ญี่ปุ่น ดินแดนเกาะเล็กที่มีสิ่งที่น่าค้นหาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ เทคโนโลยี อาหารการกิน แฟชั่น ทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีความน่าสนใจอัดแน่นอยู่ในพื้นที่จำนวนไม่ใหญ่โตจนแทบจะทะลักออกมาเลยทีเดียว
และหนึ่งสิ่งที่เป็นที่สนใจของคนจากทั่วโลกนั่นก็คือ น้ำพุร้อน หรือ Onsen ( 温泉 ) นั่นเอง
วัฒนธรรมการแช่น้ำพุร้อนของญี่ปุ่นนั้นมีมาอย่างช้านานแล้วและค่อย ๆ แพร่ขยายเป็นที่รู้จักในวงกว้างในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ใคร ๆ ที่มาญี่ปุ่นก็อยากจะขอลองสัมผัสการแช่ออนเซนซักครั้งหนึ่งในเรียวกังที่พักแบบญี่ปุ่น แต่ปัญหาหนึ่งก็คือที่พักแบบเรียวกังที่มีออนเซนดี ๆ มักจะอยู่ไกลจากเมืองหลวงแบบโตเกียวน่ะสิ
ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอมาแนะนำเรียวกังที่มีออนเซนอันแสนสวยงาม แต่อยู่ใกล้กรุงกัน เพราะเรียวกังเหล่านี้อยู่ในจังหวัด GUNMA นั่นเอง
แล้วจังหวัด GUNMA อยู่ที่ไหนกันล่ะ ?
Gunma เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโตเกียว ห่างออกไปราว 140 กิโลเมตร หรือเอาให้เข้าใจง่าย ๆ เส้นทาง Tokyo – Gunma ก็เหมือน ๆ กัน เส้นทาง กรุงเทพ – พัทยา นั่นแหละ จะขับรถไปก็ไม่ไกล หรือจะนั่งรถไฟไปก็ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น สะดวกสบายมาก ๆ
วันนี้เราจะมาแนะนำเรียวกังในสามเมืองของจังหวัด Gunma คือ Minakami ,Ikaho , Kusatsu
การเดินทาง
Minakami จากสถานีโตเกียวเราสามารถนั่งรถไฟด่วน Shinkansen มาลงที่สถานี Jomo-Kogen ได้เลย จากนั้นการเที่ยวในเมืองจะใช้รถบัสหรือ Taxi แต่หากพักเรียวกังที่นี่ก็สามารถนัดรถของโรงแรมมารับได้เลย
Ikaho จากสถานีโตเกียวเรานั่งรถไฟด่วน Shinkansen ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถไฟไปที่สถานี Shibukawa แล้วต่อรถบัสเข้าเมือง Ikaho ราว 20 นาที
Kusatsu จากสถานีโตเกียวเรานั่งรถไฟด่วน Shinkansen ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถไฟไปที่สถานี Naganohara Kusatsu แล้วต่อรถบัสเข้าเมือง Kusatsu ราว 30 นาที
MINAKAMI
ที่ Minakami เป็นหนึ่งเมืองที่ขึ้นชื่อในเรื่องของธรรมชาติอันสวยสดงดงามไม่ว่าจะเป็นภูเขาใหญ่ ลำธารน้ำใส ป่าอันเขียวชอุ่ม ทั้ง ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงอย่างโตเกียวเลย ทำให้เรียวกังในเมืองนี้นั้นเป็นเรียวกังที่จะเห็นวิวธรรมชาติอย่างเต็มตาเต็มใจอย่างที่สุด เรียวกังที่เราขอแนะนำในเขตเมืองนี้ก็คือ
TSUMIKAN RYOKAN
การเดินทาง นั่ง Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Jomo-Kogen ต่อรถบัสอีก 15 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 15,000 เยน ต่อคน
เรียวกังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม ติดกับแม่น้ำ Tonegaea และสามารถมองเห็นภูเขา Tanigawadake ได้อย่างชัดเจน ทำให้เรารู้สึกสดชื่นตลอดเวลาที่ได้พักที่เรียวกังแห่งนี้
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ ห้องอาบน้ำที่ถูกประดับตกแต่งด้วยฝีมือของจิตรกรชื่อดัง Yamashita Kiyoshi ผู้ที่ได้รับฉายาว่าเป็นแวนโก๊ะแห่งแดนอาทิตย์อุทัย รวมถึงห้องอาบน้ำอื่น ๆ ทั้งออนเซนแบบเปิดโล่ง หรือออนเซนแอปเปิ้ล
แน่นอนว่าเรื่องอาหารก็พลาดไม่ได้เลย เนื่องจากมีชุดอาหารเย็นที่แสนอร่อย วันที่เราไปนี่เป็นอาหารปิ้งย่างที่อร่อยเอามาก ๆ เลยทีเดียว ราคาค่าอาหารเราสามารถเลือกรวมไปกับค่าห้องพักได้เลยตั้งแต่ตอนจอง
จุดเด่น : ห้องอาบน้ำที่มีเอกลักษณ์ ตั้งอยู่กลางธรรมชาติที่วิวสวยงาม
Takaragawa Onsen Osenkaku
การเดินทาง นั่ง Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Jomo-Kogen และต่อรถบัสราว 30 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 11,800 เยน ต่อคน
โรงแรมที่ตั้งอยู่กลางขุนเขาอันสวยงามและเงียบสงบ กับบ่อออนเซนที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ทั้งลำธารและน้ำตกรวมถึงเงาร่มไม้อันสุดแสนจะสบายตา โดยเฉพาะในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ใบไม้บริเวณออนเซนจะพร้อมใจกันเปลี่ยนจากสีเขียวสดชื่น เป็นสีแดงเพลิงงดงามสะดุดตาราวกับภาพฝันยามตื่นเลยทีเดียว
ออนเซนที่นี่มีจุดน่าสนใจอย่างหนึ่ง คือมีออนเซนรวม ชาย – หญิงให้บริการด้วย เป็นออนเซนรวมเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้ให้ถอดเสื้อผ้าลงไปโทง ๆ ทั้งที่ไม่สมัครใจหรอกนะ เพราะมีผ้าขนหนูให้บริการด้วยสำหรับท่านที่ต้องการปิดบังบางส่วน (มีทั้งชายและหญิงเลย ผู้หญิงจะเป็นกระโจมอกกันเลย) ฉะนั้นเราจึงเห็นครอบครัวชาวญี่ปุ่นเข้ามาแช่กันอย่างสนุกสนาน พ่อ แม่ ลูก ดูอบอุ่นและน่ารักเอามาก ๆ
อาหารที่น่าสนใจของที่นี่ก็ได้แก่ คาเรเขื่อน หรือแกงกะหรี่เขื่อนนั่นเอง เพราะแถบมินาคามินี้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องเขื่อน ฉะนั้นเขาก็เลยเอามาทำเป็นแกงกะหรี่ซะเลย เวลากินก็จัดการเจาะข้าวเป็นรูให้น้ำแกงไหลลงมาผสมกับข้าวแล้วก็ตักกินเลย ทั้งสนุกและอร่อย
จุดเด่น การแช่ออนเซนรวมท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี แกงกะหรี่เขื่อนที่น่าสนุก
Tofukaiseki Sarugakyo Hotel
การเดินทาง นั่ง Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Jomo-Kogen และต่อรถบัสราว 35 นาที ลงที่ป้าย Sarugakyo และเดินต่ออีก 10 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 17,000 เยน ต่อคน
เรียวกังที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันแสนงดงาม ด้านหน้าเป็นทะเลสาบสวยใส ล้อมรอบไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ดูสงบและแสนสวยงามอย่างที่สุด
เหมือนกับโรงแรมหลาย ๆ แห่งใน MINAKAMI ที่จุดขายคือความงดงามท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ แค่เปิดหน้าตามาก็จะได้วิวทิวทัศน์ที่ยากจะลืมเลือนแล้ว ยิ่งในช่วงอากาศดี ๆ ด้วยล่ะก็ นอกจากกลางวันจะสวยแล้ว กลางคืนก็ยังเห็นดาวน้อยใหญ่อย่างชัดแจ้งเสียด้วยสิ
ที่นับว่าเป็นจุดขายที่สำคัญของที่นี่ก็คือ ชุดอาหารเย็นและเช้า โดยเฉพาะชุดอาหารเย็นที่เน้นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเต้าหู้อันแสนโด่งดัง ดังขนาดไหนก็ให้ดูที่ชื่อเรียวกังได้เลย เพราะคำว่า TOFU บนชื่อโรงแรมก็แปลว่าเต้าหู้นั่นแหละ เป็นการตอกย้ำได้อย่างดีว่า มาที่นี่ ต้องลิ้มลองมื้อเด็ดจากเต้าหู้ถึงจะเรียกได้ว่ามาถึงที่
จุดเด่น : วิวท่ามกลางธรรมชาติ และอาหารที่ทำจากเต้าหู้
IKAHO
เมืองอิกาโฮ เป็นเมืองแสนสงบที่มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง บันไดหิน (ishidan gai) ที่ยาวกว่า 300 เมตร มีจำนวนขั้นถึง 365 ขั้น ระหว่างทางเรียงรายไปด้วยร้านค้าและโรงแรมมากมาย และสิ่งที่ทำให้โรงแรมเรียวกังของที่นี่พิเศษนั่นก็คือ พ่อน้ำพุร้อนทองนั่นเอง เนื่องจากน้ำแร่ที่นี่จะมีสีออกน้ำตาลทองเพราะมีแร่ธาตุผสมอยู่ โดยมีความเชื่อว่ามีสรรพคุณรักษาโรคและอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ได้อย่างดี ทำให้กลายเป็นของขึ้นชื่อมากที่สุดของเมืองนี้เลยทีเดียว โดยเรียวกังที่เราแนะนำในเมืองนี้ก็ได้แก่
KOKUYA RYOKAN
การเดินทาง นั่ง Joetsu Shinkansen ลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถไฟไปที่สถานี Shibukawa แล้วต่อรถบัสเข้าเมือง Ikaho ราว 20 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 14,000 เยน ต่อคน
Website : http://www.kokuyaryokan.com/english/index.html
อย่างที่ได้เปรยไปแล้วว่าจุดเด่นที่สำคัญที่สุดของเรียวกังที่นี่ก็คือ Onsen ทองนั่นเอง ที่นี่มีออนเซนทองให้ใช้บริการอย่างเต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นบ่อ Indoor หรือ Outdoor หรือหากชอบความเป็นส่วนตัวก็มีบ่อในห้องพักให้บริการอีกด้วย และอีกทีเด็ดก็คือวิวอันแสนสวยงามของเมือง IKAHO ที่เราสามารถมองไปสุดลูกหูลูกตาได้ระหว่างกำลังเพลิดเพลินกับการแช่ออนเซน
ห้องพักนั้นก็จะมีทั้งแบบญี่ปุ่นและห้องแบบ Japanese modern ให้เลือก โดยหากเป็นห้องที่มี Onsen ให้บริการในห้องก็จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็คุ้มค่าถ้าคิดว่าแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัว
สำหรับอาหารของที่นี่ก็จะใช้วัตถุดิบที่ผลิตจากในบริเวณเมือง Ikaho นำมาปรุงเป็นอาหารเย็นมื้อพิเศษ โดยห้องจัดเลี้ยงก็จะมีหลากหลายห้องทั้งขนาดเล็กและใหญ่ให้เลือกใช้บริการ
จุดเด่น : ออนเซนทอง
KUSATSU
เมืองที่โด่งดังในฐานะแหล่งน้ำแร่ชั้นดีที่มีการก่อตั้งมาอย่างยาวนานถือว่าเป็นเมืองออนเซนที่เก่าแก่ลำดับต้น ๆ ของประเทศเลยทีเดียว ที่นี่ถือว่ามีบ่อน้ำแร่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เรียกได้ว่า ทั้งปริมาณและคุณภาพนั้น ยากจะหาที่ไหนมาเทียบเคียงกับเมืองนี้ได้เลยในญี่ปุ่น
และแน่นอนว่าโรงแรมที่อยู่ในเมืองนี้ย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน เพราะอยู่ในแหล่งน้ำชั้นดีขนาดนี้ ฉะนั้นเราตามไปดูกันเลยว่าเราแนะนำโรงแรมไหนในเมืองนี้กัน
NAKAZAWA VILLAGE
การเดินทาง นั่งรถไฟด่วน Shinkansen ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถไฟไปที่สถานี Naganohara Kusatsu แล้วต่อรถบัสเข้าเมือง Kusatsu ราว 30 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 9,000 เยน ต่อห้อง
โรงแรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมืองนัก ถึงแม้ว่าจะห่างจากย่านกลางเมืองซักหน่อย แต่จุดเด่นของที่นี่คือบริเวณที่กว้างใหญ่ไพศาล มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ่อออนเซนที่มีขนาดใหญ่และหลายห้อง ส่วนกลางที่ใหญ่โต มีของให้เลือกซื้อจับจ่ายอย่างมากมาย หรือกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ทั้งโบวลิ่ง เกมตู้ กีฬาต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรม OURDOOR ที่เน้นการปีนป่ายต่าง ๆ ก็มีให้บริการ
ห้องพักก็มีหลากหลายรุปแบบ ตั้งแต่ห้องสไตล์ western ราคาไม่แพง ห้องญี่ปุ่นแบบมาจรฐาน หรือจะเลือกนอนแบบ Cottage เป็นกระท่อมกลางป่าก็มีให้บริการด้วย เหมาะกับการมาเที่ยวเป็นครอบครัวมาก ๆ เลย
ส่วนอาหารการกินก็หายห่วง เนื่องจากมีให้บริการในแบบบุฟเฟ่ ซึ่งอาหารในไลน์นั้นคุณภาพดีมากเลย ทั้งขาปู เนื้อวัว ซูชิ ซาซิมิ ในราคาที่ต้องบอกว่าไม่แพงเลย ( ประมาณ 4,000เยน )
จุดเด่น : กิจกรรมที่หลากหลาย เหมาะสำหรับครอบครัว
BOUNN
การเดินทาง นั่งรถไฟด่วน Shinkansen ไปลงที่สถานี Takasaki จากนั้นต่อรถไฟไปที่สถานี Naganohara Kusatsu แล้วต่อรถบัสเข้าเมือง Kusatsu ราว 30 นาที
ราคา เริ่มต้นที่ 18,000 เยน ต่อห้อง
website : http://www.hotelboun.com/english/
เรียวกังที่มีการออกแบบอย่างสวยงามผสมผสานความทันสมัยกับสไตล์แบบดั้งเดิม ออกมาเป็นดีไซน์เรียวกังที่ดูสวยงามไม่มากเกินไป และไม่สมัยใหม่จนเกินไป มีเอกลักษณ์ในตัวเองอย่างสูง โดยเฉพาะบริเวณโถงทางเดินที่มี open space เปิดโล่ง ทำให้รู้สึกโปร่งโล่งสบาย
แน่นอนว่าที่นี่ก็มีคุณภาพของน้ำที่ดีมากเช่นกัน มีออนเซนหลากหลายทั้งภายนอกและภายใน หรือห้องส่วนตัวก็มีให้บริการเช่นกัน
ด้วยความที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ทำให้สะดวกต่อการเดินย่านเมืองเก่า
จุดเด่น : การออกแบบที่โดดเด่น ใกล้ย่านกลางเมือง
และนั่นคือ 6 เรียวกังที่เราขอแนะนำให้หนีไปพักร้อนแช่น้ำให้สบายใจ ชอบที่ไหนเลือกได้ตามใจเลย และแน่นอนว่า เราจะไม่หยุดสำรวจสิ่งดี ๆ ในญี่ปุ่นอยู่แค่นี้แน่
