๆ ซึ่งไม่สามารถพบเห็นได้ในโตเกียว

นอกจากบ้านเรือนที่แสนสวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารขึ้นชื่อมากมายหลายอย่างสมกับเป็นเมืองเก่าแก่ โรงแรมชั้นดีมากมายก็มีให้เลือกพักแทบจะทุกสไตล์  ที่ช็อปปิ้งก็มี เรียกว่าใช้เป็นฐานที่มั่นก่อนกลับไทยก็ยิ่งดี เพราะมีรถบัสวิ่งตรงจากสถานี HONKAWAGOE กลับสนามบินเลย


การเดินทาง

วันนี้เราขอเสนอแนะการไปทริปแบบบินสะดวกลงสบาย เดินทางถึงเมือง KAWAGOE  ได้แบบไม่ต้องต่อรถ ลงสนามบินปุ๊บ รถรับถึงหน้าโรงแรมเลย หรือจะเลือกพัก KAWAGOE วันกลับก็สะดวกสบายเช่นกัน

จากผังการเดินทางจะเห็นว่า ถ้าเราไปหรือกลับจากสนามบิน HANEDA จะเดินทางไปที่ KAWEGOE ได้ค่อนข้างง่ายกว่า NARITA  โดยเฉพาะถ้าเรานั่งรถบัสจะมีรถบัสวิ่งตรงจาก HANEDA ไปที่สถานี Honkawagoe เลย ใช้เวลาราว  75 – 90 นาทีแล้วแต่สภาพการจราจร ( ระยะทางราว 65 กิโลเมตร )

ฉะนั้นเราจึงเลือกเดินทางลงที่ Haneda เนื่องจากเดินทางสะดวกกว่ามากนั่นเอง และในช่วงไม่กี่ปีมานี้ Haneda ได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ สนามบินทันสมัยขึ้นมาก และหลาย ๆ สายการบินก็เลือกที่จะบินลง Haneda มากกว่า

ถ้าให้แนะนำสายการบินที่มีเที่ยวบินลงที่ Haneda มากที่สุด ก็ต้องสายการบินเจ้าถิ่นอย่าง ANA (  ออล นิปปอน แอร์เวส์ )  เลย เค้ามีรอบบินไปลงที่โตเกียวถึงวันละ 5 เที่ยวบิน และใน 5 เที่ยวบินนี้เป็นการลง Haneda ถึง 3 เที่ยวบินต่อวัน  เรียกว่าจะชอบบินช่วงกลางคืน กลางวัน ถึงเช้าหรือเย็น เค้าก็มีให้เลือกหมดเลย สะดวกสบายสุด ๆ

ตารางบิน:  31 มีนาคม 2019   – 26 ตุลาคม 2019

BANGKOK >> TOKYO
    Departure   Arrival
NH848 BKK 9:35 HND 17:55
NH850 BKK 21:45 HND 5:55
NH878 BKK 13:55 HND 22:15
NH806 BKK 6:45 NRT 15:00
NH808 BKK 0:20 NRT 8:40

 

TOKYO >> BANGKOK
    Departure   Arrival
NH849 HND 0:05 BKK 4:35
NH847 HND 11:05 BKK 15:40
NH877 HND 0:55 BKK 5:25 1/06/19-26/10/19
NH1925* HND 23:35 BKK 4:05 31/03/19-30/05/19
NH805 NRT 18:25 BKK 23:10
NH807 NRT 17:00 BKK 21:40
*หมายเลขเที่ยวบินแทน  NH877

 

นอกจากนี้เค้ายังมีเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นกว่า 40 เส้นทาง ด้วยนะ บินเยอะมากจริง ๆ

ข้อดีสุด ๆ อีกอย่างหนึ่งของ ANA ก็คือ เค้าให้น้ำหนักกระเป๋าสำหรับชั้นประหยัดถึง 23 กิโลกรัม สองใบ หรือรวม 46 กิโลกรัมทีเดียว ให้เยอะมาก ๆ สำหรับเส้นทางญี่ปุ่น  ใครเป็นขาช็อปนี่ถูกใจแน่นอน

สำหรับจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ ANA คือ อาหารบนเครื่องนั่นเอง เพราะเค้าใส่ใจกับอาหารแทบจะทุกอย่าง ตั้งแต่จานหลักที่ได้รับการโหวตมาอย่างดี ซุปผักรสอร่อย เครื่องดื่มสูตรพิเศษ  ไปจนเรื่องเล้ก ๆ อย่างลูกอมหลากรส

ข้อมูลเพิ่มเติม

ฝ่ายสำรองที่นั่ง     02-238-5121

Website:   www.ana.co.jp/wws/th/t/


แนะนำที่เที่ยว – กิน 


หอโทคิโนะคาเนะ

หอระฆังชื่อดังของเมืองที่ตั้งอยู่ใใจกลางของถนนเมืองเก่าที่ชื่อ คุราซึกุริ  หอระฆังเคยถูกไฟไหม้ในปี 1893 ก่อนจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่เป้นแบบปัจจุบัน โดยเค้ายังคงใช้งานหออยู่ด้วยนะ ตีระฆังวันละ 4 เวลาคือ  06:00, 12.00, 15.00, 18:00


ถนนคุราซุคุริ

ถนนหลักของเมืองที่อดีตเคยเป็นแถบคลังสินค้าเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยเอโดะ  อาหารบ้านเรือนตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความเฉพาะตัวในแบบ ‘คลังสินค้าญี่ปุ่น’อย่างสง่างาม  ตลอดระยะทางประมาณ 400 เมตร  เต็มไปด้วยอาคารที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยเมจิ (ปี 1868 –1912) หลังจากเกิดไฟไหม้รุนแรงขึ้น อาคารเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อป้องกันไฟไหม้โดยเฉพาะ จึงออกมาหน้าตาแบบที่เราเห็น ๆ กันอยู่นี่แหละ

ปัจจุบันส่วนใหญ่ของอาคารที่ได้รับการแปลงเป็นร้านขายของที่ระลึก หรือไม่ก็ร้านอาหารต่าง ๆ เป็นบริเวณที่เดินเล่นได้สนุกจนลืมเวลาเชียวแหละ


ย่านคาชิย่า โยโกโช

“ย่านคาชิย่า โยโกโช” (Penny Candy Alley) เป็นอีกหนึ่งตรอกที่ห้ามพลาดเลย  เพราะตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายลูกกวาดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมถึง 22 ร้าน   ใครเคยดูหนังหรือละครญี่ปุ่นเก่า ๆ ก็จะคุ้นเคยกับบรรยากาศร้านค้าแบบนี้เป็นอย่างดี ( ใครนึกภาพไม่ออก ลองย้อนดูโดเรม่อนก็ได้ )  ร้านขายขนมที่มีเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นโบราณแบบนี้เหลืออยู่ไม่มากแล้ว ใครมาคาวาโกเอะห้ามพลาดเด็ดขาด


ชิมอาหารหลากรสจากมันม่วง

อาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของ KAWAGOE ก็คือ อาหารที่ทำจากมันม่วงนั่นเอง ตลอดสองข้างทางของถนนจะมีร้านค้านับสิบ ๆ แห่งที่นำเอาเจ้ามันม่วงทานอสนี่ไปแปรรูปเป็นอาหารหรือขนมต่าง ๆ ทั้งเอามาทอด เอามาทำเป็นไส้ขนม นำไปผสมไอศกีม ทำพุดดิ้ง  ผสมลงไปในข้าว

แนะนำว่าให้ลองชิมร้านละนิดหน่อย จะได้กินได้หลาย ๆ อย่าง และเพลิดเพลินไปกับอาหารมันม่วงได้อย่างเต็มอิ่ม

อ่อที่เด็ดอีกอย่างคือที่นี่มีเบียร์ยี่ห้อท้องถิ่นชื่อ Coedo ( แปลตรง ๆ ว่า เมืองเอโดะน้อย สมญานามของเมือง Kawagoe นั่นแหละ )  เค้ามีหลากรสชาติมาก และรสที่โด่งดังที่สุดคือเบียร์มันม่วงนี่แหละ ใครเป็นสายดื่มก็ทดลองกันได้เลย


ที่พัก KAWAGOE PRINCE HOTEL

ที่พักของเราในทริปนี้ และดีจนต้องแนะนำต่อ นั่นคือ KAWAGOE PRINCE HOTEL นั่นเอง  ที่นี่มีความดีงามอยู่หลายอย่างเลย ไล่ตั้งแต่ทำเลที่อยู่ตรงสถานี HON KAWAGOE เลย คือไม่ใช่อยู่ใกล้สถานี แต่อยู่ตรงสถานีเลย รวมกันเป็นหนึ่งเดียว เดินลงจากรถไฟปุ้บ ถึงโรงแรมเลย สะดวกสบายแบบที่สุด  ที่สำคัญมีห้องและ SUPERMARKET อยู่ที่โรงแรมด้วยจ้า จะเดินซื้อเดินช็อปเยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะเอากลับมาแพ็คของที่โรงแรมได้เสมอ

ท่ารถบัสก็อยู่หน้าโรงแรม เราสามารถไปถาม INFORMATION CENTER (ที่อยู่หน้าโรงแรมอีกแล้ว หน้าโรงแรมนี้ต้องเป็นศูนย์กลางจักรวาลแน่นอน)  เรื่องซื้อตั๋วรถบัสได้เลย แนะนำว่าไปซื้อล่วงหน้าก่อนก็จะดี จะได้เลือกเวลาสวย ๆ ได้ รถบัสก็จะพาเราพุ่งตรงจากหน้าโรงแรมไปถึงสนามบิน HANEDA แบบชิล ๆ ยิ่งคอมโบกับตั๋วเครื่องบินของ ANA ที่สามารถโหลดกระเป๋าได้ 46 กิโล  ถูกใจขาช็อปแน่นอน

ความดีงามอย่างที่สองก็คือ ที่นี่นอกจากห้องแบบมาตรฐานแล้วยังมีห้องแบบญี่ปุ่นให้บริการด้วยนะ เรียกได้ว่าพักกันแบบเข้าบรรยากาศเมืองเก่าที่อยู่ไกลจากโรงแรมไปแค่ 600 เมตรได้ดีเลยทีเดียว  แถมห้องก็กว้างขวาง ในราคาเริ่มต้นที่ 12000 เยน / ห้อง ( ราว 4000 บาท ) ถ้ามีโปรโมชั่นก็อาจจะได้ราคาถูกกว่านี้อีกนะ

จองโดยตรงได้เลยที่ http://www.princehotels.com/kawagoe/

นอกจากนี้ใน LOBBY ของโรงแรมก็น่าสนใจ มีคาเฟ่เล็ก ๆ ที่มีขนมSignature ที่ทำจากชาเขียวขึ้นชื่อให้บริการ เบียร์ท้องถิ่น Coedo ก็มีขายนะ  แถมยังมีการตกแต่ง LOBBY เปลี่ยนไปทุก ๆ 4 เดือนให้ไม่น่าเบื่อ ในช่วงที่เราไปนั้นเค้าตกแต่งผนังด้วยผ้าห่อของลายต่าง ๆ สวยงามและดูเป็นญี่ปุ่นมาก ๆ ใครชอบอยากซื้อเป็นของที่ระลึกเค้าก็มีขายด้วยนะ

พูดถึงอาการ เค้ามีอาหารเช้าให้บริการฟรีด้วยนะ ปกติราคาอาหารเช้าอยู่ที่คนละ 2,000 เยน  2 คนก็ 4,000 เยนแล้ว ลองหักลบจากค่าห้อง 12,000 เยนก็ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว  ไลน์อาหารก็เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ดีงามมาก พวกข้าว กับข้าวมีพร้อม  วันที่เราไปมีเนื้อต้มแบบไม่อั้นด้วย พวกน้ำต่าง ๆ ก็มีให้เลือกเยอะมากเป็นสิบ ๆ ชนิด ทั้งน้ำผลไม้ นม น้ำอัดลม คุ้มค่ามากสำหรับอาหารเช้า

ห้องอาหารเค้าก็มีหลายที่นะ ที่เราไปลองก็ห้องอาหารจีน ที่เค้ามีเซทอาหารกลางวันแค่ 2,100 เยน มีอาหารจีนดัง ๆ ครบเลยทั้ง หูฉลาม  หมูทอดซอส กุ้งผัดพริก กุ้งทอด  ขนมจีบ  พร้อมชากาแฟ

และนั่นคือเมืองเล็ก ๆ  ที่เราขอแนะนำให้พักในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับจากญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราจะได้เดินเที่ยวสบาย ๆ บรรยากาศชิค ๆ น่ารัก ๆ ได้ซื้อของ แถมพุ่งตรงกลับสนามบินได้เลยสะดวกสุด ๆ  อย่าลืมคอมโบตั๋ว ANA ลงฮาเนดะกับนอนที่ PRINCE HOTEL  ล่ะ ฟินแบบสุด ๆ เลย