พูดถึงเมืองที่คนกรุงเทพนิยมไปเที่ยวมากที่สุดก็อาจจะมีชื่อของ พัทยา หัวหิน กาญจนบุรี เขาใหญ่ ลอยขึ้นมา แต่ถ้าเจาะจงไปว่าเมืองเก่า แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนที่เป็นที่รู้จักไปมากกว่าอยุธยาอย่างแน่นอน
อยุธยาเป็นเมืองหลวงเก่าของไทย มีโบราณสถานที่สำคัญตั้งเรียงรายอยู่อย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมืองโบราณสถานอันดับหนึ่งของไทยก็คงจะไม่ผิดนัก
วันนี้เราเลยจะมาลองแนะนำหนึ่งในโรงแรมที่ตั้งอยู่ในอยุธยา สำหรับคนที่มีแผนจะไปพักผ่อนรวมถึงเยี่ยมชมเมืองอยุธยาแบบค้างคืนดูบ้าง และโรงแรมที่เรากำลังพูดถึงก็คือ Kantary hotel อยุธยานั่นเอง
Kantary Hotel อยุธยา เป็นโรงแรมในเครือ Cape & Kantary hotel ที่มีสขากระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยยึดหลักเหมือนกันทุกโรงแรมในเครือว่า เป้นห้องกึ่ง service apartment มีขนาดใหญ่ มีครัว และเครื่องอำนวยความสะดวก แบบที่แทบจะเรียกว่าใช้ดำรงชีวิตอยู่จริง ๆ ได้เลย ไม่ใช่แค่มาพักผ่อนวันสองวัน
ตัวโรงแรมตั้งอยู่ในทำเลเมืองใหม่ ตรงข้ามห้องสรรพสินค้าใหม่อย่าง The sky เลยทีเดียว การเดินทางสะดวก เพราะจากกรุงเทพ ถ้าจะวิ่งเข้าอยุธยา ยังไงก็ต้องผ่านโรงแรมก่อนจะเข้าตัวเมืองเก่าอยู่แล้ว โดยใช้เวลาขับรถจากโรงแรมไปที่เมืองเก่าประมาณ 10 นาที
ทั้งบรรยากาศทั้งที่ตั้งที่อยู่กลางเมืองนั่นเองที่เป็นจุดเด่นของโรงแรมในเครือนี้ เพราะความรู้สึกเมื่อมาพักจะเหมือนอยู่บ้านหรือคอนโดมากกว่าโรงแรม ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากกว่า และยังเหมาะสำหรับการนำครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนอีกด้วย
ด้านราคาค่าที่พักนั้น อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป เริ่มต้นที่ 2,000 กลาง ๆ จนไปถึงห้องขนาดใหญ่ที่ 5,700 ( แต่ก็สามารถพักได้หลายคนกว่า ทำให้ราคาหารออกมาต่อคนแล้วก็ใกล้เคียงกัน )
การตกแต่งก็จะเป็นไปอย่างเรียบง่าย ด้วยโทนสีที่ดูสบายตา เน้นความเรียบ ไม่หวือหวา ไล่มาตั้งแต่ LOBBY ต้องรับที่มีบริเวณนั่งรับแขกค่อนข้างกว้างขวาง พร้อมอินเตอร์เนทฟรีให้บริการ ในบริเวณ Lobby ส่วนภายในห้องต้องจ่ายค่าบริการ
ห้องนั้นแบ่งเป็น 4 แบบ ไล่ตั้งแต่ Studio ที่ราคา 2,700 บาท แต่กับขนาดห้อง 46 ตารางเมตรถือว่าใหญ่ทีเดียว เทียบกับ Studio ของโรงแรมอื่น ๆ จะเห็นว่ามีราคารายเดือนด้วยที่เดือนละ 36,000 บาท เพราะว่าชาวต่างชาตินิยมมาเช่าระยะยาว เนื่องจากกว้างขวางและสะดวกนั่นเอง
ห้องแบบ One bedroom จะแยกห้องนั่งเล่นกับห้องนอนออกจากกันเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น ด้วยราคาที่ 3,400 บาท ซึ่งถ้านับว่าเพิ่มมา 700 บาทแต่ได้พื้นที่เพิ่มมาเป้น 74 ตารางเมตรแล้ว ก็คุ้มค่ามากทีเดียว
ห้องแบบ 2 bedroom แม้จะราคาแพงกว่าแบบอื่นที่ 5,700 บาท แต่เข้าพักได้ 4 คน ทำให้หารออกมาแล้วราคาแทบจะพอ ๆ กับแบบ Studio ด้วยซ้ำ แถมเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า 105 ตารางเมตรนั้นทำให้อยู่สบาย ๆ ทั้งครอบครัว เสมือนอยู่บ้านเลยทีเดียว
และสุดท้ายกับห้องพิเศษแบบ Penthouse ที่แม้จะราคา 3,900 และได้พื้นที่ 74 ตรม เท่ากับแบบ one bedroom แต่ความพิเศษก็คือเล่นระดับฝ้าเพดานเป็น Double space ทำให้ดูกว้างขวางโปร่งโล่งสบายเป็นที่สุด เหมาะสมที่จะใช้พักผ่อนสองคนแบบหรูหรา หรือจะใช้ฮันนีมูนก็เข้าท่าไม่หยอก ห้องแบบนี้มีแค่ 4 ห้องเท่านั้น แถมอยู่ชั้นบนของโรงแรมด้วย ทำให้เห็นวิวเมืองอย่างสวยงาม
ห้องทั้งสี่แบบสามารถเช่าแบบรายเดือนได้ทั้งหมด น่าจะเหมาะสำหรับคนที่มาทำงานเป็นระยะเวลา 1-2 เดือนทีเดียว เพราะมีทั้งครัวและเครื่องซักผ้าให้บริการอีกด้วย
ส่วนบริเวณส่วนกลางนั้นมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องอาหารให้บริการอย่างครบครับ โดยที่ชั้น 16 จะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำลอยฟ้า จากุชชี่ ฟิตเนส และยังมีห้องกว้างสำหรับทำงาน นั่งเล่น และนัดพบปะให้บริการอีกด้วย พร้อมบริการขนมและกาแฟ ฉะนั้นช่วงบ่าย ๆ หลังจากเหนื่อย ๆ จากการเยี่ยมชมเมืองเก่า จะกลับมานั่งพักชมวิวมุมสูงพร้อมจิบกาแฟไปก็ได้ หรือช่วงเย็น ๆ แดดร่มลมตกจะลงไปว่ายน้ำออกกำลังกายก็สบายดีไม่หยอก
นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมสัมนาให้เช่าสำหรับกลุ่มประชุมของบริษัทอีกด้วย โดยอยู่บริเวณที่ชั้นสองของโรงแรม จุคนได้นับร้อยทีเดียว
ส่วนของร้านอาหาร เป็นจุดเด่นอีกอย่างนึงของที่นี่ โดยร้านอาหารหลักคือ The California Steak Restaurant ที่เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าไปจนมืดเลยทีเดียว โดยปกติจะให้บริการอาหารฝรั่ง ญี่ปุ่น และไทยเป็นทั้งแบบอาหารจานเดียวและเป็นกับข้าวด้วย แต่ที่นี่ขึ้นชื่อด้านเนื้อเสต็กทั้งหลาย ทั้งเนื้อ หมู ไก่ ฉะนั้นถ้าไปถึงอย่าลืมลองเมนูเด็ดของที่นี่ล่ะ
และในบางวัน ทางห้องอาหารก็จะมีเทศกาลอาหารต่าง ๆ วนกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลอาหารญี่ปุ่น เทศกาลสลัด เทศกาล เสต็ก เทศกาลอาหารเกาหลี ถ้ามาพักแล้วอย่าลืมสอบถามพนักงานว่าช่วงนี้เป็นเทศกาลอะไร จะได้ไปลิ้มลองได้ถูกต้อง อย่างตอนเราไปเป็นเทศกาลสลัด
หรือถ้าอยากสั่งอาหารไปทานที่ห้องก็โทรสั่งที่ห้องอาหารได้เลย ราคาค่าอาหารที่นี่ไม่ได้แพงมาก ตกที่จานละ 100 กว่าบาท แต่ถ้าเป้นจายปลาหรือเนื้อก็อาจจะแพงกว่านี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ในเรทที่ไม่แพงจนเกินไป
นอกจากอาหารคาวแล้ว ที่นี่ยังมี Cafe ให้บริการขนมหวานต่าง ๆ รวมถึงอาหารมื้อ Brunch อีกด้วย โดย Cafe ที่นี่ถือว่าขึ้นชื่อมากทีเดียวในจังหวัดอยุธยา โดยขนมหลัก ๆที่ขึ้นชื่อก็เช่น Toast ชนิดต่าง ๆ รวมถึงเค้ก ขนมปังหลากหลายด้วย
และแน่นอนว่าราคาขนมต่าง ๆ ของที่นี่ก็ย่อมเยาว์ แถมยังอร่อยอีกด้วย โดยเค้กทั่วไปอยู่ที่ไม่ถึง 100 บาท
บรรยากาศในคาเฟ่ก็น่ารักน่านั่ง ทำให้มีชาวอยุธยาแวะมาใช้บริการค่อนข้างมาก ถ้าอยากได้อารมณ์สงบ ๆ ให้มาก่อนเที่ยง หรือไม่ก็ช่วงบ่าย ๆจะดีกว่า
โดยรวมแล้ว Kantary Hotel อยุธยา เป็นที่พักที่ราคาเหมาะสม ห้องอาหารดีและราคาไม่แพง ห้องกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ
+ ห้องกว้างมากเมื่อเทียบกับราคา
+ อาหารหลากหลายและราคาไม่แพง
+ ใกล้ตัวเมือง สะดวกกับการซื้อของ
– ไกลเมืองเก่าเล็กน้อย แต่ถ้ามีรถก็ไม่ลำบากเท่าไหร่ ใช้เวลาขับประมาณ 10 นาที
ครั้งหน้าถ้าไปอยุธยาก็อย่าลืมลองไปพักที่นี่กันล่ะ รับประกันว่าคุ้มค่าเงินแน่นอน